หน้าไม่เท่ากัน ยกหน้าให้ดูสมส่วนขึ้น แก้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง เห็นผลไว

หน้าไม่เท่ากัน

ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้กับหลายคน เพราะนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติสมมาตรแล้ว ยังส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเองอีกด้วย บางคนอาจกังวลกลัวว่าคนอื่นเห็นเราหน้าเบี้ยวมั้ย หรือรู้สึกไม่พอใจกับรูปหน้าเวลาถ่ายรูป โดยเฉพาะเมื่อสังเกตเห็นความไม่สมดุลของใบหน้า เช่น กรามไม่เท่ากันหรือ คางเบี้ยว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ใบหน้าดูไม่เท่ากัน และอาจส่งผลต่อโหงวเฮ้งหรือลักษณะใบหน้าที่เชื่อกันว่าส่งผลต่อชีวิตและความเป็นอยู่

ปัญหานี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความสวยงาม แต่ยังกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน บางคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจเวลาสังสรรค์หรือทำงานร่วมกับผู้อื่น อย่างไรก็ตาม ด้วยนวัตกรรมความงามในปัจจุบัน การแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากัน ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ให้เสี่ยงหรือใช้เวลาพักฟื้นนาน การฉีดฟิลเลอร์ หรือใช้เทคโนโลยีอย่าง Ulthera และ Thermage สามารถช่วยปรับสมดุลใบหน้าได้อย่างตรงจุด และใช้เวลาพักฟื้นน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ดูดีขึ้น สมส่วนมากขึ้น และเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่ประสบปัญหา

KEY TAKEAWAY

  • หน้าไม่เท่ากันเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม การเจริญเติบโตที่ไม่เท่ากันของกระดูก การนอนตะแคงด้านเดียวซ้ำ ๆ หรือแม้แต่การเคี้ยวอาหารข้างเดียวเป็นเวลานาน
  • ปัญหาหน้าไม่เท่ากันมีวิธีการรักษาทั้งแบบผ่าตัดแก้ไขโครงสร้างใบหน้า หรือรักษาแบบไม่ผ่าตัด เช่น หัตถการยกประชับในกรณีที่หน้าไม่เท่ากันจากความหย่อนคล้อย และการฉีดสารเติมเต็มในจุดที่รู้สึกมีปัญหา
  • หัตถการหรือเทคโนโลยีที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากัน เช่น ฟิลเลอร์ Ulthera Thermage หรือ Ultraformer MPT
  • ที่ Infiniz Clinic นำโดยหมออู๋ แพทย์ผู้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากันเป็นอย่างดี สามารถวิเคราะห์ใบหน้าและเลือกหัตถการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผู้เข้ารับบริการแต่ละท่านให้ได้ใบหน้าที่สมมาตร พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้


ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน คืออะไร?

ปัญหาหน้าไม่เท่ากันคือ

หน้าไม่เท่ากัน คือภาวะที่ใบหน้าขาดความสมมาตรของโครงสร้างหรือเนื้อเยื่อบนใบหน้า ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างซีกซ้ายและซีกขวา บางคนอาจสังเกตเห็นความไม่เท่ากันได้ชัดเจน เช่น ตาไม่เท่ากัน หน้าเบี้ยว หรือปากไม่เท่ากัน ส่วนบางคนอาจไม่เห็นความแตกต่างชัดเจนในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อนำสัดส่วนของใบหน้าทั้งสองข้างมาเปรียบเทียบกัน ก็จะพบว่ามีความไม่สมมาตรกัน

แต่ก็ต้องเข้าใจว่าโดยธรรมชาติแล้ว ใบหน้าของมนุษย์เราไม่สมมาตรกันอยู่แล้ว แต่สำหรับบางคน ความไม่เท่ากันของใบหน้าอาจเห็นได้ชัดเจนจนส่งผลต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ทำให้รู้สึกว่าหน้าเบี้ยว หรือใบหน้าไม่สมดุล ซึ่งอาจสังเกตได้ง่ายเมื่อมองผ่านกระจกหรือถ่ายรูปหน้าตรง


หน้าไม่เท่ากันมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง?

ความไม่สมมาตรของใบหน้าเป็นเรื่องธรรมชาติที่พบได้ในมนุษย์ทุกคน แต่ในบางรายอาจมีความไม่สมดุลที่เด่นชัดจนส่งผลต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้หน้าไม่เท่ากันสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้

  • ทางพันธุกรรม โครงสร้างใบหน้าที่ไม่สมมาตรสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากบุคคลในครอบครัวมีลักษณะหน้าไม่เท่ากัน มีโอกาสสูงที่ลูกหลานจะได้รับลักษณะดังกล่าว ซึ่งอาจแสดงออกในรูปแบบของหน้าเบี้ยวไม่เท่ากันที่สังเกตเห็นได้ตั้งแต่วัยเด็กหรือเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยเจริญเติบโต
  • พัฒนาการของกระดูกใบหน้า การเจริญเติบโตของกระดูกใบหน้าแต่ละส่วนมีอัตราการพัฒนาไม่เท่ากัน บางจุดอาจเติบโตเร็ว ในขณะที่บางจุดเติบโตช้ากว่า ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของโครงสร้างใบหน้า ทำให้โหนกแก้มไม่เท่ากันโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างรวดเร็ว
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน กิจวัตรที่ทำซ้ำ ๆ เป็นเวลานานสามารถส่งผลต่อรูปร่างของใบหน้าได้ เช่น การนอนตะแคงด้านเดียวเป็นประจำทำให้หน้าเบี้ยวไม่เท่ากันในระยะยาว การขบฟันหรือกัดฟันขณะหลับ การเอียงคอหรือเท้าคางข้างเดียวเป็นเวลานาน และการเคี้ยวอาหารข้างเดียว ทำให้กล้ามเนื้อบดเคี้ยวพัฒนาไม่เท่ากันและแก้มไม่เท่ากัน
  • ความผิดปกติของขากรรไกร ปัญหาการสบฟันผิดปกติ (Malocclusion) หรือความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร (TMJ disorders) ส่งผลให้เกิดอาการหน้าเบี้ยวไม่เท่ากันที่มองเห็นได้ชัด
  • การรักษาทางทันตกรรม เช่น ถอนฟัน จัดฟัน หรือใส่ฟันปลอมที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลต่อโครงสร้างใบหน้าและทำให้เกิดความไม่สมมาตรได้ โดยเฉพาะการถอนฟันที่ไม่มีการทดแทนซึ่งอาจทำให้เกิดการยุบตัวของกระดูกขากรรไกร 
  • บาดเจ็บและอุบัติเหตุ การได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า เช่น กระดูกแตก ฟกช้ำ หรือแผลเป็น สามารถส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของใบหน้าได้อย่างถาวร 
  • ภาวะทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โรคปากเบี้ยว หรือภาวะอัมพาตของใบหน้าครึ่งซีก ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงและส่งผลให้หน้าเบี้ยวไม่เท่ากันอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีโรคคอเอียง ที่ส่งผลต่อการพัฒนาของกล้ามเนื้อและโครงสร้างใบหน้า
  • การกระจายตัวของไขมันใบหน้าไม่สม่ำเสมอ หากลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือการเพิ่มน้ำหนักที่ไม่สมดุล อาจทำให้ไขมันบริเวณใบหน้าสะสมไม่เท่ากัน
  • ริ้วรอยและความเสื่อมตามวัย เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและกล้ามเนื้อใบหน้าจะเริ่มหย่อนคล้อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นไม่เท่ากันในแต่ละด้าน 
  • การศัลยกรรมที่ไม่สมดุล การผ่าตัดหรือหัตถการเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น การฉีดฟิลเลอร์ ร้อยไหม หรือผ่าตัดตกแต่งโครงหน้า อาจส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของใบหน้า

เนื้อหาเพิ่มเติมที่น่าสนใจ: ฟิลเลอร์แก้มตอบ


หน้าไม่เท่ากันมีวิธีสังเกตอย่างไร?

สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่าตัวเองมีลักษณะหน้าเบี้ยวไม่เท่ากันมากน้อยเพียงใด แนะนำวิธีในการเช็กดูว่าหน้าไม่เท่ากัน ดังนี้

  1. สังเกตหน้าตัวเองผ่านกระจก : ให้มองใบหน้าตนเองในกระจกเป็นวิธีพื้นฐานที่สุด โดยควรยืนตรงในที่มีแสงสว่างเพียงพอ จากนั้นสังเกตความสมมาตรของใบหน้าโดยดูองค์ประกอบต่างๆ เช่น ตำแหน่งของคิ้ว ดวงตา จมูก และริมฝีปาก หากพบว่ามีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างสองข้าง อาจเป็นสัญญาณของภาวะหน้าเบี้ยวไม่เท่ากัน
  2. ถ่ายภาพหน้าตรงแล้วเอากระดาษปิดเช็กใบหน้า : ถ่ายภาพใบหน้าของคุณในแนวตรง ไม่ยิ้ม และไม่เอียงศีรษะ จากนั้นพิมพ์ภาพออกมาหรือดูบนหน้าจอ ใช้กระดาษปิดครึ่งใบหน้าด้านหนึ่ง แล้วสังเกตเปรียบเทียบกับอีกครึ่งที่เหลือ ทำซ้ำในอีกด้านหนึ่ง วิธีนี้จะช่วยให้เห็นความแตกต่างของใบหน้าทั้งสองข้างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  3. ใช้แอปพลิเคชันวิเคราะห์ความสมมาตรของใบหน้า : ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหลายตัวที่ออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์ความสมมาตรของใบหน้าโดยเฉพาะ แอปเหล่านี้จะใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าเพื่อวัดและเปรียบเทียบสัดส่วนต่าง ๆ พร้อมแสดงผลความไม่สมมาตรที่พบ

เนื้อหาเพิ่มเติมที่น่าสนใจ: ฟิลเลอร์คาง


บริเวณไหนที่ทำให้ใบหน้าไม่เท่ากัน?

หน้าไม่เท่ากันเกิดจากอะไร

องค์ประกอบหลักของใบหน้าที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าหน้าไม่เท่ากัน ได้แก่ กราม แก้ม โหนกแก้ม และขากรรไกร โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • กรามไม่เท่ากัน เป็นความไม่สมดุลที่พบได้บ่อยและมีผลต่อรูปลักษณ์ของใบหน้าอย่างชัดเจน ลักษณะกรามที่มีขนาดหรือรูปร่างแตกต่างกันระหว่างซ้ายและขวาทำให้ใบหน้าดูเบี้ยว โดยเฉพาะเมื่อ สาเหตุหลักมาจากการพัฒนาของกล้ามเนื้อบดเคี้ยวที่ไม่เท่ากัน 
  • แก้มไม่เท่ากัน ความแตกต่างของแก้มทั้งสองข้างมักเกิดจากการกระจายตัวของไขมันบริเวณใบหน้าที่ไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าส่วนกลางถึงส่วนล่างดูมีความอิ่มหรือแฟบแตกต่างกัน บางคนอาจมีไขมันแก้มด้านหนึ่งมากกว่าอีกด้าน หรือมีกล้ามเนื้อแก้มที่พัฒนาไม่เท่ากัน ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สมดุลโดยเฉพาะเมื่อยิ้มหรือแสดงอารมณ์
  • โหนกแก้มไม่เท่ากัน กระดูกโหนกแก้มเป็นโครงสร้างสำคัญที่กำหนดรูปร่างส่วนกลางของใบหน้า เมื่อกระดูกโหนกแก้มทั้งสองข้างมีขนาด ความสูง หรือตำแหน่งที่แตกต่างกัน จะส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สมมาตรอย่างชัดเจน 
  • ขากรรไกรไม่เท่ากัน ความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรทำให้เกิดความไม่สมมาตรที่ชัดเจน โดยอาจมีลักษณะคางบิดเบี้ยว คางสั้นหรือยาวผิดปกติในด้านใดด้านหนึ่ง

หน้าไม่เท่ากันมีวิธีการรักษาอย่างไร?

อาการหน้าไม่เท่ากันหรือหน้าไม่สมมาตรเป็นภาวะที่พบได้บ่อย โดยสังเกตได้จากความไม่สมดุลระหว่างซีกซ้ายและขวาของใบหน้า ซึ่งอาจเกิดจากโครงสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ หรือความหย่อนคล้อยของผิวที่ไม่เท่ากัน ปัจจุบันมีหัตถการทางการแพทย์ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด อาทิ

ฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์มีส่วนประกอบหลักคือกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติในร่างกาย การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มบริเวณที่มีปริมาณน้อยกว่าอีกด้านให้มีความสมดุล โดยแพทย์จะวิเคราะห์ความไม่สมมาตรของใบหน้า และฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับโครงสร้างให้สมดุล เช่น ฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ดูยุบ ตอบ หรือลึกโหลไม่เท่ากัน เสริมโหนกแก้มฝั่งที่แบน หรือฟิลเลอร์ร่องแก้มเติมเต็มร่องที่ลึกกว่า 

ข้อดีของฟิลเลอร์คือ ให้ผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องพักฟื้นนาน และสามารถปรับแต่งได้จนกว่าจะพอใจ แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือนขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และตำแหน่งที่ฉีด

Ulthera

Ulthera เป็นหัตถการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ศัลยกรรมที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านผิวหนังลงไปถึงผิวหนังชั้นลึกและกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวหน้ากระชับขึ้น ในกรณีที่ใบหน้าไม่สมมาตร หน้าไม่เท่ากันเนื่องจากกล้ามเนื้อหรือผิวหนังหย่อนคล้อยไม่เท่ากัน Ulthera สามารถชักนำให้เกิดการกระชับของเนื้อเยื่อได้อย่างจำเพาะเจาะจงในฝั่งที่หย่อนกว่า ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้นภายใน 2-3 เดือนหลังการรักษา และสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี 

ข้อดีคือ ไม่ต้องฉีดสารใด ๆ เข้าร่างกาย แต่อาจต้องใช้เวลารอผลลัพธ์นานกว่าการฉีดฟิลเลอร์

Thermage

Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับปรับรูปหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน โดยอาศัยหลักการของคลื่นวิทยุความแรงสูง (Monopolar RF) ส่งความร้อนลงไปถึงชั้นผิวหนังลึกเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ สำหรับปัญหาหน้าไม่เท่ากันเกิดจากผิวหนังหย่อนคล้อยมากกว่าด้านหนึ่ง Thermage สามารถช่วยกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยได้ ทำให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนภายใน 2-6 เดือน และสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี แต่ผลลัพธ์อาจไม่สามารถแก้ไขความไม่สมมาตรที่เกิดจากโครงสร้างกระดูกหรือกล้ามเนื้อได้อย่างสมบูรณ์

Ultraformer MPT

Ultraformer MPT เป็นเครื่องมือยกกระชับในกลุ่มเดียวกับ Hifu ที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์แบบ Focused Ultrasound เพื่อยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง โดยเฉพาะชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่สำคัญสำหรับการยกกระชับผิว เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย รอยย่น และปรับกรอบหน้าให้เรียวขึ้นได้


วิธีดูแลตัวเองป้องกันปัญหาหน้าไม่เท่ากัน

ป้องกันปัญหาหน้าไม่เท่ากัน

ถึงแม้ว่าปัญหาหน้าไม่เท่ากันหรือหน้าเบี้ยวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่ก็ยังสามารถดูแลและป้องกันปัญหาหน้าไม่เท่ากันด้วยวิธีแก้ธรรมชาติได้ โดยมีวิธีดูแลตัวเองป้องกัน ดังนี้

  • ปรับเปลี่ยนนิสัยการรับประทานอาหาร โดยหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารเพียงข้างใดข้างหนึ่ง และพยายามเคี้ยวอาหารสลับทั้งสองข้างเพื่อให้กล้ามเนื้อใบหน้าทำงานอย่างสมดุล
  • บริหารกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น ฝึกการออกกำลังกล้ามเนื้อใบหน้าด้วยการขยับปาก และทำการนวดใบหน้าเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  • หลีกเลี่ยงการนอนกดทับใบหน้าด้านใดด้านหนึ่งเป็นประจำ และใช้หมอนที่เหมาะสมเพื่อรองรับศีรษะและคอให้อยู่ในแนวตรง
  • ดูแลผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทำทรีทเมนต์บำรุงผิวที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่นและคอลลาเจน
  • ทำหัตถการความงาม เช่น ฉีดฟิลเลอร์เสริมโหงวเฮ้ง เพื่อเติมเต็มส่วนที่มีปริมาตรไม่เท่ากัน หรือ Ulthera Thermage และ Ultraformer MPTเพื่อกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ทั่วทั้งใบหน้า

สัดส่วนใบหน้าแบบไหนเรียกว่าสมมาตร

หนึ่งในเกณฑ์ที่นิยมใช้วัดความสมมาตรของใบหน้า คือทฤษฎี Golden Ratio หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ สัดส่วนทองคำของใบหน้า ซึ่งเป็นแนวคิดด้านความงามที่ถูกพูดถึงมานาน และใช้เป็นแนวทางในการประเมินความสมดุลของโครงหน้า โดยแบ่งใบหน้าออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ที่ควรมีขนาดใกล้เคียงกันในอัตรา 1:1:1 ได้แก่

  • ช่วงหน้าผาก (Upper Face) วัดจากแนวไรผมด้านบนสุดจนถึงส่วนหัวคิ้ว หากช่วงนี้ได้สัดส่วนที่ดี จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และเปิดเผย
  • ช่วงกลางใบหน้า (Mid Face) วัดตั้งแต่หัวคิ้วจนถึงปลายจมูก ส่วนนี้มีความสำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับดวงตาและจมูก ซึ่งเป็นจุดเด่นของใบหน้า
  • ช่วงล่างใบหน้า (Lower Face) วัดจากปลายจมูกจนถึงปลายคาง หากช่วงนี้มีความสมดุล จะช่วยให้โครงหน้าดูเรียวได้รูปและเสริมให้หน้าดูสมมาตรมากขึ้น

เมื่อทั้ง 3 ส่วนมีความยาวใกล้เคียงกัน หรือได้อัตราส่วนเท่ากันพอดี ใบหน้าจะดูสมดุลจากทุกมุมมอง และช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับโครงหน้า


เลือกคลินิกแก้ปัญหาหน้าไม่เท่ากันอย่างไร?

หน้าไม่เท่ากันฉีดอะไรดี

หน้าไม่เท่ากัน แก้ยังไง? คลินิกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีแนวทางการรักษาสามารถช่วยแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากันได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีมีประสิทธิภาพและเห็นผลเร็ว โดยวิธีการเลือกคลินิกให้ปลอดภัย ดังนี้

  1. พิจารณาจากประสบการณ์ของแพทย์
    • ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ประสบการณ์และมีความรู้เฉพาะทางด้านความงาม
    • ตรวจสอบประวัติการศึกษาและใบรับรองของแพทย์ที่ให้การรักษา
    • สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์การรักษาปัญหาความไม่สมมาตรของใบหน้าโดยเฉพาะ
  2. ประเมินความหลากหลายของเทคโนโลยีและทางเลือกการรักษา
    • คลินิกที่ดีควรมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยหลากหลายรูปแบบ
    • ควรนำเสนอทางเลือกการรักษาที่ครอบคลุม เช่น การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เทคโนโลยีกระชับผิว และการปรับโครงสร้างใบหน้า
  3. ตรวจสอบความสะดวกในการเดินทาง
    • ทำเลที่ตั้งควรเดินทางสะดวก อยู่ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า BTS หรือ MRT
    • มีเวลาเปิดให้บริการที่ยืดหยุ่นเพื่อให้สอดคล้องกับตารางเวลาของคุณ
  4. ตรวจสอบการรับรองมาตรฐานและความถูกต้องตามกฎหมาย
    • ตรวจสอบว่าคลินิกมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องพร้อมหมายเลขใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก
    • สังเกตว่ามีการแสดงใบอนุญาตและใบรับรองมาตรฐานในที่เปิดเผย
  5. ประเมินมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย
    • สังเกตความสะอาดและความเป็นระเบียบของคลินิก
    • ตรวจสอบมาตรการการฆ่าเชื้อและการป้องกันการติดเชื้อ
  6. ดูรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการจริง
    • อ่านรีวิวจากแหล่งที่เชื่อถือได้และเว็บไซต์รีวิวอิสระ
    • ขอดูภาพก่อน-หลังการรักษาของผู้ใช้บริการรายอื่น
    • สอบถามคนรู้จักที่เคยใช้บริการเพื่อขอคำแนะนำ

หน้าไม่เท่ากัน ปัญหาที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ

ในปัจจุบัน การแก้ไขปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันสามารถทำได้หลายวิธี เริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การระมัดระวังท่าทางการนอน การฝึกบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าให้ทำงานอย่างสมดุลทั้งสองข้าง และการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วยท่าต่าง ๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความสมดุลให้กับกล้ามเนื้อใบหน้าได้เบื้องต้น 

แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาความไม่เท่ากันที่ชัดเจนและต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว การใช้หัตถการทางการแพทย์อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เช่น สารเติมเต็ม (Filler) ช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับส่วนที่บางหรือยุบของใบหน้า ทำให้เกิดความสมดุลมากขึ้น เทคโนโลยียกกระชับด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น Ulthera Thermage หรือ Ultraformer MPT ก็สามารถช่วยปรับโครงสร้างผิวและเนื้อเยื่อใต้ผิวให้เกิดความสมดุลมากขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

Infiniz Clinic ให้บริการฉีดฟิลเลอร์แท้ เพื่อแก้ไขปัญหาใบหน้า โดยหมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ แพทย์วิทยาการผู้มีความรู้ด้านฟิลเลอร์ระดับแนวหน้าของประเทศ มีประสบการณ์กว่า 15 ปีพร้อมรางวัลการันตีความสามารถมากมาย สนใจฉีดฟิลเลอร์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่

  • Facebook: Infiniz Clinic :: Skin & Facial Design Expert 
  • Line ID: @Infinizclinic
  • โทร : 098-828-5444

References 

Spyridon Vlachos. (2024 February, 22). Facial Asymmetry – How to Fix Asymmetrical Face. https://centreforsurgery.com/facial-asymmetry-how-to-fix-asymmetrical-face/ 

Swaddle, J. P., & Cuthill, I. C. (1995). Asymmetry and human facial attractiveness: symmetry may not always be beautiful. Proceedings. Biological sciences, 261(1360), 111–116. https://doi.org/10.1098/rspb.1995.0124


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ และปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้ คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก