ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี? ให้ไม่เป็นก้อน ดูเป็นธรรมชาติ
เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ควรเริ่มต้นจากการพิจารณาคลินิกที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย โดยมีหมอเป็นผู้ทำหัตถการด้วยตนเอง อ่านข้อควรรู้อื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดูแลตัวเองอย่างไร? เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
หนึ่งในข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสรอบดวงตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อและอาการอักเสบ เรียนรู้วิธีดูแลหลังฉีดเพิ่มเติมในบทความนี้ คลิกเลย
คุณหมออู๋ กับบทบาท Speaker งานสอนใน GAIN Thailand 2024
เป็นอีกหนึ่งงานบรรยายวิชาการประจำปีของบริษัท Galderma Thailand ที่เป็นงานประชุมวิชาการ บรรยายแก่แพทย์ความงามทั่วทั้งประเทศโดยในปีนี้มีหัวข้อที่ชื่อว่า Turn on your AART into HIT SHAPE UP and GLOW ON แปลแบบสรุปก็คือ รูปแบบการวิเคราะห์รูปหน้าผิวพรรณเพื่อกำหนดจุดที่เป็นปัญหาของผู้รับบริการก่อนจะวางแผนการใช้ สารลดเรือนริ้วรอย สารเติมเต็มในกลุ่ม Hyaluronic acid และ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน นำมาซึ่งการรักษาที่ตรงจุดชัดเจนและได้ผลอย่างเป็นธรรมชาติ โดยปราศจากผลข้างเคียง ในงานนี้ มีการพูดถึงการใช้ตัว Collagen Biostimulator( Sculptra) ในการฉีดกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียง เช่น ก้อน หรือ ผิวไม่เรียบ ตลอดจนระยะห่างระหว่างการฉีดแต่ละครั้งก็ต้องมีความเหมาะสม โดยมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เป็นหน้าที่ที่แพทย์ควรต้องมีความรู้และประสบการณ์อย่างยาวนาน จึงจะสามารถประเมินรูปแบบการรักษาในแต่ละบุคคลได้อย่างดี เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุดนั่นเอง การใช้ Sculptra ร่วมกับการใช้เครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera, Ultrafomer MPT, Thermage FLX หรือ เลเซอร์กลุ่มยกกระชับอื่นๆ ก็เช่นกัน เป็นการรักษาที่เป็นที่นิยมอย่างมากโดยควรต้องเว้นระยะการรักษาระหว่างกัน ประมาณ 1 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการอักเสบหรือการระบมในชั้นผิวที่มากเกินไปจนเกิดผลข้างเคียง สิ่งที่เป็น Highlight สำคัญคือ การฉีด Sculptra ควบคู่กับการฉีด Skinboostersเพื่อกระตุ้นให้ผิวมีคอลลาเจนใหม่มากขึ้น ร่วมกับการเติมน้ำให้ผิวในระดับชั้นลึกซึ่งผลที่ได้ย่อม Double เกิดปรากฏการณ์ผิวฉ่ำวาว เรียบเนียน ไร้ริ้วรอย และ ดูอ่อนเยาว์ ไปพร้อมๆกัน โดยผู้รับบริการไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตต่อได้ตามปกติ แต่เทคนิคนี้ ต้องอาศัยการจัดวางโดยแพทย์ที่มีความแม่นยำในชั้นผิว และ การออกแบบเพื่อกำหนดจุดยก ดึง โครงสร้างผิวที่ถูกวิธี ให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างและชัดเจนกว่าวิธีปกติ และหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย นอกจากนี้การปรับรูปหน้าด้วยการฉีด HA Filler ร่วมกับ Sculptra ย่อมสามารถทำได้แต่มีความซับซ้อนค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องอาศัยการวิเคราะห์รูปหน้าอย่างละเอียดเพื่อการจัดวาง HA Filler ปรับโครงสร้างเสริมความงามให้ตรงจุด ร่วมกับการฉีด Sculptra กระชับผิวเข้าไปอีกระดับนึง จึงต้องอาศัยการคาดคะเน ปริมาณ PLLA SCA (Sculptra) ที่แม่นยำ จัดวางอย่างถูกต้อง และ ไม่รบกวนการทำงานของ HA Filler โดยตำแหน่งที่มักได้ผลดีคือ การฉีดบริเวณแก้ม ใต้ตา ร่องแก้ม และ คางกรอบหน้า นั่นเอง ทั้งหมดนี้ เป็นรูปแบบการรักษาที่ Customized อย่างชัดเจนจึงต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ค่อนข้างสูง ในงานวิจัยล่าสุด มีการทดลองดู Gene expression หลังการฉีด Sculptra เข้าไปในเนื้อเยื่อ พบว่า มีการกระตุ้นให้ผิว มีการสร้าง Fibroblast, Collagen type 1 & 3, Elastin และ Proteoglycan อย่างชัดเจนด้วยขบวนการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะเวลาหนึ่งจนถึง 2 ปีซึ่งพบว่า ยังมีการเกิด ขบวนการยับยั้งการอักเสบเพื่อลดการเกิดการกระตุ้นคอลลาเจนที่ผิวของเราไม่ต้องการอีกด้วย สุดท้าย ก่อนทำการเลือกการฉีด Biostimulator ตัวใด แพทย์ควรคำนึงถึง ลักษณะของ Particle คุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของสารตัวนั้น ความคงทนอยู่ในผิวของเราได้ยาวนานแค่ไหน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ และเมื่อเกิดแล้วสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ผลที่เกิดขึ้นกับผิวพรรณหลังได้รับการฉีดไปแล้วเป็นแบบใด ขบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นได้ โดยBiostimulator แต่ละตัว มีลักษณะที่แตกต่างกันทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง และ วิธีการฉีดก็มีความแตกต่างกันผู้รับบริการจึงควรศึกษารายละเอียด คุณสมบัติ หรือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด เพื่อทราบข้อมูลข้อเท็จจริง ก่อนทำการรักษา เพื่อให้เกิดผลการรักษาที่ตอบโจทย์ ตรงใจผู้รับบริการแต่ละคนนั่นเองครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนแก้ไขได้อย่างไร ฉีดสลายได้หรือไม่?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เป็นปัญหาที่พบได้ค่อนข้างมาก จากกรณีการฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อีกทั้งการที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนยังสามารถเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ในบทความนี้ Infiniz Clinic จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนใต้ตา รวมไปถึงวิธีป้องกันและวิธีแก้ไขปัญหานี้ ปัจจัยที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนมีอะไรบ้าง? ปัจจัยที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนมีหลายประการ โดยปัจจัยที่สามารถพบได้บ่อยมีดังต่อไปนี้ 1. ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับพื้นที่บริเวณที่ฉีด ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วกลายเป็นก้อนอาจเกิดจากการที่ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด มีการฉีดในปริมาณมากเกินไปสำหรับพื้นที่ใต้ตา โดยเมื่อเวลายิ้มกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาจะหดตัวขึ้น ทำให้ฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังที่มีปริมาณมากเกินไปจนไม่เรียบเนียนไปกับผิว จะถูกดันขึ้นจนเห็นเป็นก้อนได้ 2. ฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเป็นฟิลเลอร์ปลอม หากฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรองจากอย. หรือเป็นฟิลเลอร์ปลอม ก็สามารถทำให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากลายเป็นก้อนได้เช่นกัน เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมมักเป็นฟิลเลอร์ชนิดถาวรหรือซิลิโคน ซึ่งสามารถจับตัวกันเป็นก้อนและไหลย้อยไม่เป็นทรงหลังจากเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง แต่ไม่สลายไปเองตามธรรมชาติเหมือนฟิลเลอร์มาตรฐาน อีกทั้งฟิลเลอร์ปลอมยังไม่สามารถฉีดสลายเหมือนฟิลเลอร์มาตรฐานได้อีกด้วย จะต้องทำการผ่าตัดหรือขูดฟิลเลอร์ออกเท่านั้น 3. ฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกตำแหน่ง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ถูกตำแหน่ง เช่น การฉีดบริเวณเหนือกล้ามเนื้อ หรือการฉีดบริเวณผิวชั้นตื้น ก็สามารถทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตากลายเป็นก้อนได้ เนื่องจากผิวบริเวณใต้ตาจะมีความบางเป็นอย่างมาก หากฉีดไม่ถูกตำแหน่งก็จะสามารถสังเกตเห็นว่าเป็นก้อนได้อย่างง่ายดาย 4. แพทย์ที่ให้บริการมีประสบการณ์ไม่เพียงพอ หากแพทย์ที่ให้บริการการฉีดฟิลเลอร์มีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์และประสบการณ์ในการฉีดมาไม่มากพอ ก็อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาพลาดแล้วกลายเป็นก้อนบวมได้ โดยอาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นกล้ามเนื้อ การเลือกฟิลเลอร์ในยี่ห้อและรุ่นที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข เป็นต้น 5. พื้นผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์บางจนเกินไป โดยปกติพื้นผิวบริเวณใต้ตาจะมีความบางอยู่แล้ว แต่ถ้าหากคนไข้มีลักษณะเป็นคนผิวบางโดยธรรมชาติอยู่ด้วย ก็จะสามารถสังเกตเห็นฟิลเลอร์ใต้ตาในลักษณะเป็นก้อนหรือเงาสีเขียวได้ แม้จะฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณและตำแหน่งที่ถูกต้องก็ตาม อาการหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน อาการหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ กรณีที่เกิดการอักเสบซึ่งมีความอันตราย กับกรณีที่ไม่ได้เกิดการอักเสบ เป็นแค่ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น โดยวิธีสังเกตความผิดปกติจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนมีดังนี้ กรณีเกิดการอักเสบหลังจากฉีดฟิลเลอร์ หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเกิดเป็นก้อนในลักษณะที่มีการอักเสบ จะมีอาการปวดมากกว่าปกติซึ่งควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาและแก้ไขความผิดปกติโดยเร็วที่สุด โดยอาการอักเสบที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด ได้แก่ กรณีไม่เกิดการอักเสบหลังจากฉีดฟิลเลอร์ อาการฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนสามารถเกิดในลักษณะที่ไม่มีการอักเสบได้เช่นกัน โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ช่วง 3 วันแรก ผิวบริเวณใต้ตาจะสามารถเห็นเป็นก้อนบวมได้เป็นปกติ แต่จะไม่มีอาการเจ็บปวดหรือบวมแดงร่วมด้วย และเมื่อเวลาผ่านไปก้อนบวมก็จะค่อย ๆ ยุบลงไปเอง หากก้อนใต้ตามีอาการแย่ลงหรือไม่ยุบลงตามปกติหลังผ่านไป 2 สัปดาห์แล้ว ควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาและแก้ไขความผิดปกติต่อไป วิธีป้องกันไม่ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วกลายเป็นก้อน อาการฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ ด้วยการเลือกทำหัตถการกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากแพทย์ที่เคยทำหัตถการมามาก จะสามารถเลือกใช้ปริมาณฟิลเลอร์และเลือกตำแหน่งชั้นผิวที่ฉีดได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังต้องใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดก้อนใต้ตาที่ไม่สามารถฉีดสลายออกได้จากฟิลเลอร์ปลอม แก้ปัญหาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนได้อย่างไรบ้าง? สามารถแก้ปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ 1. ขูดฟิลเลอร์ ในกรณีที่คนไข้ไม่ได้เลือกใช้ฟิลเลอร์ผ่านมาตรฐานที่ทำมาจากสาร Hyaluronic Acid หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องทำการขูดฟิลเลอร์ออก เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถฉีดสลายหรือสลายไปเองตามธรรมชาติได้ อีกทั้งการขูดฟิลเลอร์ออกก็สามารถเอาออกได้เพียง 60-70% เท่านั้น ไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมดจนกลับคืนสู่สภาพผิวปกติ 2. ผ่าตัดเพื่อนำฟิลเลอร์ออก การผ่าตัดเพื่อนำฟิลเลอร์ออก จะใช้ในกรณีที่ฟิลเลอร์ใต้ตามีลักษณะเป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก ซึ่งเกิดได้จากการที่คนไข้ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไปเป็นระยะเวลานาน จนเกิดเป็นพังผืดเกาะอย่างเหนียวแน่น และก้อนฟิลเลอร์มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะสามารถขูดออกได้ จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการผ่าตัดเอาออกเท่านั้น 3. ฉีดสลายฟิลเลอร์ หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนจากเหตุปัจจัยต่าง ๆ แล้วต้องการที่จะฉีดสลายฟิลเลอร์ออก ก็สามารถทำได้ต่อเมื่อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเป็นฟิลเลอร์ผ่านมาตรฐานที่ทำมาจากสาร Hyaluronic Acid ซึ่งสามารถฉีดสลายได้ด้วยตัวยา Hyaluronidase เท่านั้น ทั้งนี้ คนไข้ควรแจ้งแพทย์ถึง ชนิด ยี่ห้อ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ได้รับการฉีดมา เพื่อที่แพทย์จะได้คำนวณปริมาณตัวยาที่ต้องใช้ในการฉีดสลายได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากที่สุด ดูแลตัวเองอย่างไรดี ไม่ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน วิธีดูแลตัวเองไม่ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วกลายเป็นก้อน สามารถทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ สรุปเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาที่กลายเป็นก้อน ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุปัจจัย เช่น ใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป ฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกตำแหน่ง หรือแพทย์ผู้ทำหัตถการไม่มีประสบการณ์มากพอ โดยอาการใต้ตาเป็นก้อนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ ด้วยการเลือกทำหัตถการกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์มามากมาย เนื่องจากแพทย์ที่เคยทำหัตถการมามาก จะสามารถเลือกใช้ปริมาณฟิลเลอร์และเลือกตำแหน่งชั้นผิวที่ฉีดได้อย่างเหมาะสม เลือกฉีดฟิลเลอร์ได้มาตรฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเป็นก้อนใต้ตา หากไม่รู้ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ขอแนะนำ Infiniz Clinic ด้วยทีมแพทย์มากประสบการณ์และแพทย์เฉพาะทาง แก้ไขปัญหาใต้ตาของแต่ละคนด้วยการฉีดฟิลเลอร์เทคนิคพิเศษเฉพาะของ Infiniz Clinic เท่านั้น นำทีมแพทย์โดยคุณหมออู๋ นพ.ณัฐพล ลาภเจริญกิจ แพทย์วิทยากรผู้สอนและอาจารย์พิเศษรับเชิญทางด้านเวชศาสตร์ความงามทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ และสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมามากกว่า 15 ปี การันตีด้วยรางวัลปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรมและรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายตั้งแต่ปี 2018-2023 สอบถามข้อมูลราคาฟิลเลอร์ใต้ตาได้ที่ช่องทางด้านล่าง References Christiano, D. (2019, July 12). Side Effects of Facial Fillers. Healthline. https://www.healthline.com/health/facial-fillers-side-effects Jung, H. (2020). Hyaluronidase: An overview of its properties, applications, and side effects. Archives of plastic surgery, 47(4): 297–300.https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7398804/
ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ต่อปริมาณ 1 CC?
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ขอบตาดำ ใต้ตาดูลึก ตาโหล ดูโทรม คงเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน ที่ทำให้เกิดความกังวลว่าหน้าจะดูแก่และไม่สดใสก่อนวัยอันควร ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ เติมใต้ตาให้ดูเต็มและอิ่มฟูมากขึ้น ในบทความนี้ Infiniz Clinic จะพาทุกคนไปดูกันว่าฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไร และควรเลือกใช้ยี่ห้อไหนดีถึงจะเหมาะสมกับการแก้ปัญหาใต้ตามากที่สุด ฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ ราคาเท่าไหร่? ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีราคา อายุการใช้งาน และคุณสมบัติในการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรจะใช้ยี่ห้อที่ตัวฟิลเลอร์มีความพอดีกับปัญหาร่องใต้ตา เนื้อเจลมีความคงตัวดี และกลืนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งที่ Infiniz Clinic ฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีราคาอยู่ราว 16,500-26,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่ใช้ ส่วนจะเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีในการฉีดใต้ตา สามารถดูรายละเอียดความแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นได้ดังนี้ Juvederm Ultra XC ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm รุ่น Ultra XC เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เนื้อเจลมีความนิ่ม เรียบเนียนไปกับผิวได้ดี สามารถอุ้มน้ำได้ค่อนข้างมาก เหมาะกับการฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยตื้น ๆ อย่างร่องใต้ตา อีกทั้งยังสามารถฉีดเป็นฟิลเลอร์ร่องแก้มได้อีกด้วย มีอายุการใช้งานอยู่ได้นาน 9-12 เดือน ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อ 1 CC Juvederm Volite ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm รุ่น Volite เป็นฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา ที่เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียดที่สุดในทุกรุ่น มีความบางเบา กลืนตัวและเรียบเนียนไปกับผิวได้ดีมาก เหมาะกับการฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ อย่างริ้วรอยใต้ตาและรอบดวงตา สามารถอยู่ได้นาน 9-12 เดือน ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อฟิลเลอร์ 1 CC Juvederm Volift สำหรับฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm รุ่น Volift เนื้อฟิลเลอร์จะมีความนิ่มปานกลาง เรียบเนียนไปกับผิวได้ดี มีความคงตัวสูง เหมาะกับการเติมเต็มและฉีดบริเวณผิวที่มีปัญหาร่องลึกระดับกลาง สามารถฉีดบริเวณใต้ตาชั้นลึกเพื่อแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาและเบ้าตาโหลได้ อีกทั้งยังสามารถฉีดเป็นฟิลเลอร์ปากเพื่อปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่มสวยงามได้อีกด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อ 1 CC อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน Restylane Vital ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane รุ่น Vital เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน ที่เนื้อฟิลเลอร์มีขนาดอนุภาคที่ค่อนข้างใหญ่ มีความคงตัวสูง สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการฉีดเพื่อเติมเต็มและแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา อีกทั้งยังสามารถฉีดเป็นฟิลเลอร์ขมับเพื่อเติมให้ใบหน้าดูเต็มยิ่งขึ้นได้อีกด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 16,500 บาทต่อ 1 CC อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน Restylane Vital Light ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane รุ่น Vital Light เป็นฟิลเลอร์ที่มีขนาดอนุภาคเล็กและละเอียดเป็นอย่างมาก มีส่วนผสมของยาชา และมีความนิ่มที่สุดในทุกรุ่นของยี่ห้อ Restylane เหมาะกับการใช้ฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 16,500 บาทต่อ 1 CC Restylane Defyne ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane รุ่น Defyne เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่เนื้อเจลมีความแข็งและขึ้นทรงมากที่สุดในทุกรุ่น แต่ยังสามารถกลืนไปกับผิวได้ดี เรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดเสริมเติมร่องลึกใต้ตาที่มีความยุบตัวมาก และยังสามารถฉีดเป็นฟิลเลอร์คางหรือฟิลเลอร์โหนกแก้ม เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าได้อีกด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อ 1 CC อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน โปรโมชัน ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาพิเศษ ทาง Infiniz Clinic ได้มีการจัดโปรโมชันฟิลเลอร์ใต้ตาราคาพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่าน ทั้งยี่ห้อ Juvederm และยี่ห้อ Restylane โดยรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้กับทาง Facebook : Infiniz Clinic หรือทาง Line ID: @Infinizclinic >> อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ “ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน“ สรุปเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตามีราคาเท่าไรบ้าง? สำหรับใครที่ต้องการจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหาผิวบริเวณใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย ขอบตาดำ ใต้ตาดูลึก หรือตาโหล ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง และทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการฉีดเป็นอย่างมาก หากสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม คนไข้ก็จะได้รับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในราคาที่เหมาะสมและผลลัพธ์ที่พึงพอใจมากที่สุด โดยสำหรับที่ Infiniz Clinic ฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีราคาเริ่มต้นที่ 16,500-18,000 บาทต่อ 1 CC ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี? ทาง Infiniz Clinic จึงแนะนำให้เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย. และให้บริการโดยสถานพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด โดย Infiniz Clinic คลินิกหัตถการความงามโดยแพทย์เฉพาะทางและมากประสบการณ์ ปรับรูปหน้าของแต่ละคนด้วยการฉีดฟิลเลอร์เทคนิคพิเศษเฉพาะของ Infiniz Clinic เท่านั้น โดยคุณหมออู๋ นพ.ณัฐพล ลาภเจริญกิจ แพทย์วิทยากรผู้สอนและอาจารย์พิเศษรับเชิญทางด้านเวชศาสตร์ความงามทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ และสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมามากกว่า 15 ปี การันตีด้วยรางวัลปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรมและรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายตั้งแต่ปี 2018-2023 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางนี้ References Where is JUVÉDERM® used?. (2023, May 3).JUVÉDERM® Collection of Fillers. https://www.juvederm.com/volume-loss#under-eyes-faq-content Q-Med AB. (2023). Instructions for use Restylane Defyne, US. Galderma Laboratories, L.P. https://www.restylaneusa.com/docs/Restylane-Defyne-IFU
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แก้ใต้ตาหมองคล้ำ เป็นแววตาใสปิ๊ง
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน จะเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี มีรุ่นอะไรบ้างที่เหมาะกับฉีดใต้ตา ที่นี่มีคำตอบ
ฉีด ฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดจุดไหนได้บ้าง? ปริมาณเพียงพอหรือไม่? เห็นผลมากน้อยแค่ไหน?
ฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดจุดไหนบนใบหน้าได้บ้าง? ปริมาณ 1 CC เพียงพอหรือไม่? มีราคาต่อหลอดเท่าไหร่? Infiniz Clinic พร้อมตอบคำถามที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ปลอมอันตราย ควรตรวจสอบให้ดีก่อนฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ปลอม คือสารเติมเต็มประเภทซิลิโคนหรือพาราฟิน ที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ มีผลข้างเคียงทำให้ผิวบวมแดงและอักเสบ ดูวิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ได้ที่นี่
ฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร? อันตรายหรือเปล่า? มีผลข้างเคียงอะไรไหม?
ฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่มีผลข้างเคียงอันตรายร้ายแรง ใช้เวลาไม่นานในการเห็นผล ฟิลเลอร์ใต้ผิวจะเริ่มสลายตัวได้ใน 24-48 ชั่วโมงหลังฉีดสลายฟิลเลอร์
Anatomy บริเวณใต้ตา (Tear Trough Anatomy)
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไรให้ปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามลงตัวอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตานั้นถือว่าเป็นบริเวณที่มีความซับซ้อนค่อนข้างมาก เนื่องจากว่า มีโครงสร้าง ผิวหนังไขมัน กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ที่วางตัวซ้อนทับกัน และ พาดเกี่ยวกัน ด้วยเส้นใยกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่สำคัญปริมาณมากรวมทั้งพื้นที่บริเวณใต้ตาและแก้ม จะมีการเคลื่อนไหวอย่างมากนำมาซึ่งพยาธิสภาพที่ผิดปกติเมื่อ อายุที่มากขึ้น ทั้งความหย่อน และโครงสร้างที่บางหรือพร่องลงไป นอกจากนี้ บริเวณใต้ตา และแก้ม ยังมีเส้นเลือดเส้นประสาทสำคัญปริมาณมาก และมีความสำคัญที่เชื่อมต่อเข้าสู่ดวงตาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นแพทย์จึงจำเป็นต้องรู้ตำแหน่งของเส้นเลือดเหล่านี้อย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ไปในบริเวณดังกล่าว หรือ ป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์นั่นเอง พื้นทีบริเวณใต้ตา ประกอบด้วย Jigsaw ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกัน และ วางทับกันอยู่เป็นปริมาณมาก และ มีขนาดหรือการเรียงตัวที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลการเข้าใจถึงพยาธิสภาพปัญหาที่ถูกต้องสำหรับปัญหาใต้ตาจึงต้องได้รับการฝึกฝน และ ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์อย่างมากโดยการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เล็กๆนี้ ยังต้องอาศัยความแม่นยำในการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณนั้นๆอีกเช่นกันดังนั้นสิ่งสำคัญที่แพทย์ทุกคนควรต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างสูง นั่นคือโครงสร้างกายวิภาคศาสตร์บริเวณใต้ตา อย่างละเอียด เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามไร้ผลข้างเคียง ปัญหาที่พบบ่อยคือ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน หลังฉีด ซึ่งอาจพบได้หลังจากฉีดไปแล้ว 3-6 เดือน หรือในบางราย อาจยาวนานถึง 1 ปี จึงค่อยเกิดปัญหานี้ขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักคือการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแทรกตัวอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อนั่นเอง โดยมักเกิดขึ้นจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณใต้ตามีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก จึงง่ายต่อการเกิดภาวะดังกล่าว ซึ่งวิธีแก้คือ การฉีดสลายฟิลเลอร์ส่วนเกินนั้นออกและ ทำการแก้ไขใหม่ตามความเหมาะสม อีกปัญหาหนึ่งคือการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาในชั้นตื้นเกินไปและปริมาณมากเกินไป จึงเกิดเป็นก้อนสีเทาๆ จากแสงที่ตะกกระทบลงบนผิว ทำให้เกิดความไม่เรียบเนียนและไม่สวยงาม ขั้นตอนนี้ เกิดขึ้นจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง หรือการใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพปัญหา จึงเกิดภาวะไม่กลืนตัวเข้ากับผิวบริเวณดังกล่าว โดยแพทย์ผู้ฉีดต้องมีความระมัดระวังอย่างสูงนั่นเอง โดยการแก้ไข ก็จำเป็นต้องฉีดยาสลายฟิลเลอร์ส่วนนั้นออก และ ประเมินสภาพปัญหาใหม่ การเลือกชนิดของ HA Fillerก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญที่จะนำมาซึ่งผลการรักษาที่ดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับโครงสร้างหรือผิวพรรณของผู้รับบริการได้อย่างดีเยี่ยม โดยฟิลเลอร์ที่นิยมฉีดแก้ไขบริเวณใต้ตา สำหรับคนไทย คือ Restylane Vital Light หรือ Restylane Classic และ Juvederm Volbella or Juvederm Volite นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ในผู้รับบริการบางคน ที่มีร่องใต้ตาลึกมาก ก็สามารถใช้ Filler ชนิดที่มีโมเลกุลใหญ่ขึ้น นำมาแก้ปัญหาได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาด้วยโปรแกรม Daisy Eyes โดยคุณหมออู๋ ณัฐพล ยังถูกออกแบบมาให้สามารถใช้เทคนิคในการยกกระชับ และ แก้ไขถุงใต้ตา ได้อีกด้วย โดยจากการดูโครงสร้างบริเวณใต้ตาจะเห็นได้ว่า เมื่ออายุที่มากขึ้น ย่อมทำให้กระดูกเบ้าตา และ ชั้นไขมันใต้ตา บางลง เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อก็มีความหย่อนไม่กระชับอีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้ไม่สามารถค้ำจุนถุงใต้ตาที่โป่งพองออกมาจากอายุที่มากขึ้นได้ ดังนั้น การแก้ไขด้วยการวางฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลพอดี และแม่นยำ จึงช่วยให้มีโครงสร้างที่ support ถุงใต้ตาได้อย่างดีทำให้ขนาดลดลง ดังนั้นด้วยวิธีการฉีดฟิลเลอร์ ใต้ตาอย่างถูกวิธี จึงสามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมได้อีกด้วย **อย่างไรก็ตามปัญหาถุงใต้ตา มีความซับซ้อน และมีหลากหลายรูปแบบแนะนำพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาก่อนได้รับการรักษาเท่านั้น เพื่อวางแผนการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากปัญหาถุงใต้ตาของผู้รับบริการแต่ละคนแตกต่างกัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ห้ามกินอะไร? ดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม? ที่นี่มีคำตอบ
หลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ห้ามกินอะไร? หลังฉีดฟิลเลอร์ให้งดแอลกอฮอล์, อาหารแสลง, อาหารรสจัด, ปิ้งย่างชาบู และอาหารหมักดอง เพราะจะทำให้แผลอักเสบและติดเชื้อง่าย
แพ้ฟิลเลอร์ อันตรายที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์
ผู้ที่มีอาการแพ้ฟิลเลอร์จะมีการอักเสบ บวมแดง โดยโอกาสผู้ที่แพ้ฟิลเลอร์มีน้อยมาก ๆ หากฉีดฟิลเลอร์แท้และทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ