
โปรแกรมRadiesse Plus เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนที่พัฒนามาจาก Radiesse ซึ่งมีความสามารถในการช่วยยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสารประกอบหลักที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ไม่เพียงแต่จะทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ แต่ยังช่วยเพิ่มมิติและความคมชัดให้กรอบหน้าสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยบทความนี้ก็ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับโปรแกรมRadiesse Plus เอาไว้ในที่เดียวแล้ว
KEY TAKEAWAY
- โปรแกรมRadiesse Plus ใช้สาร CaHA เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวยกกระชับและดูมีมิติ
- สารกระตุ้นคอลลาเจนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับกรอบหน้าและปรับรูปหน้าให้ชัดเจน
- ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ประมาณถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแล
- สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น Botox หรือ Filler เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- โปรแกรม Radiesse Plus และผ่านการรับรองจากอย. ไทย
โปรแกรมRadiesse Plus คืออะไร?

โปรแกรม Radiesse Plus คือ สารกระตุ้นคอลลาเจนที่พัฒนามาจากโปรแกรม Radiesse โดยการเติมสารที่ทำหน้าที่เป็นยาชาเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บในระหว่างการฉีด โปรแกรม Radiesse ทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกเจ็บน้อยลงระหว่างทำหัตถการ เหมาะสำหรับใครที่กลัวเข็ม กลัวเจ็บ
คุณสมบัติของ โปรแกรมRadiesse Plus คือ การช่วยเติมเต็มริ้วรอย ฟื้นฟูโครงสร้างผิว เพิ่มความคมชัดและสร้างมิติให้กับใบหน้า ซึ่งยังคงมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ Radiesse แต่มีจุดเด่นที่ช่วยลดความไม่สบายตัวระหว่างทำการรักษา ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น โดยผลลัพธ์จากการฉีดสามารถอยู่ได้ประมาณประมาณ 12-18 เดือน
โปรแกรม Radiesse Plus มีองค์ประกอบอะไรบ้าง?
Radiesse มีส่วนประกอบของ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite: CaHA) และโซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (Sodium Carboxymethylcellulose: CMC Gel) ที่ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติในชั้นผิว ซึ่ง Radiesse Plus มีการเติมลิโดเคน (Lidocaine) ซึ่งเป็นสารประเภทยาชา เพื่อทำให้ผู้เข้ารับบริการมีความสบายมากขึ้น
โดย โปรแกรมRadiesse Plus จะมีจุดประสงค์หลักเพื่อการปรับรูปหน้า เติมเต็มเนื้อเยื่ออ่อนในชั้นหนังแท้(Dermis) และชั้นใต้ผิวหนัง (subcutaneous Tissue) บริเวณใบหน้าและหลังมือ ช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ พร้อมเพิ่มมิติให้กับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
โปรแกรม Radiesse Plus ทำงานอย่างไร?
เมื่อฉีด Radiesse Plus เข้าไปใต้ชั้นผิว สารประกอบหลักต่าง ๆ อย่าง CaHA และ CMC Gel จะเข้าไปเติมเต็มผิว พร้อมทั้งยกกระชับกรอบหน้าให้ดูชัดเจนและได้รูปมากขึ้น หลังจากนั้น CMC Gel ค่อย ๆ สลายตัวไป เหลือไว้เพียงอนุภาคของแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ส่งผลให้ผิวกลับมาแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น ช่วยเพิ่มความสามารถในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินของร่างกาย
กระบวนการนี้จะทำให้ผิวดูแน่นกระชับ และฟื้นฟูผิวจากภายใน โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นภายในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์หลังการรักษา
โปรแกรม Radiesse Plus ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?

โปรแกรม Radiesse Plus สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง โดยบริเวณที่นิยมฉีดก็จะมีดังนี้
- ร่องแก้ม : ช่วยลดความลึกของร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
- แก้ม : ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เติมเต็มให้ใบหน้าดูเอิบอิ่มและดูสุขภาพดี
- ขมับ : แก้ปัญหาขมับตอบ เพิ่มความคมชัดให้กับโครงหน้า
- กรอบหน้า (Jawline) : ช่วยสร้างแนวกรอบหน้าที่ชัดเจนและกระชับ ดูมีมิติยิ่งขึ้น
- ร่องน้ำหมาก : ลดริ้วรอยบริเวณมุมปากจนถึงคาง ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและเรียบเนียน
โปรแกรม Radiesse Plus เหมาะกับใคร?
การฉีด Radiesse Plus หากอยู่ในกลุ่มที่มีข้อห้าม ก็อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงหรืออันตรายตามมาได้ ดังนั้น ควรพิจารณาความเหมาะสมก่อนเข้ารับการรักษาเพื่อความ สูงสุด และควรดู Radiesse รีวิว ก่อนเข้ารับบริการ
ผู้ที่เหมาะกับการฉีดโปรแกรม Radiesse Plus
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์ สดใสขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หมองคล้ำ
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
- ผู้ที่มีริ้วรอยลึก หรือร่องลึกบนใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการ เติมคอลลาเจน เพื่อฟื้นฟูผิวจากภายใน
- ผู้ที่ต้องการปรับแต่งรูปหน้า โดยเฉพาะบริเวณขากรรไกร กรอบหน้า และ ปรับทรงแก้มให้สวยงาม ละมุน มากขึ้น
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดโปรแกรม Radiesse Plus
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบใน Radiesse อย่างรุนแรง
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีการอักเสบบริเวณผิวหนัง ที่จะฉีด
- ผู้ที่มีภาวะโรคเลือดออกง่าย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา
ข้อดีของโปรแกรม Radiesse Plus ที่ทำให้โดดเด่นมีอะไรบ้าง?

โปรแกรมRadiesse Plus มีข้อดีที่น่าโดดเด่นที่ทำให้น่าสนใจอยู่หลายข้อ ดังนี้
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน : เสริมความแข็งแรงและทำให้ผิวเรียบเนียน ด้วยการกระตุ้นกระบวนการผลิต Collagen Type 1
- ฟื้นฟูโครงสร้างผิว : เติมวอลลุ่มและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวด้วย Collagen Type 3 ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
- เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก : ช่วยลดเลือนร่องลึกให้ผิวเรียบเนียน พร้อมคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า
- ลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด : ด้วยส่วนผสมของ Lidocaine 0.3% ที่ช่วยให้ขั้นตอนการรักษาสบายยิ่งขึ้น
- ยกกระชับโครงหน้า : ช่วยสร้างกรอบหน้าให้ชัดเจน และทำให้ใบหน้าเรียวตามลักษณะ V-Shape
- ต้านการหย่อนคล้อย : เป็น Biostimulator ที่มีประสิทธิภาพด้านการยกกระชับ ช่วยลดความหย่อนคล้อยบนผิวหน้า
- เนื้อเจลมีความคงรูปสูง : เจลไม่กระจายตัว ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเรียบเนียนและได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผลลัพธ์ยาวนาน : สามารถเห็นผลได้ยาวนานถึง 1-2 ปี ทำให้คุณมั่นใจในผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและยั่งยืน
หากสนใจหัตถการเกี่ยวกับการยกกระชับสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Ulthera คืออะไร, Thermage คืออะไร และ Ultraformer MPT คืออะไร
โปรแกรม Radiesse Plus มีข้อจำกัดอะไรบ้าง?
แม้ว่า Radiesse Plus จะมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิวได้อย่างดีเยี่ยม แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนการตัดสินใจเข้ารับการรักษา เพื่อความ และผลลัพธ์ที่ดี
- ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี : การใช้ Radiesse Plus ควรใช้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ขึ้นไปเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร : ผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรไม่ควรทำการฉีด Radiesse Plus เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ : หากมีประวัติการแพ้สารใด ๆ ใน Radiesse Plus หรือส่วนประกอบของ Radiesse Filler ควรหลีกเลี่ยงการฉีด
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหรือการอักเสบในบริเวณที่จะฉีด : การฉีด Radiesse Plus บนผิวที่มีอาการอักเสบ อาจส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองและผลข้างเคียง
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือหยุดยาก : หากมีภาวะเลือดออกง่าย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีด Radiesse Plus
- ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลคีลอยด์ : การฉีด Radiesse Plus ในผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์อาจเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นได้ง่าย
- ผู้ที่มีความจำเป็นต้องทำ CT Scans หรือ X-Rays : ควรแจ้งรายละเอียดกับแพทย์เสมอก่อนทำหัตถการ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว : ผู้ที่มีโรคมะเร็งหรือโรคที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่าง โรคเริม ควรหลีกเลี่ยงการฉีด และควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนการรักษา
การทำความเข้าใจข้อจำกัดเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกการรักษาที่เหมาะสมและ โดยสามารถขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนตัดสินใจได้เสมอ
วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดโปรแกรมRadiesse Plus
การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการฉีด Radiesse Plus เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ตรงความต้องการและ ดังนั้นควรทำความเข้าใจและเตรียมตัวตามขั้นตอนที่แนะนำ ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Radiesse Plus : ควรศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เหมาะสมกับปัญหาผิว
- เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ : ควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกและแพทย์ผู้ให้บริการ
- ปรึกษาแพทย์ก่อนการรักษา : เข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาและประเมินสภาพปัญหาผิวหน้า พร้อมเตรียมตัวสำหรับการรักษาอย่างถูกต้อง
- งดทำหัตถการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง : งดการทำหัตถการที่อาจทำให้เกิดแผลที่ใบหน้าก่อนการฉีดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- พักผ่อนให้เพียงพอ : ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการฉีด เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการรักษา
- ดื่มน้ำให้มาก : การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นและเป็นการเตรียมผิวก่อนทำการฉีด
- งดยาละลายลิ่มเลือด : หากคุณรับประทานยาละลายลิ่มเลือด ควรงดยานี้ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันการเกิดเลือดออก
- หลีกเลี่ยงยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า : ควรงดยาที่ทำให้เลือดหยุดไหลช้าหรือมีโอกาสเกิดรอยช้ำหลังการฉีด
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดโปรแกรม Radiesse Plus
หลังจากการฉีด Radiesse Plus ควรดูแลตัวเองอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงจากอาการไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้
- ประคบเย็น : หากมีอาการบวมหรือแดง สามารถประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเพื่อบรรเทาอาการได้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด : หลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือการสัมผัสผิวหน้าในบริเวณที่ฉีด
- งดแต่งหน้า : ควรงดการแต่งหน้าภายใน 12 ชั่วโมงหลังการฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อน : ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อน เช่น การออกกำลังกายหนัก หรือการโดนแสงแดด
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ : ควรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการฉีด เพื่อช่วยการฟื้นฟูและลดการระคายเคือง

หลังฉีดโปรแกรม Radiesse Plus อยู่ได้ประมาณแค่ไหน
ผลลัพธ์ของการฉีด Radiesse Plus สามารถอยู่ได้ประมาณ 12 ถึง 18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมไปถึงเทคนิคของแพทย์ และเทคโนโลยีที่แต่ละคลินิกเลือกใช้
โปรแกรมRadiesse Plus กับ โปรแกรม Radiesse แตกต่างกันอย่างไร?

โปรแกรม Radiesse Plus และโปรแกรม Radiesse จะมีส่วนประกอบหลักที่เหมือนกันคือ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) แต่ทั้งสองตัวนี้มีส่วนประกอบและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
โปรแกรม Radiesse Plus
- ส่วนประกอบ : มี CaHA ผสมกับ Lidocaine 0.3% เพื่อบรรเทาอาการเจ็บขณะฉีด
- ความหนาแน่น : ความเข้มข้นสูง เหมาะกับการยกกระชับผิว
- เทคนิคการฉีด : ฉีดลึกในชั้นผิวตามแนวการยกกระชับ
- เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการยกกระชับและเพิ่มมิติให้กับกรอบหน้า
- ผลลัพธ์ : ช่วยยกกระชับผิวและเพิ่มความคมชัดให้กับกรอบหน้า
โปรแกรม Radiesse
- ส่วนประกอบ : มี CaHA แต่ไม่มี Lidocaine (แพทย์สามารถผสมยาชาเพิ่มเติมได้)
- ความหนาแน่น : ความหนืดต่ำกว่า เหมาะกับการเติมเต็มผิว
- เทคนิคการฉีด : ฉีดในชั้นหนังแท้แบบไขว้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน
- เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนและเติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู
- ผลลัพธ์ : เติมเต็มผิวให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยและปรับผิวให้ดูสุขภาพดี
โดยสรุป โปรแกรม Radiesse Plus เหมาะกับการยกกระชับและเพิ่มมิติให้กับกรอบหน้า ในขณะที่ Radiesse จะเน้นการเติมเต็มผิวและกระตุ้นคอลลาเจน
โปรแกรมRadiesse Plus สามารถทำร่วมกับ โปรแกรม Radiesse รุ่นเดิมได้ไหม?
การฉีด Radiesse Plus ร่วมกับ Radiesse รุ่นเดิมสามารถทำได้ แต่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อการประเมินและวางแผนการรักษาอย่าง โดยแพทย์จะพิจารณาบริเวณที่ต้องการรักษา หากเป็นบริเวณที่ต่างกันก็สามารถทำร่วมกันได้ หรือบางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ทำควบคู่กับหัตถการอื่น ๆ ตามความเหมาะสมของผู้รับบริการแต่ละคน
โปรแกรม Radiesse Plus กับ โปรแกรมFiller แตกต่างกันอย่างไร?
การฉีด Radiesse Plus และ Filler จะมีความแตกต่างหลัก ๆ ดังนี้
โปรแกรม Radiesse Plus
- ส่วนประกอบหลัก : Calcium Hydroxylapatite (CaHA)
- จุดเด่น : กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ช่วยยกกระชับและเพิ่มมิติให้กรอบหน้า
- เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวและปรับโครงหน้า
- ผลลัพธ์ : ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและกรอบหน้าคมชัด
- ระยะเวลาผลลัพธ์ : 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง)
โปรแกรม Filler
- ส่วนประกอบหลัก : Hyaluronic Acid (HA)
- จุดเด่น : เติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความอิ่มฟูให้ผิว
- เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีริ้วรอยหรือจุดที่ต้องการเติมเต็ม
- ผลลัพธ์ : ผิวเต่งตึงและเรียบเนียน
- ระยะเวลาผลลัพธ์ : 6-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ สภาพผิวและการดูแลตัวเอง)
โปรแกรม Radiesse Plus สามารถทำร่วมกับเลเซอร์ได้ไหม?
Radiesse Plus เป็นการฉีดที่ใช้ส่วนประกอบหลักอย่าง CaHA ซึ่งมีคุณสมบัติในการเติมเต็มวอลลุ่มให้กับผิวและทนต่อความร้อนได้ดี ทำให้สามารถทำร่วมกับโปรแกรมเลเซอร์ต่าง ๆ เช่น Thermage หรือ Ulthera ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก่อนเข้ารับการบริการก็ควรปรึกษาแพทย์ถึงความต้องการที่จะทำหัตถการร่วมกันเพื่อประเมินและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
โปรแกรม Radiesse Plus สามารถทำร่วมกับหัตถการได้อะไรบ้าง?

Radiesse Plus สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้หลายประเภท เช่น
- ร่วมกับการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ : การฉีด Radiesse Plus ร่วมกับฟิลเลอร์ช่วยเสริมสร้างมิติให้กับใบหน้า โดยใช้ฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้าส่วนต่าง ๆ เช่น ร่องแก้ม หรือปาก และใช้ Radiesse Plus เพิ่มมิติในบริเวณโหนกแก้ม กราม หรือกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวและมีมิติ
- ร่วมกับการฉีดสารลดริ้วรอย : การฉีด Radiesse Plus ร่วมกับสารลดริ้วรอย สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียบเนียนและกระชับมากขึ้น โดย Botox จะช่วยลดริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อหน้า เช่น ริ้วรอยบนหน้าผาก หรือรอบดวงตา ส่วน Radiesse Plus จะช่วยเพิ่มมิติและยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
- ร่วมกับโปรแกรมยกกระชับ : Radiesse Plus สามารถทำร่วมกับโปรแกรมยกกระชับผิว เช่น Thermage หรือ Ulthera ได้ โดยแนะนำให้ทำโปรแกรมยกกระชับก่อนแล้วค่อยฉีด Radiesse Plus เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี
- ทำ Radiesse ร่วมกับ Sculptra : Radiesse และ Sculptra สามารถทำร่วมกันได้เนื่องจากเป็นสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติเสริมกัน แต่มีการทำงานที่ต่างกัน โดย Radiesse ช่วยยกกระชับและเติมเต็มทันที ส่วน Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว การฉีดพร้อมกันต้องพิจารณาเรื่องบริเวณที่ฉีด และลำดับการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Radiesse vs Sculptra
คำแนะนำจากคุณหมออู๋ Infiniz Clinic

การฉีด Radiesse Plus จำเป็นต้องผ่านการประเมินและวิเคราะห์สภาพผิวก่อนฉีดจากคุณหมอที่มีความชำนาญเกี่ยวกับ Radiesse Plus โดยเฉพาะ เนื่องจากผลลัพธ์ของหัตถการก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงการมาฉีด Radiesse Plus บ่อย ๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผลดีเสมอไป เพราะเสี่ยงต่อการเป็น Overfill Syndrome ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียและผลข้างเคียงตามมา ดังนั้นการทำหัตถการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีจึงไม่ใช่การทำบ่อย แต่เป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ
โปรแกรมRadiesse Plusกระตุ้นคอลลาเจนและเสริมกรอบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
Radiesse Plus เป็นหัตถการที่พัฒนาต่อเนื่องมาจาก Radiesse ซึ่งต่างก็มีองค์ประกอบหลักของ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) เป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน ช่วยยกกระชับผิวและเสริมกรอบหน้าให้คมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง และ Radiesse Plus ยังมีการเติม Lidocaine ที่ช่วยลดความเจ็บและบวมของการรับบริการเข้าไปอีกด้วย
ที่ Infiniz Clinic มีบริการปรับรูปหน้าและแก้ไขปัญหาผิวด้วยฟิลเลอร์ โดยมี แพทย์หมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ ดูแลทุกเคสด้วยความจริงใจ
- Facebook: Infiniz Clinic :: Skin & Facial Design Expert
- Line ID: @Infinizclinic
- โทร : 098-828-5444
References
Drugs.com. (2024, September 5). Radiesse. Merz Aesthetics. https://www.drugs.com/radiesse.html
Gotter, A. (2018, April 21). Radiesse: What you need to know. Medically reviewed by Alan Carter, Pharm.D. Healthline. https://www.healthline.com/health/radiesse
Radiesse. (n.d.). Radiesse Plus. https://radiesse.com/professionals/radiesse-plus/