“ริ้วรอยใต้ตา” เป็นร่องรอยที่ไม่มีใครต้องการ เพราะเป็นเหมือนหลักฐานที่แสดงถึงความมีอายุ ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ดูโทรม แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะริ้วรอยใต้ตาเป็นปัญหาผิวหนังที่สามารถดูแลให้ดีขึ้นได้ ถ้าอยากรักษารอยย่นใต้ตาให้จางลง ในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีลดริ้วรอยใต้ตา รวมถึงวิธีป้องกันเพื่อลดโอกาสเกิดริ้วรอยใต้ตาก่อนวัย ให้ใบหน้าเรียบเนียนและแลดูอ่อนเยาว์
KEY TAKEAWAY
- ริ้วรอยใต้ตาเป็นปัญหาผิวที่เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอายุ การแสดงสีหน้า แสงแดด หรือพฤติกรรมต่าง ๆ อย่างการถูหน้า ขยี้ตา นอนน้อย ผิวรอบตาขาดความชุ่มชื้น
- ปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยลดริ้วรอยใต้ตาได้ เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์ โปรแกรมคลื่นวิทยุ RF การทาครีมบำรุง หรืออาจทำศัลยกรรมใต้ตา ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาริ้วรอย
- ปัจจุบันไม่มีวิธีไหนรักษาริ้วรอยใต้ตาให้หายขาด แต่มีวิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยรอบดวงตา เช่น ทาครีมกันแดด ครีมบำรุงเพิ่มความชื้น
ริ้วรอยใต้ตาแต่ละแบบเป็นอย่างไร?
ริ้วรอยใต้ตาที่ปรากฏบนใบหน้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามสาเหตุการเกิดรอยขีดใต้ตา คือ Dynamic Wrinkle และ Static Wrinkle ซึ่งริ้วรอยใต้ตาแต่ละประเภทมีลักษณะแตกต่างกัน ดังนี้
- Dynamic Wrinkle (ริ้วรอยชั่วคราว) : รอยรอบตาที่เกิดจากการแสดงสีหน้าหรือขยับหน้า ซึ่งเป็นรอยที่ปรากฏออกมาชั่วคราว เมื่อไม่ค่อยได้ขยับใบหน้ารอยจะหายไป ผิวรอบตาก็จะกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง แต่ริ้วรอยนี้อาจพัฒนาเป็นริ้วรอยถาวรเมื่ออายุเพิ่มขึ้นได้
- Static Wrinkle (ริ้วรอยคงที่) : รอยใต้ตาที่เกิดจากการแสดงสีหน้าหรือขยับหน้าบริเวณเดิมเป็นประจำ แสงแดดและอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ชั้นผิวรอบดวงตาเสื่อมสภาพ จนกลายเป็นริ้วรอย ร่องลึกถาวรที่แม้ว่าจะทำหน้านิ่งก็ยังมีรอยปรากฏ
สาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตา
เคยสงสัยไหมว่าทำไมถึงมีริ้วรอยใต้ตาขึ้น ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากอะไร? ริ้วรอยใต้ตาสามารถเกิดได้จากทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยมีสาเหตุการเกิดดังนี้
- อายุที่เพิ่มขึ้น : เมื่ออายุเพิ่มขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัว ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินได้น้อยลง ชั้นผิวหนังมีความยืดหยุ่นลดลงตาม ทำให้รอบ ๆ ใต้ตามีริ้วรอยปรากฏขึ้น
- การแสดงสีหน้า : เมื่อหัวเราะ ยิ้ม โกรธ ร้องไห้ หรือแสดงสีหน้าแบบอื่น ๆ กล้ามเนื้อบริเวณเดิมจะขยับซ้ำ ๆ ทำให้มีริ้วรอยใต้ตาขึ้น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน : ทั้งการขยี้ตา เช็ดถูตา จะทำให้เกิดรอยขีดใต้ตาขึ้น และถ้าพักผ่อนน้อยก็อาจทำให้มีใต้ตาดำปรากฏด้วย
10 วิธีดูแลริ้วรอยใต้ตาให้รอยจางลง
สำหรับผู้ที่กังวลว่ามีใต้ตามีริ้วรอย ทําไงดี? ในที่นี้ก็จะมาแนะนำ 10 วิธีดูแลริ้วรอยใต้ตาในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้มีความกระชับ เรียบเนียนมากขึ้น ดังนี้
1. ลดริ้วรอยด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา
โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีช่วยให้ริ้วรอยใต้ตาตื้นขึ้นด้วยการนำสารเติมเต็ม HA ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสารไฮยาลูรอนิคที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ มาฉีดเข้าสู่บริเวณรอบดวงตาที่มีริ้วรอย ร่องลึก เบ้าตาจม ตีนกาใต้ตา เพื่อเติมเต็มชั้นผิวให้สมดุล เรียบเนียน และช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ชั้นผิวบริเวณรอบดวงตามีความยืดหยุ่น แข็งแรงมากขึ้น
นอกจากนี้แล้วโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยปรับขนาดถุงใต้ตาดูเล็กลง พร้อมปรับผิวหมองคล้ำบริเวณใต้ตาให้กระจ่างใสมากขึ้นได้อีกด้วย โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ราว 9-24 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อสารเติมเต็มที่ใช้ ถ้าอยากปรับตำแหน่งสารเติมเต็ม หรือทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ก็สามารถเข้าโปรแกรมฉีดสลายฟิลเลอร์ออกก่อนฉีดใหม่อีกครั้งได้เหมือนกัน
ทั้งนี้สารเติมเต็มที่นำมาใช้ในโปรแกรมฟิลเลอร์มีอยู่หลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติต่างกัน ถ้าลังเลว่าควรใช้ยี่ห้อไหนดี สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
2. ลดริ้วรอยใต้ตาด้วยโปรแกรม Rejuran
โปรแกรม Rejuran เป็นหนึ่งในวิธีช่วยแก้ปัญหาใต้ตาเป็นรอยขีดด้วยสารสกัดจาก DNA ของปลาแซลมอน โดยจะฉีดสารเข้าสู่ชั้นผิวหนังรอบดวงตา เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งมีส่วนช่วยฟื้นฟูชั้นผิวบริเวณรอบดวงตาให้กลับมามีความยืดหยุ่น แข็งแรง ส่งผลให้รอยย่นหรือริ้วรอยใต้ตาลดลง และยังมีส่วนช่วยปรับผิวให้สว่างใสมากขึ้นด้วย
3. ลดริ้วรอยใต้ตาด้วยคลื่นวิทยุ
คลื่นวิทยุหรือการทำโปรแกรม Thermage เป็นการนำคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio-Frequency) มายิงเข้าไปที่ชั้นผิวใต้ไขมันบริเวณรอบผิวดวงตา ให้คอลลาเจนหดตัวลง ก่อนที่ร่างกายจะกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวให้กลับมาแข็งแรง จึงช่วยแก้ไขปัญหาผิวใต้ตาย่น เป็นรอยเหี่ยว หรือหย่อนคล้อย ให้กลับมากระชับ เต่งตึงมากขึ้น
4. การทำ PRP (Platelet Rich Plasma)
โปรแกรม PRP เป็นวิธีช่วยให้ริ้วรอยใต้ตาจางลง และช่วยรักษารอยคล้ำใต้ตาให้กระจ่างใสด้วยเลือด โดยแพทย์จะนำเลือดของผู้รับบริการมาปั่นแยกพลาสม่าที่มีเกล็ดเลือดอุดมไปด้วย Growth Factor มาฉีดบริเวณที่พบปัญหาริ้วรอยเส้นใต้ตา ให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจน และซ่อมแซมชั้นผิวกลับมากระชับขึ้น แต่เนื่องจากต้องใช้เลือดของผู้รับบริการ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเลือดแข็งตัวช้า
5. โปรแกรมฉีดสารลดเลือนริ้วรอยใต้ตา
โปรแกรมฉีดสารลดเลือนริ้วรอย เป็นโปรแกรมที่นำสารโบทูลินัมท็อกซินซึ่งเป็นโปรตีนที่มีความบริสุทธิ์สูงมาฉีดเข้าสู่ชั้นผิว เพื่อช่วยลดริ้วรอยใต้ตาให้พื้นผิวรอบดวงตามีความสม่ำเสมอ ดูละมุนมากขึ้น เหมาะกับการใช้ลดริ้วรอยหรือตีนกาที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า เพราะโบท็อกจะคอยออกฤทธิ์ยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อให้ขยับตัวไม่ได้ชั่วคราว
6. ลดริ้วรอยด้วยการดูแลตัวเอง
การดูแลตัวเองเป็นวิธีลดริ้วรอยใต้ตาแบบธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจช่วยให้ริ้วรอยใต้ตาตื้น ๆ ที่ปรากฏจางลงได้ โดยสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้เกิดริ้วรอย เช่น การโดนแสงแดด การนอนดึก พักผ่อนน้อย และอื่น ๆ หรืออาจเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยการมาส์กตาด้วยสมุนไพรที่หาซื้อง่าย เช่น แตงกวา ใบบัวบก ว่านหางจระเข้ หรืออาจใช้มาส์กบำรุงตาสำเร็จรูปก็ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยลึกใต้ตาได้เหมือนกัน
7. โปรแกรมเลเซอร์เพื่อลดริ้วรอยใต้ตา
โปรแกรมเลเซอร์เป็นวิธีแก้ปัญหาใต้ตาเป็นเส้นเล็ก ๆ ที่เกิดจากการแสดงสีหน้าชั่วคราวได้ โดยนำเลเซอร์มายิงรอบดวงตาเพื่อให้เกิดกระบวนการผลิตคอลลาเจนขึ้น แต่โปรแกรมเลเซอร์อาจไม่เหมาะกับการรักษาปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากอายุ การแสดงสีหน้าบริเวณเดิม ๆ อย่างร่องลึก ใต้ตายุบตัว ใต้ตาเหี่ยวย้อย เพราะต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผล และผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ชัดเจน
8. การทาครีมบำรุง
การทาครีมบำรุงช่วยลดริ้วรอยใต้ตาตื้น ๆ ได้ เพราะครีมบำรุงส่วนใหญ่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิค ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผิวหนังใต้ตาที่ขาดความชุ่มชื้นได้ และถ้าต้องการปรับสีผิวใต้ตาให้กระจ่างใสมากขึ้น ก็สามารถใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินเอและวิตามินซีมาทารอบดวงตาได้ด้วยเหมือนกัน แต่จะต้องหมั่นทาครีมบำรุงบ่อย ๆ เพื่อให้ครีมบำรุงแสดงประสิทธิภาพเต็มที่
9. คลื่นเสียงลดริ้วรอยใต้ตา
โปรแกรมคลื่นเสียงลดริ้วรอยใต้ตาที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่าง HIFU หรือ Ulthera สามารถนำมาใช้กระชับริ้วรอยใต้ตาขนาดเล็กให้ริ้วรอยจางลง และสามารถปรับผิวรอบดวงตาที่มีความหย่อนคล้อยให้กระชับมากขึ้นได้ โดยนำคลื่นเสียงอัลตราซาวด์มายิงเข้าสู่ผิวชั้นใต้ผิวหนังให้ชั้นผิวหดตัว และเกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนเพื่อฟื้นฟูชั้นผิวหนังต่อไป
10. การศัลยกรรมเพื่อลดริ้วรอยใต้ตา
การศัลยกรรมเป็นวิธีรักษาริ้วรอยใต้ตาสำหรับผู้ที่มีปัญหาตาเหี่ยว ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยรุนแรง โดยแพทย์จะผ่าตัดเอาผิวหนังใต้ตาส่วนเกินออกไปแล้วเย็บกลับ ทำให้ผิวใต้ตากระชับขึ้นได้ในระยะยาว แต่การศัลยกรรมจำเป็นต้องเปิดแผล ทำให้ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน และควรดูแลแผลใต้ตาอย่างดีเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อตามมา
ป้องกันการเกิดริ้วรอยใต้ตาได้อย่างไร
ริ้วรอยใต้ตาเป็นรอยที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแม้ว่าจะดูแลรอยใต้ตาเป็นอย่างดี ถ้าไม่อยากกังวลทีหลังว่ามีริ้วรอยใต้ตา ทําไงดี สามารถทำตามวิธีป้องกันไม่ให้รอบดวงตามีริ้วรอยขึ้นเยอะได้ เช่น
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจ้า และหมั่นทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะริ้วรอยใต้ตาเกิดขึ้นกับทุกวัยแม้อายุน้อย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพื่อคงความชุ่มชื้นของผิวไว้อยู่เสมอ เมื่อผิวมีความชุ่มชื้น ก็จะมีโอกาสเกิดริ้วรอยใต้ตาขึ้นน้อยลง
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ชั้นผิวเกิดกระบวนการซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตา เช่น นอนตะแคง นอนคว่ำ ถูหรือขยี้ตาแรง ๆ รวมถึงการงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
แต่ถ้าเริ่มมีริ้วรอยใต้ตาขึ้น แล้วอยากรักษาริ้วรอยด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับริ้วรอยใต้ตา
สำหรับคำถามที่หลายคนสงสัย ทางเราได้รวบรวมคำตอบมาให้พร้อมแล้วในบทความนี้
1. การนอนหลับส่งผลต่อริ้วรอยใต้ตาอย่างไร?
การนอนหลับส่งผลต่อริ้วรอยใต้ตาทั้งในแง่กระบวนการฟื้นฟูผิวที่อาจทำงานได้ไม่เต็มที่หากเรานอนพักผ่อนไม่เพียง รวมถึงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำที่ส่งผลให้เกิดการเสียดสี กดทับบริเวณผิว เป็นเหตุให้เกิดริ้วรอยตามมา เราจึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและท่าทางการนอนให้เหมาะสม
2. การออกกำลังกายส่งผลต่อริ้วรอยใต้ตาหรือไม่?
คำตอบ คือ ใช่ การออกกำลังกายส่งผลต่อริ้วรอยใต้ตา โดยการช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนและได้รับออกซิเจนมากขึ้น ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและริ้วรอยลดลง รวมถึงการออกกำลังกายยังช่วยลดความเครียด ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้คอลลาเจนในผิวลดลง
3. โปรแกรมฟิลเลอร์ลดริ้วรอยใต้ตามีข้อดีและข้อกำจัดอย่างไร?
โปรแกรมฟิลเลอร์ลดริ้วรอยมีข้อดี คือ ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้ทันทีหลังทำหัตถการ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น นับว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาที่สะดวกและรวดเร็ว แต่ก็มีข้อจำกัด คือ ผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวรขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโปรแกรมฟิลเลอร์และการดูแลตัวเอง
4. อาหารการกินมีผลต่อริ้วรอยใต้ตาหรือไม่?
ใช่ อาหารการกินมีผลต่อการเกิดริ้วรอยใต้ตา โดยอาหารบางประเภท เช่น เนื้อสัตว์แปรรูป น้ำตาล ส่งผลให้ผิวเกิดการเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยได้ง่าย กลับกันหากเลือกทานอาหารประเภทโปรตีน ผักผลไม้ หรือไขมันดี ก็จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและบำรุงผิวให้กลับมาเรียบเนียนได้
5. ความชุ่มชื้นส่งผลต่อริ้วรอยใต้ตาอย่างไร?
ความชุ่มชื้นจะช่วยปรับสมดุลผิว ทำให้ผิวที่แห้งกร้านกลับมาชุ่มชื้นและช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ริ้วรอยใต้ตาลดลง โดยเราสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์
โปรแกรมริ้วรอยใต้ตา รักษาริ้วรอยใต้ตาให้ตื้นขึ้นกับ Infiniz Clinic
ริ้วรอยใต้ตาเป็นริ้วรอยที่เกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งจากการเสื่อมสภาพของชั้นผิวหนังและกระดูกเมื่ออายุเพิ่มขึ้น การแสดงสีหน้า รวมถึงการทำพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การโดนแสงแดด ถูหรือขยี้ตาแรง และอื่น ๆ ถ้าไม่อยากให้ริ้วรอยขึ้นก่อนวัย ควรดูแลตัวเอง หมั่นทาครีมบำรุงผิวหรือมาส์กตาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้รอบดวงตา ให้ชั้นผิวแข็งแรงอยู่เสมอ
แต่ถ้ามีริ้วรอยใต้ตาแล้วอยากลดรอยใต้ตา แนะนำทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับ Infiniz Clinic มีบริการฉีดสารเติมเต็มที่มีคุณภาพ โดยมีแพทย์หมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ เป็นแพทย์ผู้ฉีดสารเติมเต็มให้กับผู้รับบริการ ถ้าสนใจโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถสอบถามข้อมูลโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และรายละเอียดอื่น ๆ กับแพทย์และทีมงานได้ตามช่องทางดังนี้
- Facebook : Infiniz Clinic :: Skin & Facial Design Expert
- Line ID: @Infinizclinic
- โทร : 098-828-5444
References
Goel, A. Sethi, P. (2020). Concealing of under eye orbital fat pads with hyaluronic acid filler: A case report. J Cosmet Dermatol. 19(4):820-823. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/31410995/
