Anatomy บริเวณใต้ตา (Tear Trough Anatomy)
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไรให้ปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามลงตัวอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตานั้นถือว่าเป็นบริเวณที่มีความซับซ้อนค่อนข้างมาก เนื่องจากว่า มีโครงสร้าง ผิวหนังไขมัน กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ที่วางตัวซ้อนทับกัน และ พาดเกี่ยวกัน ด้วยเส้นใยกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่สำคัญปริมาณมากรวมทั้งพื้นที่บริเวณใต้ตาและแก้ม จะมีการเคลื่อนไหวอย่างมากนำมาซึ่งพยาธิสภาพที่ผิดปกติเมื่อ อายุที่มากขึ้น ทั้งความหย่อน และโครงสร้างที่บางหรือพร่องลงไป นอกจากนี้ บริเวณใต้ตา และแก้ม ยังมีเส้นเลือดเส้นประสาทสำคัญปริมาณมาก และมีความสำคัญที่เชื่อมต่อเข้าสู่ดวงตาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นแพทย์จึงจำเป็นต้องรู้ตำแหน่งของเส้นเลือดเหล่านี้อย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ไปในบริเวณดังกล่าว หรือ ป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์นั่นเอง พื้นทีบริเวณใต้ตา ประกอบด้วย Jigsaw ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกัน และ วางทับกันอยู่เป็นปริมาณมาก และ มีขนาดหรือการเรียงตัวที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลการเข้าใจถึงพยาธิสภาพปัญหาที่ถูกต้องสำหรับปัญหาใต้ตาจึงต้องได้รับการฝึกฝน และ ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์อย่างมากโดยการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เล็กๆนี้ ยังต้องอาศัยความแม่นยำในการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณนั้นๆอีกเช่นกันดังนั้นสิ่งสำคัญที่แพทย์ทุกคนควรต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างสูง นั่นคือโครงสร้างกายวิภาคศาสตร์บริเวณใต้ตา อย่างละเอียด เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามไร้ผลข้างเคียง ปัญหาที่พบบ่อยคือ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน หลังฉีด ซึ่งอาจพบได้หลังจากฉีดไปแล้ว 3-6 เดือน หรือในบางราย อาจยาวนานถึง 1 ปี จึงค่อยเกิดปัญหานี้ขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักคือการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแทรกตัวอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อนั่นเอง โดยมักเกิดขึ้นจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณใต้ตามีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก จึงง่ายต่อการเกิดภาวะดังกล่าว ซึ่งวิธีแก้คือ การฉีดสลายฟิลเลอร์ส่วนเกินนั้นออกและ ทำการแก้ไขใหม่ตามความเหมาะสม อีกปัญหาหนึ่งคือการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาในชั้นตื้นเกินไปและปริมาณมากเกินไป จึงเกิดเป็นก้อนสีเทาๆ จากแสงที่ตะกกระทบลงบนผิว ทำให้เกิดความไม่เรียบเนียนและไม่สวยงาม ขั้นตอนนี้ เกิดขึ้นจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง หรือการใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพปัญหา จึงเกิดภาวะไม่กลืนตัวเข้ากับผิวบริเวณดังกล่าว โดยแพทย์ผู้ฉีดต้องมีความระมัดระวังอย่างสูงนั่นเอง โดยการแก้ไข ก็จำเป็นต้องฉีดยาสลายฟิลเลอร์ส่วนนั้นออก และ ประเมินสภาพปัญหาใหม่ การเลือกชนิดของ HA Fillerก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญที่จะนำมาซึ่งผลการรักษาที่ดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับโครงสร้างหรือผิวพรรณของผู้รับบริการได้อย่างดีเยี่ยม โดยฟิลเลอร์ที่นิยมฉีดแก้ไขบริเวณใต้ตา สำหรับคนไทย คือ Restylane Vital Light หรือ Restylane Classic และ Juvederm Volbella or Juvederm Volite นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ในผู้รับบริการบางคน ที่มีร่องใต้ตาลึกมาก ก็สามารถใช้ Filler ชนิดที่มีโมเลกุลใหญ่ขึ้น นำมาแก้ปัญหาได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาด้วยโปรแกรม Daisy Eyes โดยคุณหมออู๋ ณัฐพล ยังถูกออกแบบมาให้สามารถใช้เทคนิคในการยกกระชับ และ แก้ไขถุงใต้ตา ได้อีกด้วย โดยจากการดูโครงสร้างบริเวณใต้ตาจะเห็นได้ว่า เมื่ออายุที่มากขึ้น ย่อมทำให้กระดูกเบ้าตา และ ชั้นไขมันใต้ตา บางลง เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อก็มีความหย่อนไม่กระชับอีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้ไม่สามารถค้ำจุนถุงใต้ตาที่โป่งพองออกมาจากอายุที่มากขึ้นได้ ดังนั้น การแก้ไขด้วยการวางฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลพอดี และแม่นยำ จึงช่วยให้มีโครงสร้างที่ support ถุงใต้ตาได้อย่างดีทำให้ขนาดลดลง ดังนั้นด้วยวิธีการฉีดฟิลเลอร์ ใต้ตาอย่างถูกวิธี จึงสามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมได้อีกด้วย **อย่างไรก็ตามปัญหาถุงใต้ตา มีความซับซ้อน และมีหลากหลายรูปแบบแนะนำพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาก่อนได้รับการรักษาเท่านั้น เพื่อวางแผนการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากปัญหาถุงใต้ตาของผู้รับบริการแต่ละคนแตกต่างกัน
บอกลาปัญหา! ใต้ตาคล้ำ ตาลึก ตาโหลด้วย Filler จาก Infiniz Clinic
เรื่องของใบหน้า ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนมักจะให้ความสำคัญ เพราะใบหน้ามักจะเป็นจุดแรกที่คนภายนอกมองเห็น บางอาชีพ ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ใบหน้าในการทำงาน ดังนั้นจะปล่อยให้หน้าเกิดปัญหา หรือไม่สดใสไม่ได้ ซึ่ง หนึ่งในเรื่องที่กวนใจมากที่สุด คือปัญหาใต้ตาคล้ำ ตาลึก ตาโหล ซึ่งในวันนี้ Infiniz Clinic จะพาทุกคนไปดูถึงสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาหมองคล้ำ ใช้ฟิลเลอร์ตัวไหน สำหรับแก้ปัญหาดังกล่าว ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและใครคือคนที่เหมาะในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รับรองเลยว่าคุณจะตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น ปัญาใต้ตาคล้ำ ตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร 1. พันธุกรรม พันธุกรรม ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาใต้ตาคล้ำ ตาลึก ตาโหลได้ เนื่องจากมีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากนี้เชื้อชาติก็นับว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดปัญหาใต้ตา เช่น คนอาหรับ อินเดีย จะมีใต้ตาคล้ำที่เยอะกว่าคนชาติอื่น ๆ 2. อายุเพิ่มขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ไขมันภายในร่างกายจะลดลงตามช่วงวัย ซึ่งไขมันที่อยู่ระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อรอบดวงตาก็เช่นเดียวกัน เมื่อไขมันลดลง ก็จะส่งผลให้รอบดวงตามีความหมองคล้ำไปด้วย ไม่เพียงแค่นั้น การยุบตัวของกระดูก ก็จะส่งผลให้เกิดร่องตาลึก และเห็นใต้ตาคล้ำมากขึ้นเช่นเดียวกัน 3. ถุงใต้ตา ความหมองคล้ำที่เกิดจากถุงใต้ตา เกิดจากถุงไขมันใต้ตาและหลอดเลือดส่วนเกินที่ไปเลี้ยงบริเวณใต้ตา จนเห็นเงาเส้นเลือดจนมืด นอกจากนี้ ถุงไขมันก็จะนูนขึ้นด้วย อีกทั้งยังสร้างเงาบริเวณใต้ตา หรือเห็นร่องและจุดด่างดำบริเวณร่อง สามารถรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อขจัดไขมันส่วนเกินออกไป ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาเรียบเนียนกระชับ เป็นธรรมชาติ 4. โรคภูมิแพ้ หลอดเลือดดำรอบดวงตาของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้มีขนาดใหญ่กว่าปกติ การแพ้อาจทำให้เกิดอาการคันตา ระคายเคือง และแม้กระทั่งทำให้คนขยี้ตา การเสียดสีบ่อยครั้งจะรบกวนผิวหนังรอบดวงตา ซึ่งไปกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ในผิวหนังให้ผลิตเมลานินมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ผิวใต้ตาคล้ำได้อีกด้วย 5. แสงอาทิตย์ แสงอาทิตย์ มีผลกระทบโดยตรง เนื่องจากผิวใต้ตาบอบบางมาก ผิวหนังใต้ตาของคุณอาจจะบางลงจนมองเห็นเส้นเลือดบริเวณดวงตาได้ชัดเจน และทำให้ใต้ตาดูคล้ำ หากคุณต้องเจอกับแสงแดดเป็นประจำ นอกจากนี้ การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์เป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการผลิตเม็ดสีผิวมากขึ้น ทำให้ผิวที่บอบบางใต้ตาดูมีสีเข้มกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกาย 6. การพักผ่อนน้อย มีความเครียด การใช้สายตามากเกินไป ฯลฯ การอดนอนและการพักผ่อนรวมถึงความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน มันกลายมาเป็นเพื่อนกับรอยคล้ำเพราะอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้ ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ไม่ดี อาจทำให้รอยคล้ำใต้ตาแย่ลงได้ ดังนั้นผู้ที่ต้องการรักษารอยคล้ำจึงต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี มีความแตกต่างกันยังไง ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane สำหรับฟิลเลอร์ Restylane ยี่ห้อแรกนี้ จะมี 2 ส่วนที่โดดเด่น คือ NASHA techology และ OBT technology ซึ่งเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ตัวฟิลเลอร์เกิดความหลากหลาย และได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก เนื่องจากความหลากหลาย ทำให้เหมาะกับผิวหน้าของคนไข้ในแต่ละปัญหา โดยทั้งนี้ Restylane ที่เหมาะจะฉีดบริเวณใต้ตา มี 4 รุ่นด้วยกันดังนี้ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นและกลืนตัวกับผิวค่อนข้างมาก มีจุดเด่นคือสามารถใช้ฉีดแก้ปัญหาแอ่งลึกใต้ตา แก้ปัญหาใบหน้าตอบ จากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก และชั้นไขมันที่หายไป โดยสามารถฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก เพื่อให้โครงสร้างบริเวณใต้ตาได้สัดส่วน ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น สำหรับการฉีดใต้ตา รุ่นที่แนะนำคือ ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกาที่นำเข้าโดยบริษัท Allergan Aesthetics Thailand by Abbvie โดยคุณสมบัติเด่นของเนื้อฟิลเลอร์จะมี Crosslink (จำนวนการเชื่อมพันธะ) ที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง เติมเต็มได้ดีขึ้น และเก็บน้ำได้ดี โดยเจลในกลุ่ม VyCross มีความสามารถขึ้นทรงยึดเกาะเฉพาะจุดที่ดี แต่ก็สามารถกลืนตัวกับผิวได้ดีเช่นกัน หลังฉีดจึงมีความเรียบเนียน ทำให้ฉีดแล้วไม่ฟูมากเกินไปจนผิดธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี โดยรุ่นของฟิลเลอร์ Juvedermที่เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา หมอจะแนะนำ 3 รุ่นดังนี้ครับ ทั้ง 3 รุ่นนี้จะมี Vycross ที่เป็นเทคโนโลยีในเรื่องของการยกระชับ เพราะมีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น หลังฉีดยังคงให้ความเป็นธรรมชาติ ดูเรียบเนียนไม่เป็นก้อน ซึ่งถ้าหากจะถามว่าฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี จากประสบการณ์ของหมอแล้ว ฟิลเลอร์ Juvederm ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี ผลข้างเคียงหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รอยบวม หรือรอยเข็มที่มีสาเหตุมาจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไปแล้ว ซึ่งไม่ต้องกังวล รอยเข็มจะค่อย ๆ หายไปภายในระยะเวลา 2-3 วัน ในเรื่องของอาการบวมจะลดลง ฟิลเลอร์จะกลายเป็นธรรมชาติ จะใช้เวลาราว ๆ 2 สัปดาห์ ถึงจะหาย 100% ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Infiniz Clinic ปลอดภัย 100% การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาค่อนข้างเป็นบริเวณที่ พบปัญหาได้ค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะ ปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน จึงขอแนะนำผู้รับบริการศึกษาถึง ประสบการณ์ของแพทย์ จำนวนปีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ โดยเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Infiniz Clinic สำหรับโปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่อินฟินิซ คลินิก ผู้รับบริการจะมั่นใจได้เลยว่าฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อ เป็นของแท้แน่นอน 100% เพราะเรานั้นให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ และความซื่อตรงต่อลูกค้าเป็นอันดับแรก ทุกหัตถการการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควบคุมโดย แพทย์ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญสูงทุกขั้นตอน นั่นคือ คุณหมออู๋ ณัฐพล คอยให้คำปรึกษา วิเคราะห์ปัญหาใต้ตา ร่วมกับการเลือกตัว HA Filler products พร้อมใช้เทคนิคพิเศษเฉพาะตัว ไม่เกิดผลข้างเคียงทั้งหลังฉีดและในระยะยาว เพื่อต้องการให้ลูกค้าที่เข้ามารับบริการได้ผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจในทุกเคส ดังนั้นถ้าคุณอยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยากให้ลองมาที่ Infiniz Clinic เพื่อรับการวิเคราะห์ และ การรักษาที่ตรงจุด ปลอดภัยทุกขั้นตอน และได้ผลหลังทำตามที่ใจปรารถนาค่ะ โปรโมชั่นฟิลเลอร์ใต้ตาที่อินฟินิซ คลินิก เริ่มต้นที่ 16,500 บาท / CC
ตอบคำถามที่หลายคนสงสัย สามารถแก้ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนได้ไหม
ปัญหาหนึ่งที่เจอได้เยอะในกลุ่มผู้เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ นั่นคือ พบภาวะหลังฉีดเกิดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้เกิดจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ การประเมินปัญหา และเทคนิคการฉีดของแพทย์แต่ละบุคคล สิ่งสำคัญคือผู้รับบริการควรศึกษาข้อมูลสำคัญก่อนตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ เกี่ยวกับความสวยงามของตัวเองเสมอ หนึ่งในนั้นคือ การเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งพิจารณาแพทย์ที่จะทำการรักษา ประวัติความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมถึงผลงานการรักษาของแพทย์โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาเนื่องจากเป็นบริเวณที่ต้องใช้ประสบการณ์สูงเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่สวยงามไร้ผลข้างเคียง ไม่มีก้อน Infiniz clinic จะพาไปทำความรู้จักและเข้าใจกันให้มากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนว่ามีสาเหตุมาจากอะไร แบบไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ วิธีแก้ พร้อมหลักการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาให้ถูกวิธี ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อนเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ? ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เป็นลำ ผิดปกติ มีได้หลายสาเหตุ ก็จะมีเรื่องของตัวยี่ห้อและชนิดของฟิลเลอร์เอง ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการ ฉีดแก้ปัญหาใต้ตา เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและการจัดวางที่ผิดปกติ รวมถึงลักษณะกล้ามเนื้อกล้ามในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เช่น ในบางกรณีผู้รับบริการมีกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาที่มีความแข็งแรงมาก เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปอยู่บริเวณนั้นอาจทำให้เกิดการดันฟิลเลอร์เคลื่อนที่ออกจากบริเวณที่ต้องการได้ หมอได้รวบรวมสาเหตุที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เป็นลำ หรือ บวมผิดปกติได้ดังนี้ เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ แพทย์ผู้ฉีด มีความจำเป็นต้องรู้จักกายวิภาคศาสตร์ปัญหาของบริเวณใต้ตา ร่วมกับสามารถประเมินปัญหาได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งต้องอาศัยประสบการณ์ในการเลือกชนิดของ HA FILLER ในการแก้ปัญหาร่องใต้ตาในผู้รับบริการแต่ละคนได้อย่างดี และที่้สำคัญที่สุด เทคนิคเฉพาะตัวที่จะเป็นตัวกำหนดผลหลังฉีดให้ได้ผลงานที่เติมเต็มใต้ตาได้อย่างสวยงาม เป็นธรรมชาติ และ ไม่เกิดก้อน หากแพทย์ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์การฉีด ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดก้อน หรือ เกิดลำ ขึ้นได้ ชนิดของฟิลเลอร์ ต้องเลือกชนิดที่ความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะฉีด เช่น การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ เช่น restylane classic Restylane Defyne Juderm Volift and Voluma เหมาะกับการเติมในส่วนลึกเพื่อสร้างโครงสร้างเบ้าตาให้ดูเต็มขึ้น และมีมิติมากขึ้น โดยแพทย์จะต้องประเมินปัญหาจากการตรวจสภาพปัญหาผิวจริงก่อนทำการรักษาอีกครั้ง เนื่องจากสภาพผิวและปัญหาย่อมมีความแตกต่างกัน ระหว่างบุคคล การเลือกชนิดของ HA Filler ที่ถูกต้อง จะมีผลให้การรักษามีความสวยงาม ไม่เกิดก้อนหรือลำฟิลเลอร์ผิดปกติหลังทำ และ ขยับใบหน้าหรือยิ้มแสดงสีหน้าได้ตามปกติ ปริมาณที่ใช้ฉีด การคำนวณปริมาณฟิลเลอร์ที่จะฉีดมีความสำคัญมากอีกประการหนึ่ง โดยความแม่นยำในการคำนวณปริมาณฟิลเลอร์เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวในการฉีดฟิลเลอร์มาจำนวนมาก จึงจะสามารถคาดคะเนปริมาณฟิลเลอร์ที่มีความเหมาะสม ไม่มากเกินไปจนเกินความจำเป็นในแต่ละจุดที่รักษา จนทำให้เกิดผลข้างเคียงถูกดันออกไปในบริเวณใกล้เคียง หรือเกิดปัญหา ฟิลเลอร์เป็นก้อน เป็นลำ ในเวลาต่อมานั่นเอง มีอาการบวมหลังฉีด โดยปกติหลังการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะมีอาการบวมเล็กน้อย ประมาณ 3-5 วัน เท่านั้น ดังนั้นการประเมินการฉีดฟิลเลอร์ต้องรอให้อาการบวมยุบลง จนอยู่ในระดับที่ปกติ จนแน่ใจว่า หลังฉีดฟิลเลอร์มีก้อนหรือลำฟิลเลอร์ที่ผิดปกติหรือไม่ โดยทั่วไปการประเมิน มักทำที่ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์นั่นเอง ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์ปลอมในที่นี้จะหมายถึง ฟิลเลอร์ชนิดอื่นที่ไม่ใช่ Hyaluronic acid และจะไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่ผ่านมาตรฐาน อย.ไทย หรือ อาจจะเป็นฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic acid ที่ทำเลียนแบบขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่า ประสิทธิภาพของตัว HA อาจจะมีความไม่เสถียร เกิดปฏิกิริยากับผิวหนังบริเวณที่ฉีด และ อาจจะเกิดการเกาะเป็นกลุ่มเป็นก้อนไหล ไหลย้อยไม่เป็นทรง และอาจเป็นอันตรายกับผู้รับบริการได้ ดังนั้น ผู้รับบริการควรขอดูผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ก่อนฉีดเสมอ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์ของแท้ถูกต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน ตลอดจนนำเข้าโดยบริษัทตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ฟิลเลอร์เป็นก้อนแบบไหนปกติ VS ผิดปกติ ? ก้อนที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วงแรก เกิดจากอาการบวมของเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบหรือจากอาการระบมจากเข็มที่ส่งผ่านฟิลเลอร์เข้าสู่ชั้นผิวที่ต้องการ โดยผู้รับบริการอาจจะรับรู้ได้จากการคลำได้เป็นก้อนขนาดไม่ใหญ่ ไม่มีอาการบวม แดง ร้อน อาจจะมีอาการเจ็บเล็กน้อยไม่มาก ไม่สามารถมองเห็นได้เอง โดยก้อนลักษณะแบบนี้จะชัดเจนในช่วงแรก และ จะค่อยๆยุบลง จนเป็นปกติ ไม่มีอาการเจ็บใดๆ ใน 2 สัปดาห์ อาการฟิลเลอร์เป็นก้อนที่ผิดปกติ เช่น ภาวะฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิว ทำให้เวลาแสดงสีหน้าแล้วมีก้อนฟิลเลอร์ดันออกมาจากผิว แสดงว่าเป็นภาวะที่ฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้น เข้าไปอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อ หรือการฉีดใน ชั้นผิวส่วนตื้นแล้วไม่กลืนตัวเข้ากับผิว โดยภาวนะนี้มักเกิดจากการเลือกชนิดของฟิลเลอร์ผิดชนิดหรือประเภทนั่นเอง อาการฟิลเลอร์เป็นก้อนและมีอาการบวม แดง ร้อน และ เจ็บเมื่อสัมผัส โดยมักเกิดขึ้นหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วประมาณ 3 วัน ภาวะนี้เกิดจากการติดเชื้อที่ตัวฟิลเลอร์ หากเกิดสงสัยภาวะนี้ แนะนำพบแพทย์เพื่อประเมินสภาพปัญหา และ ต้องได้รับยาปฏิชีวนะร่วมกับการรักษาอื่นๆ ต่อไป แก้ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนทำยังไง ? การแก้ไขปัญหา ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน มีอยู่ 3 วิธีหลักๆ โดยแพทย์ต้องทำการประเมินสภาพปัญหาที่ใบหน้าผู้รับบริการเป็นหลัก ร่วมกับการตรวจบริเวณที่ผิดปกติ ร่วมกับประวัติชนิดของฟิลเลอร์ที่ได้รับการฉีดมา โดยทั่วไปฟิลเลอร์แท้ชนิด Hyaluronic acid สามารถฉีดสลายตรงบริเวณที่มีก้อนหรือลำผิดปกติได้เลย แต่ถ้าหากไม่ใช่ สารเติมเต็มจาก Hyaluronic Acid หรือฟิลเลอร์ปลอม อาจจะมีการเจือปนจำเป็นต้องทำการขูดหรือผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออกเท่านั้น การฉีดสลายฟิลเลอร์ หากฉีดฟิลเลอร์แท้ หรือ ฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มจาก Hyaluronic Acid ก็สามารถฉีดสลายได้โดยใช้ Hyaluronidase ในการฉีดสลาย หลังฉีดสลายจะเห็นผลหลังฉีดทันทีโดยฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนอยู่เช่นบริเวณใต้ตานูนเป็นลำผิดปกติก็จะสลายไปทันที ถือว่าเป็น Antidode ในการรักษาการฉีด Hyaluronic acid โดยเฉพาะนั่นเอง ผลภายหลังจากการฉีดสลายฟิลเลอร์ ด้วย Hyaluronidase จะทำให้ฟิลเลอร์ค่อยๆยุบตัวลง และสลายหายไปในที่สุด โดยในเคสที่พบบ่อยคือ มีการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาจากที่อื่นแล้วผู้รับบริการรู้สึกไม่พอใจในผลลัพธ์ที่ออกมาก็สามารถฉีดสลายออกได้เช่นกัน จะเห็นผลหลังฉีดทันทีในบางส่วนประมาณ 50% โดยระยะเวลาการสลายทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 1 สัปดาห์ การขูดฟิลเลอร์ เป็นการแก้ไขสำหรับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทกึ่งถาวรหรือฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายเองได้ โดยพบได้ในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ แพทย์ที่ขาดความรู้ความเข้าใจในความปลอดภัยของฟิลเลอร์ชนิดนั้นๆ โดยการขูดฟิลเลอร์จะเอาออกได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ประมาณ 50-70 % ไม่สามารถนำออกได้ทั้งหมด การทำศัลยกรรมผ่าตัดฟิลเลอร์ เป็นการแก้ไขสำหรับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือซิลิโคนเหลว ทำให้เกิดก้อนขนาดใหญ่ หรือ ผิดรูป เมื่อนานวันเข้า อาจจะมีอาการไหลย้อนเปลี่ยนที่ได้อย่างง่ายดาย ในบางเคส มีการฉีดในชั้นผิวมานาน จนเกิดพังผืด โดยส่วนมากถึงแม้จะเป็นการผ่าตัดแต่ก็ไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมด 100% ขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งที่ฉีด บางบริเวณจะต้องเลี่ยงเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด เช่น ผิวทะลุ หรือ เส้นประสาทอาจจะเกิดอันตรายได้ในระหว่างการทำผ่าตัด หลักการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาให้ถูกวิธี ? การแก้ไขปัญหาใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ สามารถเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลใหญ่ ที่ขึ้นทรงได้ดี ในการแก้ปัญหาเบ้าตาลึก หรือใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียดอ่อนนิ่ม ที่มีการกลืนตัวสูงในการแก้ไขปัญหาร่องใต้ตาระดับตื้น ก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวบริเวณใต้ตา และ โครงสร้างสรีรวิทยา ของแต่ละบุคคลนั่นเอง การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่อุ้มน้ำไว้มากเกินไป หรือมีการพองตัวสูงหลังจากฉีดไปแล้ว อาจจะเกิดภาวะใต้ตาบวมจนรูปหน้าเปลี่ยนไปได้ หรือ การเลือกฟิลเลอร์ที่แข็งเกินไป ก็ย่อมทำให้เกิดภาวะฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เป็นลำ ผิดปกติ โดยเฉพาะเวลายิ้มอาจจะเห็นความผิดปกติที่ชัดเจนมากขึ้นได้อีกด้วย ส่วนใหญ่แล้วจะเลือกใช้อยู่ 3 ยี่ห้อคือ Restylane , Juvederm และ Belotero เนื่องจาก 3 ยี่ห้อนี้มีคุณสมบัติเด่น คือฉีดแล้วคงรูป ไม่พองตัวมากเกินไป มีชนิดที่ตัวเจลอ่อนนิ่ม ไม่เป็นก้อน และมีลักษณะโมเลกุลที่เหมาะสมกับบริเวณใต้ตา แก้ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อน ที่ Infiniz Clinic ดีกว่าที่อื่นยังไง ? อันดับแรกที่อินฟินิซ ผู้รับบริการมั่นใจได้ว่า ฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้แน่นอน 100% เราให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ และความซื่อตรงต่อลูกค้า รวมถึงทางคลินิก ควบคุมการรักษาโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่าง หมออู๋ ณัฐพล ก่อนทำการรักษาจะต้องมีการตรวจสภาพผิวหน้า ประเมินปัญหาร่วมกับผู้รับบริการทุกครั้งและคุณหมออู๋ เป็นผู้คิดค้น เทคนิคพิเศษเฉพาะตัวในทุกตำแหน่งปัญหาของใบหน้า โดยอาศัยประสบการณ์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์มามากกว่า 15 ปี ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้ลูกค้าได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจสูงสุด โดยปราศจากผลข้างเคียง โดยเฉพาะโปรแกรม Daisy Eyes เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับการแก้ไขปัญหาใต้ตาที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในปัจจุบัน ลดปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนเป็นลำผิดปกติได้ 100% ราคาโปรโมชั่น ฟิลเลอร์ใต้ตา เริ่มต้นที่ 16,500 บาท / CC
Restylane Vital Light ฟิลเลอร์สำหรับลดริ้วรอยและร่องลึกใต้ตา
เพราะอายุที่มากขึ้น ริ้วรอยและร่องลึกใต้ตาก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่จะตามมา จึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีหยุดปัญหาดังกล่าว และรักษาผิวไม่ให้เกิดริ้วรอย ดังนั้นเลยต้องมีการใช้ฟิลเลอร์เข้ามาช่วยในการแก้ไข โดยในวันนี้เราอยากจะแนะนำยี่ห้อ Restylane เป็นตัว Restylane Vital Light หนึ่งในฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มในกลุ่ม HA ที่มีโมเลกุลบางเบา ช่วยแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตาได้ดี และจะพาไปดูความแตกต่างระหว่าง Restylane Vital กับ Restylane Vital Light ข้อห้ามในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รวมไปถึงข้อดีของการทำหัตถการดังกล่าว จาก Infiniz Clinic Restylane Vital Light คืออะไร มาจากไหน ? ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มในกลุ่มเจลไฮยาลูโรนิกแอซิด มีความสามารถในการเติมเต็มร่องลึก ลดเรือนริ้วรอย และยังสามารถดึงโมเลกุลของน้ำเข้ามาเก็บไว้กับบริเวณผิวที่ทำการเติม ฟิลเลอร์ดังกล่าว ทำให้ผู้ที่รับการรักษานอกจากได้ปรับแก้ริ้วรอยร่องลึก เติมเต็มจุดที่บกพร่อง และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น Restylane ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ทั่วโลก เนื่องจากมีงานวิจัยเป็นจำนวนมาก ที่ยืนยันเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยหลังจากการรักษาด้วยฟิลเลอร์ดังกล่าว การใช้งานจึงกระจายออกสู่ 70 ประเทศทั่วโลก ไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ Restylane Vital กับ Restylane Vital Light ต่างกันยังไง ? สำหรับ Restylane Vital กับ Restylane Vital Light มีความแตกต่างดังนี้ Restylane Vital Light เหมาะสำหรับใคร ? Restylane Vital Light เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์ โดยตัวเจล จะเข้าไปปรับสมดุลน้ำให้กับผิว และ กระตุ้นให้มีการจัดระเบียบของคอลลาเจนใหม่ นำมาซึ่ง ผิวเรียบเรียน อิ่มน้ำฉ่ำ โกลว์ รูขุมขนกระชับ และ ลดเรือนริ้วรอย นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา โดยตัวเจลมีความบางเบา เหมาะกับการแก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตาของสาวเอเชียได้อย่างเรียบเนียนและมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ คุณหมออู๋ยังมีการนำมาใช้ในโปรแกรม Skinboosters Lip เพื่อรักษารอยแตกและเพิ่มความชุ่มชื้นกับ ริมฝีปาก อีกด้วย ก่อนฉีด Restylane Vital Light มีข้อห้ามอะไรบ้าง ? ข้อดีของการฉีด Restylane Vital Light มีอะไรบ้าง ? แก้ปัญหาร่องตื้นใต้ตา เลือก Restylane Vital Light ที่ Infiniz เทคนิคการแก้ไขปัญหาร่องตื้นๆใต้ตา ทาง infiniz clinic ใช้โปรแกรม 3D Skinboosters ลิขสิทธิ์เฉพาะของคุณหมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวส่วนตื้นของบริเวณใต้ตา โดยเฉพาะ โดยคุณหมอจะทำการตรวจประเมินสภาพปัญหาของผิวบริเวณใต้ตา และเลือกการใช้ Restylane Vital or Vital Light อย่างเหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาร่องตื้นๆ บริเวณใต้ตาได้อย่างพอดี ด้วยเทคนิคการฉีดที่ใช้เข็มปลายทู่ขนาดที่เหมาะสม ทำให้ขั้นตอนการฉีดไม่ยุ่งยากซับซ้อน และ เข้าสู่จุดที่เป็นปัญหาบริเวณใต้ตาอย่างแท้จริง โดยไม่เกิดผลข้างเคียงต่อเส้นเลือดหรือเส้นประสาทบริเวณดังกล่าว ราคาโปรโมชั่นการฉีด Restylane Vital Light บริเวณใต้ตา เริ่มต้นที่ 16,500 บาท / CC
ทำความรู้จักกับ HA Filler สารเติมเต็มที่ Infiniz Clinic เลือกใช้
มาทำความรู้จักกับ HA Filler สารเติมเต็มที่ Infiniz Clinic เลือกใช้ หนึ่งในรูปแบบของการพัฒนาตัวเอง ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความงาม เพราะคนเราเมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพหรือผิวพรรณ ที่ต้องทำให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ซึ่งในวันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ HA Filler ว่าคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร เหมาะกับใคร เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ก่อนใช้บริการ HA Filler คืออะไร HA Filler (Hyaluronic Acid Filler) เป็นฟิลเลอร์ใช้ในการเติมเต็ม และเสริมส่วนบกพร่องมายาวนาน HA Filler ผลิตจากไฮยาลูโรนิค แอสิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ด้วยกระบวนการ Minimal Stabilization ส่งผลให้ HA สามารถคงอยู่ภายใต้ผิวหนังได้ยาวนานขึ้น HA ชนิดนี้ มีคุณสมบัติในการดึงน้ำเข้ารอบตัว ทำให้สามารถเติมเต็มเนื้อเยื่อให้กับผิวหนัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกติเมื่อคุณมีอายุมากขึ้นไฮยาลูโรนิค แอสิด ธรรมชาติที่อยู่ใต้ผิวหนัง จะมีปริมาณที่ลดลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอย โครงสร้างใบหน้าแลดูหย่อนคล้อย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีตัวช่วยอย่าง HA Filler เพื่อความอ่อนเยาว์ที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น HA Filler ทำงานอย่างไร หลักการทำงานของ HA Filler เมื่อเติมเต็มด้วย HA Filler จะช่วยเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าของคุณกลับมาเต่งตึง และสามารถเติมเต็มริ้วรอย ให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติในทันที ด้วยความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก HA Filler เป็นสารที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะสามารถทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการภายใต้ความปลอดภัย สูงสุด HA Filler สามารถทำให้คุณสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้ในทันที และจะคงอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทั้งนี้ฟิลเลอร์บางชนิดสามารถอยู่ได้ถึง 2 ปี HA Filler เหมาะกับใคร ถ้าถามว่า HA Filler เหมาะกับใคร จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล แต่กลุ่มที่เหมาะในการจะมาใช้บริการ HA Filler มีดังนี้ HA Filler ฉีดตรงไหนดี สำหรับคำถามที่ว่า HA Filler ฉีดตรงไหนดี นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่สงสัย ซึ่งสามารถตอบได้ตรงนี้เลยว่า จุดฉีดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมประกอบไปด้วย ร่องแก้ม การฉีด HA Filler บริเวณร่องแก้ม เหมาะกับใบหน้าที่เริ่มมีความหย่อนคล้อย เพราะจะช่วยกักเก็บน้ำไว้ชั้นใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มบริเวณช่องว่างของชั้นเซลล์ผิว ส่งผลให้ร่องแก้มที่ดูลึกนั้นตื้นขึ้น เรียบเนียนและอ่อนเยาว์ ขมับ การฉีด HA Filler บริเวณขมับ เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องโหนกแก้มสูง ผิวหน้าแก่กว่าวัย จะช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนสวยงาม ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น จมูก การฉีด HA Filler บริเวณจมูก เหมาะสำหรับคนที่ไม่มั่นใจทรงจมูกของตัวเอง ฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยในส่วนของการปรับสันจมูกให้ได้รูป หรือมีความโด่งเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ใต้ตา การฉีด HA Filler บริเวณใต้ตา เหมาะสำหรับคนที่บริเวณร่องใต้ตาลึก มีถุงไขมันใต้ตา ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้มีความสดใสมากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนคนที่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ และยังช่วยลดรอยดำ ร่องลึก อีกด้วย ริมฝีปาก การฉีด HA Filler บริเวณริมฝีปาก เหมาะสำหรับคนที่ปากไม่ได้รูป โดยฉีดเพื่อให้ปากมีความอวบอิ่ม เติมเต็มบริเวณร่องปาก ยกมุมปากให้ได้ทรงสวย โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด บริการ HA Filler ที่ Infiniz Clinic HA Filler ที่ Infiniz Clinic เลือกใช้ HA Filler ผลิตจากประเทศสวีเดนและอเมริกาเท่านั้น โดยถูกนำมาใช้แก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ตั้งแต่ปี 1996 และปัจจุบันได้มีการใช้ HA Filler อย่างแพร่หลาย มากกว่า 28,000,000 การรักษา และมีการใช้มากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยทาง Infiniz Clinic มีการใช้ HA Filler ในการรักษาแทบทุกปัญหาของผิวตั้งแต่ร่องลึก ริ้วรอย ปรับรูปหน้า เสริมคาง จมูก แก้ไขปัญหาผิวขาดน้ำ หยาบกร้าน ขาดความยืดหยุ่น โดย 2 รุ่นที่ได้รับการยอมรับและนำเข้ามาใช้ภายในคลินิกคือ Restylane และ Juvederm เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลทันทีหลังทำหัตถการ
ทำความเข้าใจเรื่อง Filler เติมเต็มอย่างปลอดภัย
Fillers ที่ปลอดภัยจะเป็นกลุ่มที่อยู่ได้ระยะเวลาหนึ่งนานพอควร แต่ไม่ถาวร (non permanent)