การเสริมความงามด้วยการฉีดฟิลเลอร์คางกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะการฉีดเพื่อเติมเต็มผิวให้ดูสมส่วนและทรงหน้าออกมาดูดี ซึ่งช่วงเวลาหลังฉีดฟิลเลอร์คางเป็นช่วงสำคัญที่ต้องดูแลอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะเป็นการดูแลรักษาที่ไม่ซับซ้อน แต่การปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำจะช่วยลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่าหลังฉีดคางควรทําอย่างไรบ้าง ทั้งข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง หลังฉีดฟิลเลอร์คางห้ามกินอะไร รวมไปถึงหลังฉีดฟิลเลอร์คางควรดูแลยังไงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
KEY TAKEAWAY
- หลังฉีดฟิลเลอร์คางมักมีอาการบวม ช้ำ และไม่สบายบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- การพักผ่อนและดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คางมีผลต่อผลลัพธ์ ควรนอนหงายและหนุนหมอนสูง งดนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด โดยเฉพาะแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมและการฟื้นตัวช้าลง
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง อาการเป็นอย่างไร?
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์คางที่พบได้บ่อยคือ อาการบวม รอยช้ำ และความรู้สึกไม่สบายบริเวณที่ฉีด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก บางรายอาจมีอาการเจ็บเมื่อสัมผัสหรือขยับคาง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด งดการออกกำลังกายหนัก ๆ และกิจกรรมที่ต้องก้มหน้าเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ควรระวังเรื่องการนอน โดยพยายามนอนหงายและหนุนหมอนสูง เพื่อลดแรงกดทับบริเวณคางและป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องในช่วงนี้จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
หลังฉีดฟิลเลอร์คางควรดูแลตัวเองอย่างไร
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คางนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะส่งผลต่อผลลัพธ์หลังการฉีดแล้ว ยังลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย โดยข้อควรปฏิบัติในการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คางจะมีดังนี้
- การนอน: สำหรับคำถามว่า “หลังฉีดฟิลเลอร์คางนอนตะแคงได้ไหม?” คำตอบคือควรหลีกเลี่ยงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรนอนหงายและใช้หมอนหนุนสูง เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์และลดอาการบวม การนอนคว่ำหรือตะแคงอาจทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่สม่ำเสมอ
- การทำความสะอาดใบหน้า: หลังฉีดฟิลเลอร์คางสามารถล้างหน้าได้ไหม? สามารถล้างหน้าได้แต่ควรทำอย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการขัดถูแรง ๆ และควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือสารที่อาจระคายเคืองผิวในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- การดูแลผิว: หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก งดการนวดหน้าหรือใช้เครื่องนวดหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกแดดและหลีกเลี่ยงการอบซาวน่าหรือการใช้ความร้อนบริเวณใบหน้า
- การรับประทานอาหาร: ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและการบวม
- การสังเกตอาการ: หมั่นสังเกตความผิดปกติ หากมีอาการบวม แดง หรือเจ็บมากผิดปกติ ควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คางมีอะไรบ้าง?
นอกจากการดูแลตัวเองแล้ว การทราบถึงข้อห้ามต่าง ๆ หลังการฉีดฟิลเลอร์คางก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะอาจส่งผลต่อผลลัพธ์และก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์คางข้อห้ามที่ควรรู้จะมีดังนี้
- ห้ามนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้รูปคางผิดรูปได้
- ห้ามนอนคว่ำหรือตะแคงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรนอนหงายและใช้หมอนหนุนสูงเพื่อลดแรงกดทับบริเวณที่ฉีด
- ห้ามออกกำลังกายหนักหรือทำกิจกรรมที่ต้องก้มหน้าเป็นเวลานานในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการบวมและการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ โดยสามารถเดินเบา ๆ หรือทำกิจกรรมเบา ๆ ได้
- ห้ามอบซาวน่า แช่น้ำร้อน หรือใช้ความร้อนบริเวณใบหน้าในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและบวมมากขึ้น
อาหารที่ไม่ควรรับประทานหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมหลังฉีดฟิลเลอร์คางก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาหารบางชนิดอาจส่งผลต่อการบวม การฟื้นตัว และผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์คางได้
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์: ควรงดในช่วง 1 สัปดาห์แรก เพราะแอลกอฮอล์จะขยายหลอดเลือด ทำให้เกิดรอยช้ำและอาการบวมได้ง่าย อีกทั้งยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- อาหารรสเผ็ด: ควรหลีกเลี่ยงในช่วง 3-5 วันแรก เพราะความเผ็ดจะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายบริเวณที่ฉีด
- อาหารที่มีรสเค็มจัด: ควรหลีกเลี่ยงในช่วงแรก เพราะโซเดียมจะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ส่งผลให้เกิดอาการบวมมากขึ้นและการฟื้นตัวช้าลง
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง: ควรจำกัดการรับประทาน เพราะน้ำตาลจะกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ทำให้การฟื้นตัวช้าและอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- กาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง: ควรลดปริมาณการดื่มในช่วงแรก เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและอาจทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น
- อาหารทอดมันและของมัน: ควรหลีกเลี่ยงในช่วงแรก เพราะหากไขมันสูงจะกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ทำให้การฟื้นตัวช้าและอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
ฟิลเลอร์คางเลือกยี่ห้อไหนดี ?
การเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและเหมาะกับการฉีดคางเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ทาง Infiniz Clinic ได้เลือกใช้ฟิลเลอร์คุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก มาดูกันว่าเลือกฉีดฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี?
Juvederm
Juvederm ฟิลเลอร์แบรนด์ดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) คุณภาพสูง ที่มีความบริสุทธิ์มากกว่า 90% อยู่ได้นาน 12-18 เดือน รุ่นที่นิยมใช้ คือ Juvederm Volum และ Juvederm Volux เหมาะสำหรับการฉีดเสริมคางโดยเฉพาะ เพราะมีความสามารถในการขึ้นทรงสูงแต่ยังคงกลืนตัวกับผิวหนังตามปกติสามารถปรับแต่งรูปคางได้อย่างประณีต และไม่เคลื่อนที่ง่าย ทำให้รูปคางอยู่ทรงและสวยงามในระยะยาว
Restylane
Restylane ฟิลเลอร์คุณภาพสูงจากประเทศสวีเดน ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ผลิตด้วยเทคโนโลยี NASHA ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความเสถียรสูง เหมาะสำหรับการฉีดปรับรูปคาง รุ่นที่นิยมคือ Restylane Lyft หรือ Restylane Defyne สามารถเพิ่มความชัดของโครงหน้าด้วยผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 9-12 เดือน มีความปลอดภัยสูงและลดความเสี่ยงในการเกิดการอักเสบหรือการแพ้
เช็กรายละเอียดเพิ่มเติม: ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคาเท่าไรบ้าง?
หลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้วมีก้อนขึ้นมาใต้คาง ควรทำอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นก้อนถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยสาเหตุอาจเกิดจากการฉีดที่ลึกหรือตื้นเกินไป ทำให้การกระจายตัวของฟิลเลอร์ไม่สม่ำเสมอ หรือการเกิดปฏิกิริยาของร่างกายต่อสารฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์คางหากพบว่าฟิลเลอร์เป็นก้อน ควรรีบปรึกษาคุณหมอในทันที เพราะการปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเนื้อเยื่อเกิดพังผืดได้ โดยคุณหมอสามารถแก้ไขได้หลายวิธี ทั้งการนวดคลายก้อนฟิลเลอร์อย่างถูกวิธี การฉีดสลายฟิลเลอร์ หรือในบางกรณีอาจต้องรอให้ฟิลเลอร์สลายตัวเองตามธรรมชาติ ทั้งนี้การรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและดุลยพินิจของคุณหมอ
ดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คางเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพ โดยควรนอนหงายและใช้หมอนหนุนสูงเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด งดออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ต้องก้มหน้านาน ๆ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์และอาหารรสจัด นอกจากนี้ควรปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด หากมีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นให้รีบปรึกษาคุณหมอในทันที
ที่ Infiniz Clinic บริการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มผิวและแก้ไขปัญหาใบหน้าด้วยฟิลเลอร์แท้ มาตรฐานผ่านอย. โดยทีมแพทย์หมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ แพทย์วิทยาการผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ระดับต้น ๆ ของประเทศ ประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์มามากกว่า 15 ปี มาพร้อมกับรางวัลการันตีในความสามารถมากมาย หากท่านใดสนใจฉีดฟิลเลอร์ หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับยี่ห้อฟิลเลอร์ ก็สามารถติดต่อสอบถามทางคุณหมอและทีมงานได้ตามช่องทางดังนี้
- Facebook: Infiniz Clinic :: Skin & Facial Design Expert
- Line ID: @Infinizclinic
- โทร : 098-828-5444
References
Dr. Baldeep Farmah. (2023, Jun 29). Chin Filler Aftercare: A Full Guide https://draesthetica.co.uk/ask-aesthetica/chin-filler-aftercare/
Team The Cosmetic Skin. (2024, Apr 24). Chin Filler Before and After https://www.cosmeticskinclinic.com/blog/chin-filler-before-and-after/
Dr. Aaron Stanes. (2024). Aftercare Guide: Chin Augmentation https://cosmeticconnection.com.au/articles/aftercare-guide-chin-augmentation/