ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์ยกกระชับช่วยปรับรูปหน้า
เมื่อร่างกายแก่ตัวลง ความหย่อนคล้อยบนใบหน้าสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่นวัตกรรมทางการแพทย์จะเข้ามาช่วยชะลอวัยและทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ลง ซึ่งปัจจุบันนวัตกรรมด้านนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฟิลเลอร์แก้มส้มหรือฟิลเลอร์แก้มตอบ หนึ่งในทางเลือกของคนที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปทรงของใบหน้าให้สวยงามและมีมิติในทุกมุมมอง ฟิลเลอร์ชนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนอกเหนือจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพราะจะเข้าไปเติมร่องแก้มให้ตื้นขึ้น และทำให้ริ้วรอยแห่งวัยจางลง รวมถึงสามารถช่วยปรับความโค้งนูนของโหนกแก้ม เพื่อทำให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้นได้ด้วย แก้มส้มคือส่วนไหนบนใบหน้า ก่อนจะเข้าเนื้อหาของฟิลเลอร์แก้มส้ม เชื่อว่าบางคนอาจไม่เข้าใจว่า “แก้มส้ม” คืออะไร? แก้มส้มคือบริเวณที่อยู่ระหว่างใต้ตากับแก้ม และโหนกแก้มกับจมูก ซึ่งลักษณะของใบหน้าส่วนนี้จะนูนโค้งขึ้นมาคล้ายกับผลส้ม จึงกลายเป็นที่มาของการเรียกส่วนของใบหน้าบริเวณนี้ว่าแก้มส้ม การมีแก้มที่สวยสมส่วนจะช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติ หากสังเกตเด็ก ๆ มักจะเห็นว่ามีลักษณะของแก้มส้มอยู่ ดังนั้น หากมีแก้มส้มก็จะช่วยให้ใบหน้าเราคล้ายจะอ่อนเยาว์ลงนั่นเอง ฟิลเลอร์แก้มส้มคืออะไร ทำหน้าที่อะไรบ้าง ฟิลเลอร์แก้มส้มคือการฉีดฟิลเลอร์บริเวณแก้มเพื่อทดแทนเนื้อแก้มที่อาจขาดหายไปตามวัยจากการยุบตัวของกระดูก กล้ามเนื้อ หรือไขมัน หรือเติมเต็มในส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ใบหน้าเดิมที่อาจแบนด้วยสาเหตุเหล่านี้กลับมามีเนื้อแก้ม สร้างมิติให้กับใบหน้า พร้อมกับยกกระชับไม่ให้แก้มดูหย่อนคล้อยอีกด้วย นอกจากนี้ฟิลเลอร์ยังประกอบไปด้วยกรดไฮยาลูรอนิกที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ทำให้ผิวแก้มดูอิ่มน้ำชุ่มชื้น ดูแล้วสุขภาพดี ทำไมต้องเลือกฟิลเลอร์แก้มส้ม ผิวหน้าของมนุษย์จะมีทั้งส่วนของกล้ามเนื้อ ไขมัน เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และกระดูก ที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ แต่เมื่ออายุของเราเพิ่มมากขึ้น และเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ย่อมมีส่วนทำให้ความเสื่อมของส่วนต่าง ๆ ในบริเวณนี้ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จนนำมาสู่ปัญหาของการเกิดริ้วรอย ทำให้ใบหน้าแบนลง เกิดร่องน้ำหมาก หรือร่องแก้ม จนไม่รู้จะแก้ยังไง ที่สำคัญบริเวณกึ่งกลางของใบหน้ามักเป็นจุดที่สังเกตเห็นได้ง่าย ดังนั้น การปล่อยให้ใบหน้าเกิดความเสื่อมโทรมจึงมีผลให้คุณดูแก่ลงหรือดูมีสุขภาพไม่ดีเอาได้ง่าย ๆ ดังนั้น ฟิลเลอร์แก้มส้มจึงเป็นวิธีการที่ช่วยชะลอวัย ทำให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม เพิ่มความยืดหยุ่น สดใส และช่วยให้ดูเด็กลงได้นั่นเอง ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มตรงไหนได้บ้าง แน่นอนว่าฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นฟิลเลอร์ที่จะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณดูมีมิติยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถฉีดโหนกแก้ม พวงแก้ม หรือแก้มด้านบน เพื่อเข้าไปเติมส่วนที่หายไปให้มีความโค้งเว้าได้ตามต้องการ ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบตัวนี้ จึงเป็นทางเลือกที่รวดเร็วหากต้องการแก้ปัญหาโดยเร็วและง่าย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ฟิลเลอร์กับบริเวณอื่น ๆ ใกล้เคียง เพื่อปรับรูปหน้าหรือลดริ้วรอยได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นร่องใต้ตา ร่องมุมปาก หรือด้านหน้าใบหู ทั้งนี้ จำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินปัญหาที่มีอยู่ก่อน เพื่อให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปทำหน้าที่ในจุดต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไร และเหมาะกับใครบ้าง มีหลากหลายปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยฟิลเลอร์แก้มส้ม สำหรับคนที่กำลังคิดว่าตัวเองเหมาะที่จะฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มหรือไม่ สามารถตรวจสอบข้อดีที่จะได้รับจากการฉีดแก้มส้มได้ดังนี้ ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มมากแค่ไหนจึงจะเห็นผล คนที่อยากจะปรับเปลี่ยนรูปหน้าหรืออวัยวะต่าง ๆ ในส่วนกึ่งกลางของใบหน้าให้ดูอิ่มฟู จะต้องวางแผนการฉีดแก้มอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้รูปทรงของใบหน้าตามที่ต้องการ ซึ่งการใช้ฟิลเลอร์แก้มส้มแต่ละกรณีจะมีปริมาณการฉีดที่ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์แก้มจะใช้ฟิลเลอร์ข้างละประมาณ 1 CC โดยจำเป็นจะต้องผ่านการประเมินโครงหน้าโดยละเอียด เพื่อวิเคราะห์ว่าจะต้องฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเพิ่มที่จุดไหนบ้าง นอกจากนี้ อาจต้องพิจารณาการฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ใต้ตา ตามแต่ปัญหาที่มี เพื่อการแก้ปัญหาบนใบหน้าอย่างครบถ้วน ควรเลือกฟิลเลอร์แก้มส้มยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้มที่ใช้ฉีดเพิ่มความอิ่มฟูมีหลายยี่ห้อ เช่น Restylane หรือ Juvederm แต่หากจะให้แนะนำ ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด ก็ต้องเป็นยี่ห้อที่มีเนื้อค่อนข้างแข็ง เพื่อให้สามารถขึ้นรูปทรงได้ดี และเข้าไปยกกระชับจุดต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างเรียบเนียน ที่สำคัญเนื้อฟิลเลอร์จะต้องไม่เคลื่อนตำแหน่งได้ง่าย เพื่อให้เหมาะสำหรับการนำมาใช้ยกกระชับผิวที่เคยหย่อนคล้อย เป็นวิธีเพิ่มแก้มให้ดูสวยเนียน และหมดปัญหาเรื่องหน้าแบนไร้มิติ ฟิลเลอร์แก้มส้มอยู่ได้นานแค่ไหน การฉีดฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อจะไม่สามารถคงอยู่สภาพเดิมได้อย่างถาวร และจะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับฟิลเลอร์แก้มส้มที่สามารถคงสภาพได้ประมาณ 12-18 เดือนขึ้นกับยี่ห้อฟิลเลอร์ ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์แก้มส้มจะอยู่ได้นานหรือไม่ จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องวิธีการดูแลตัวเองด้วย ซึ่งหากคุณพยายามดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ดี ก็จะช่วยชะลอเวลาการสลายตัวของฟิลเลอร์ได้อีกทางหนึ่ง ผลข้างเคียงของฟิลเลอร์แก้มส้ม ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ของฟิลเลอร์แก้มส้ม จะเป็นเพียงแค่อาการเล็ก ๆ น้อยๆ เช่น รอยแดง หรืออาการบวม ที่สามารถหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากการอุดตันของเส้นเลือด และอาจส่งผลให้ตาบอดได้ ก่อน-หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มต้องดูแลตัวเองอย่างไร หากคุณต้องการเพิ่มความงามด้วยฟิลเลอร์แก้มส้ม มีข้อควรปฏิบัติก่อนและหลัง ดังนี้ สิ่งที่ควรทำก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สิ่งที่ควรทำหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สรุปว่าฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มกับคุณหมออู๋ดีอย่างไร หากคุณสังเกตว่าภาพถ่ายด้านข้างของตัวเองดูไร้มิติ หรือรู้สึกถึงริ้วรอยแห่งวัยบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือร่องใต้ตาที่มากขึ้น ฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยให้ปรับรูปหน้าและทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ลง แต่ไม่ทำให้ใบหน้าอวบอ้วนมากจนเกินไป เนื่องจากปริมาณและบริเวณที่ฉีดจะถูกควบคุมโดยคุณหมออู๋แห่ง Infiniz Clinic การันตีฝีมือด้วยรางวัลอันดับ 1 ในด้านการปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม และรางวัลระดับนานาชาติด้านความสวยความงามอีกมากมาย ดังนั้น หากท่านใดสนใจเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านทางช่องทางเหล่านี้ได้เลย References What is MidFace Filler, How is it Applied?. (2023). selcukinanli. https://selcukinanli.com/en/article/what-is-midface-filler-how-is-it-applied# Non-Surgical Mid Face Lift Using Dermal Filler. (2023). cosmeticskinclinic. https://www.cosmeticskinclinic.com/blog/non-surgical-mid-face-lift-using-dermal-fillers/
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มราคาเท่าไหร่บ้าง ทำไมราคาแต่ละที่แตกต่างกัน?
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณที่ฉีด ถ้าร่องแก้มไม่ลึกมากจะใช้ 1-2 cc แต่กรณีร่องแก้มลึกก็จะต้องใช้ฟิลเลอร์ 3-4 cc ทำให้ราคาฉีดฟิลเลอร์สูง
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน อันตรายไหม? ไขข้อข้องใจทุกสาเหตุ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน บวม เกิดจากอะไร? มักมีสาเหตุจากการฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง แพทย์ขาดความชำนาญ และการใช้ฟิลเลอร์ปลอมซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน? ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน รู้ข้อปฏิบัติและเคล็ดลับดูแลตัวเองเพื่อลดอาการบวมหลังฉีดอย่างไรดี? บทความนี้จะไขข้อสงสัยที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับอาการบวมเมื่อฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาล่าสุด 2568 ของแต่ละยี่ห้อฟิลเลอร์ยอดฮิต
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาดี พร้อมโปรโมชันอันหลากหลาย โดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ได้ที่ Infiniz Clinic เลือกทรงฉีดปากอวบอิ่มได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสายฝอหรือเกาหลี
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีที่ปลอดภัย? รวมเรื่องควรรู้ก่อนเติมฟิลเลอร์
เลือกฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีที่ปลอดภัยและได้รับการรองรับจาก อย. ไทย เราขอแนะนำ Restylane และ Juvederm ฟิลเลอร์ปากยอดนิยม ราคาเริ่มต้น 18,000 บาทต่อ 1 cc
ชวนรู้จัก สาเหตุสำคัญที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นก้อน พร้อมวิธีแก้ไขอย่างเหมาะสม
ไขข้อสงสัย ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนมีสาเหตุมาจากอะไร มีวิธีแก้ไขเพื่อสลายก้อนนั้นได้อย่างไรบ้าง? พร้อมแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อป้องกันปากเป็นก้อน
Ulthera ทั่วหน้าต้องใช้กี่ช็อตจึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน?
ไม่ว่าจะทำ Ulthera ทั่วหน้ากี่ช็อต แต่หากยิงด้วยจำนวนช็อตที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและทำให้เกิดผิวไหม้ได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำ
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดูแลตัวเองอย่างไร? เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
หนึ่งในข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสรอบดวงตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อและอาการอักเสบ เรียนรู้วิธีดูแลหลังฉีดเพิ่มเติมในบทความนี้ คลิกเลย
คุณหมออู๋ กับบทบาท Speaker งานสอนใน GAIN Thailand 2024
เป็นอีกหนึ่งงานบรรยายวิชาการประจำปีของบริษัท Galderma Thailand ที่เป็นงานประชุมวิชาการ บรรยายแก่แพทย์ความงามทั่วทั้งประเทศโดยในปีนี้มีหัวข้อที่ชื่อว่า Turn on your AART into HIT SHAPE UP and GLOW ON แปลแบบสรุปก็คือ รูปแบบการวิเคราะห์รูปหน้าผิวพรรณเพื่อกำหนดจุดที่เป็นปัญหาของผู้รับบริการก่อนจะวางแผนการใช้ สารลดเรือนริ้วรอย สารเติมเต็มในกลุ่ม Hyaluronic acid และ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน นำมาซึ่งการรักษาที่ตรงจุดชัดเจนและได้ผลอย่างเป็นธรรมชาติ โดยปราศจากผลข้างเคียง ในงานนี้ มีการพูดถึงการใช้ตัว Collagen Biostimulator( Sculptra) ในการฉีดกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียง เช่น ก้อน หรือ ผิวไม่เรียบ ตลอดจนระยะห่างระหว่างการฉีดแต่ละครั้งก็ต้องมีความเหมาะสม โดยมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เป็นหน้าที่ที่แพทย์ควรต้องมีความรู้และประสบการณ์อย่างยาวนาน จึงจะสามารถประเมินรูปแบบการรักษาในแต่ละบุคคลได้อย่างดี เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุดนั่นเอง การใช้ Sculptra ร่วมกับการใช้เครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera, Ultrafomer MPT, Thermage FLX หรือ เลเซอร์กลุ่มยกกระชับอื่นๆ ก็เช่นกัน เป็นการรักษาที่เป็นที่นิยมอย่างมากโดยควรต้องเว้นระยะการรักษาระหว่างกัน ประมาณ 1 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการอักเสบหรือการระบมในชั้นผิวที่มากเกินไปจนเกิดผลข้างเคียง สิ่งที่เป็น Highlight สำคัญคือ การฉีด Sculptra ควบคู่กับการฉีด Skinboostersเพื่อกระตุ้นให้ผิวมีคอลลาเจนใหม่มากขึ้น ร่วมกับการเติมน้ำให้ผิวในระดับชั้นลึกซึ่งผลที่ได้ย่อม Double เกิดปรากฏการณ์ผิวฉ่ำวาว เรียบเนียน ไร้ริ้วรอย และ ดูอ่อนเยาว์ ไปพร้อมๆกัน โดยผู้รับบริการไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตต่อได้ตามปกติ แต่เทคนิคนี้ ต้องอาศัยการจัดวางโดยแพทย์ที่มีความแม่นยำในชั้นผิว และ การออกแบบเพื่อกำหนดจุดยก ดึง โครงสร้างผิวที่ถูกวิธี ให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างและชัดเจนกว่าวิธีปกติ และหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย นอกจากนี้การปรับรูปหน้าด้วยการฉีด HA Filler ร่วมกับ Sculptra ย่อมสามารถทำได้แต่มีความซับซ้อนค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องอาศัยการวิเคราะห์รูปหน้าอย่างละเอียดเพื่อการจัดวาง HA Filler ปรับโครงสร้างเสริมความงามให้ตรงจุด ร่วมกับการฉีด Sculptra กระชับผิวเข้าไปอีกระดับนึง จึงต้องอาศัยการคาดคะเน ปริมาณ PLLA SCA (Sculptra) ที่แม่นยำ จัดวางอย่างถูกต้อง และ ไม่รบกวนการทำงานของ HA Filler โดยตำแหน่งที่มักได้ผลดีคือ การฉีดบริเวณแก้ม ใต้ตา ร่องแก้ม และ คางกรอบหน้า นั่นเอง ทั้งหมดนี้ เป็นรูปแบบการรักษาที่ Customized อย่างชัดเจนจึงต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ค่อนข้างสูง ในงานวิจัยล่าสุด มีการทดลองดู Gene expression หลังการฉีด Sculptra เข้าไปในเนื้อเยื่อ พบว่า มีการกระตุ้นให้ผิว มีการสร้าง Fibroblast, Collagen type 1 & 3, Elastin และ Proteoglycan อย่างชัดเจนด้วยขบวนการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะเวลาหนึ่งจนถึง 2 ปีซึ่งพบว่า ยังมีการเกิด ขบวนการยับยั้งการอักเสบเพื่อลดการเกิดการกระตุ้นคอลลาเจนที่ผิวของเราไม่ต้องการอีกด้วย สุดท้าย ก่อนทำการเลือกการฉีด Biostimulator ตัวใด แพทย์ควรคำนึงถึง ลักษณะของ Particle คุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของสารตัวนั้น ความคงทนอยู่ในผิวของเราได้ยาวนานแค่ไหน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ และเมื่อเกิดแล้วสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ผลที่เกิดขึ้นกับผิวพรรณหลังได้รับการฉีดไปแล้วเป็นแบบใด ขบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นได้ โดยBiostimulator แต่ละตัว มีลักษณะที่แตกต่างกันทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง และ วิธีการฉีดก็มีความแตกต่างกันผู้รับบริการจึงควรศึกษารายละเอียด คุณสมบัติ หรือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด เพื่อทราบข้อมูลข้อเท็จจริง ก่อนทำการรักษา เพื่อให้เกิดผลการรักษาที่ตอบโจทย์ ตรงใจผู้รับบริการแต่ละคนนั่นเองครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนแก้ไขได้อย่างไร ฉีดสลายได้หรือไม่?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เป็นปัญหาที่พบได้ค่อนข้างมาก จากกรณีการฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อีกทั้งการที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนยังสามารถเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ในบทความนี้ Infiniz Clinic จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนใต้ตา รวมไปถึงวิธีป้องกันและวิธีแก้ไขปัญหานี้ ปัจจัยที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนมีอะไรบ้าง? ปัจจัยที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนมีหลายประการ โดยปัจจัยที่สามารถพบได้บ่อยมีดังต่อไปนี้ 1. ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับพื้นที่บริเวณที่ฉีด ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วกลายเป็นก้อนอาจเกิดจากการที่ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด มีการฉีดในปริมาณมากเกินไปสำหรับพื้นที่ใต้ตา โดยเมื่อเวลายิ้มกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาจะหดตัวขึ้น ทำให้ฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังที่มีปริมาณมากเกินไปจนไม่เรียบเนียนไปกับผิว จะถูกดันขึ้นจนเห็นเป็นก้อนได้ 2. ฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเป็นฟิลเลอร์ปลอม หากฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรองจากอย. หรือเป็นฟิลเลอร์ปลอม ก็สามารถทำให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากลายเป็นก้อนได้เช่นกัน เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมมักเป็นฟิลเลอร์ชนิดถาวรหรือซิลิโคน ซึ่งสามารถจับตัวกันเป็นก้อนและไหลย้อยไม่เป็นทรงหลังจากเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง แต่ไม่สลายไปเองตามธรรมชาติเหมือนฟิลเลอร์มาตรฐาน อีกทั้งฟิลเลอร์ปลอมยังไม่สามารถฉีดสลายเหมือนฟิลเลอร์มาตรฐานได้อีกด้วย จะต้องทำการผ่าตัดหรือขูดฟิลเลอร์ออกเท่านั้น การเลือกฟิลเลอร์อย่าง Restylane จึงสำคัญ 3. ฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกตำแหน่ง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ถูกตำแหน่ง เช่น การฉีดบริเวณเหนือกล้ามเนื้อ หรือการฉีดบริเวณผิวชั้นตื้น ก็สามารถทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตากลายเป็นก้อนได้ เนื่องจากผิวบริเวณใต้ตาจะมีความบางเป็นอย่างมาก หากฉีดไม่ถูกตำแหน่งก็จะสามารถสังเกตเห็นว่าเป็นก้อนได้อย่างง่ายดาย 4. แพทย์ที่ให้บริการมีประสบการณ์ไม่เพียงพอ หากแพทย์ที่ให้บริการการฉีดฟิลเลอร์มีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์และประสบการณ์ในการฉีดมาไม่มากพอ ก็อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาพลาดแล้วกลายเป็นก้อนบวมได้ โดยอาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นกล้ามเนื้อ การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาและรุ่นที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข เป็นต้น 5. พื้นผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์บางจนเกินไป โดยปกติพื้นผิวบริเวณใต้ตาจะมีความบางอยู่แล้ว แต่ถ้าหากคนไข้มีลักษณะเป็นคนผิวบางโดยธรรมชาติอยู่ด้วย ก็จะสามารถสังเกตเห็นฟิลเลอร์ใต้ตาในลักษณะเป็นก้อนหรือเงาสีเขียวได้ แม้จะฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณและตำแหน่งที่ถูกต้องก็ตาม อาการหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน อาการหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ กรณีที่เกิดการอักเสบซึ่งมีความอันตราย กับกรณีที่ไม่ได้เกิดการอักเสบ เป็นแค่ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น โดยวิธีสังเกตความผิดปกติจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนมีดังนี้ กรณีเกิดการอักเสบหลังจากฉีดฟิลเลอร์ หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเกิดเป็นก้อนในลักษณะที่มีการอักเสบ จะมีอาการปวดมากกว่าปกติซึ่งควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาและแก้ไขความผิดปกติโดยเร็วที่สุด โดยอาการอักเสบที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด ได้แก่ กรณีไม่เกิดการอักเสบหลังจากฉีดฟิลเลอร์ อาการฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนสามารถเกิดในลักษณะที่ไม่มีการอักเสบได้เช่นกัน โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วง 3 วันแรก ผิวบริเวณใต้ตาจะสามารถเห็นเป็นก้อนบวมได้เป็นปกติ แต่จะไม่มีอาการเจ็บปวดหรือบวมแดงร่วมด้วย และเมื่อเวลาผ่านไปก้อนบวมก็จะค่อย ๆ ยุบลงไปเอง หากก้อนใต้ตามีอาการแย่ลงหรือไม่ยุบลงตามปกติหลังผ่านไป 2 สัปดาห์แล้ว ควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาและแก้ไขความผิดปกติต่อไป วิธีป้องกันไม่ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วกลายเป็นก้อน อาการฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ ด้วยการเลือกทำหัตถการกับแพทย์ผู้ชำนาญการในการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากแพทย์ที่เคยทำหัตถการมามาก จะสามารถเลือกใช้ปริมาณฟิลเลอร์และเลือกตำแหน่งชั้นผิวที่ฉีดได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังต้องใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดก้อนใต้ตาที่ไม่สามารถฉีดสลายออกได้จากฟิลเลอร์ปลอม แก้ปัญหาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนได้อย่างไรบ้าง? สามารถแก้ปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ 1. ขูดฟิลเลอร์ ในกรณีที่คนไข้ไม่ได้เลือกใช้ฟิลเลอร์ผ่านมาตรฐานที่ทำมาจากสาร Hyaluronic Acid หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องทำการขูดฟิลเลอร์ออก เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถฉีดสลายหรือสลายไปเองตามธรรมชาติได้ อีกทั้งการขูดฟิลเลอร์ออกก็สามารถเอาออกได้เพียง 60-70% เท่านั้น ไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมดจนกลับคืนสู่สภาพผิวปกติ 2. ผ่าตัดเพื่อนำฟิลเลอร์ออก การผ่าตัดเพื่อนำฟิลเลอร์ออก จะใช้ในกรณีที่ฟิลเลอร์ใต้ตามีลักษณะเป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก ซึ่งเกิดได้จากการที่คนไข้ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไปเป็นระยะเวลานาน จนเกิดเป็นพังผืดเกาะอย่างเหนียวแน่น และก้อนฟิลเลอร์มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะสามารถขูดออกได้ จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการผ่าตัดเอาออกเท่านั้น 3. ฉีดสลายฟิลเลอร์ หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนจากเหตุปัจจัยต่าง ๆ แล้วต้องการที่จะฉีดสลายฟิลเลอร์ออก ก็สามารถทำได้ต่อเมื่อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเป็นฟิลเลอร์ผ่านมาตรฐานที่ทำมาจากสาร Hyaluronic Acid ซึ่งสามารถฉีดสลายได้ด้วยตัวยา Hyaluronidase เท่านั้น ทั้งนี้ คนไข้ควรแจ้งแพทย์ถึง ชนิด ยี่ห้อ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ได้รับการฉีดมา เพื่อที่แพทย์จะได้คำนวณปริมาณตัวยาที่ต้องใช้ในการฉีดสลายได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากที่สุด ดูแลตัวเองอย่างไรดี ไม่ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน วิธีดูแลตัวเองไม่ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วกลายเป็นก้อน สามารถทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ สรุปเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาที่กลายเป็นก้อน ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุปัจจัย เช่น ใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป ฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกตำแหน่ง หรือแพทย์ผู้ทำหัตถการไม่มีประสบการณ์มากพอ โดยอาการใต้ตาเป็นก้อนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ ด้วยการเลือกทำหัตถการกับแพทย์ผู้ชำนาญการในการฉีดฟิลเลอร์มามากมาย เนื่องจากแพทย์ที่เคยทำหัตถการมามาก จะสามารถเลือกใช้ปริมาณฟิลเลอร์และเลือกตำแหน่งชั้นผิวที่ฉีดได้อย่างเหมาะสม เลือกฉีดฟิลเลอร์ได้มาตรฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเป็นก้อนใต้ตา หากไม่รู้ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ขอแนะนำ Infiniz Clinic ด้วยทีมแพทย์มากประสบการณ์และแพทย์เฉพาะทาง แก้ไขปัญหาใต้ตาของแต่ละคนด้วยการฉีดฟิลเลอร์เทคนิคพิเศษเฉพาะของ Infiniz Clinic เท่านั้น นำทีมแพทย์โดยคุณหมออู๋ นพ.ณัฐพล ลาภเจริญกิจ แพทย์วิทยากรผู้สอนและอาจารย์พิเศษรับเชิญทางด้านเวชศาสตร์ความงามทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ และสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมามากกว่า 15 ปี การันตีด้วยรางวัลปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรมและรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายตั้งแต่ปี 2018-2023 สอบถามข้อมูลราคาฟิลเลอร์ใต้ตาได้ที่ช่องทางด้านล่าง References Christiano, D. (2019, July 12). Side Effects of Facial Fillers. Healthline. https://www.healthline.com/health/facial-fillers-side-effects Jung, H. (2020). Hyaluronidase: An overview of its properties, applications, and side effects. Archives of plastic surgery, 47(4): 297–300.https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7398804/
ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ต่อปริมาณ 1 CC?
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ขอบตาดำ ใต้ตาดูลึก ตาโหล ดูโทรม คงเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน ที่ทำให้เกิดความกังวลว่าหน้าจะดูแก่และไม่สดใสก่อนวัยอันควร ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ เติมใต้ตาให้ดูเต็มและอิ่มฟูมากขึ้น ในบทความนี้ Infiniz Clinic จะพาทุกคนไปดูกันว่าฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไร และควรเลือกใช้ยี่ห้อไหนดีถึงจะเหมาะสมกับการแก้ปัญหาใต้ตามากที่สุด ฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ ราคาเท่าไหร่? ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีราคา อายุการใช้งาน และคุณสมบัติในการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรจะใช้ยี่ห้อที่ตัวฟิลเลอร์มีความพอดีกับปัญหาร่องใต้ตา เนื้อเจลมีความคงตัวดี และกลืนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งที่ Infiniz Clinic ฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีราคาอยู่ราว 16,500-26,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่ใช้ ส่วนจะเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีในการฉีดใต้ตา สามารถดูรายละเอียดความแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นได้ดังนี้ Juvederm Ultra XC ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm รุ่น Ultra XC เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เนื้อเจลมีความนิ่ม เรียบเนียนไปกับผิวได้ดี สามารถอุ้มน้ำได้ค่อนข้างมาก เหมาะกับการฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยตื้น ๆ อย่างร่องใต้ตา มีอายุการใช้งานอยู่ได้นาน 9-12 เดือน ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อ 1 CC Juvederm Volite ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm รุ่น Volite เป็นฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา ที่เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียดที่สุดในทุกรุ่น มีความบางเบา กลืนตัวและเรียบเนียนไปกับผิวได้ดีมาก เหมาะกับการฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ อย่างริ้วรอยใต้ตาและรอบดวงตา สามารถอยู่ได้นาน 9-12 เดือน ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อฟิลเลอร์ 1 CC Juvederm Volift สำหรับฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm รุ่น Volift เนื้อฟิลเลอร์จะมีความนิ่มปานกลาง เรียบเนียนไปกับผิวได้ดี มีความคงตัวสูง เหมาะกับการเติมเต็มและฉีดบริเวณผิวที่มีปัญหาร่องลึกระดับกลาง สามารถฉีดบริเวณใต้ตาชั้นลึกเพื่อแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา และเบ้าตาโหลได้ ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อ 1 CC อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน Restylane Vital ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane รุ่น Vital เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน ที่เนื้อฟิลเลอร์มีขนาดอนุภาคที่ค่อนข้างใหญ่ มีความคงตัวสูง สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการฉีดเพื่อเติมเต็มและแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 16,500 บาทต่อ 1 CC อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน Restylane Vital Light ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane รุ่น Vital Light เป็นฟิลเลอร์ที่มีขนาดอนุภาคเล็กและละเอียดเป็นอย่างมาก มีส่วนผสมของยาชา และมีความนิ่มที่สุดในทุกรุ่นของยี่ห้อ Restylane เหมาะกับการใช้ฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 16,500 บาทต่อ 1 CC Restylane Defyne ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane รุ่น Defyne เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่เนื้อเจลมีความแข็งและขึ้นทรงมากที่สุดในทุกรุ่น แต่ยังสามารถกลืนไปกับผิวได้ดี เรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดเสริมเติมร่องลึกใต้ตาที่มีความยุบตัวมาก ฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อ 1 CC อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน โปรโมชัน ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาพิเศษ ทาง Infiniz Clinic ได้มีการจัดโปรโมชันฟิลเลอร์ใต้ตาราคาพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่าน ทั้งยี่ห้อ Juvederm และยี่ห้อ Restylane โดยรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้กับทาง Facebook : Infiniz Clinic หรือทาง Line ID: @Infinizclinic >> อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ “ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน“ สรุปเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตามีราคาเท่าไรบ้าง? สำหรับใครที่ต้องการจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหาผิวบริเวณใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย ขอบตาดำ ใต้ตาดูลึก หรือตาโหล ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง และทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการฉีดเป็นอย่างมาก หากสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม คนไข้ก็จะได้รับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในราคาที่เหมาะสมและผลลัพธ์ที่พึงพอใจมากที่สุด โดยสำหรับที่ Infiniz Clinic ฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีราคาเริ่มต้นที่ 16,500-18,000 บาทต่อ 1 CC ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี? ทาง Infiniz Clinic จึงแนะนำให้เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย. และให้บริการโดยสถานพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด โดย Infiniz Clinic คลินิกหัตถการความงามโดยแพทย์เฉพาะทางและมากประสบการณ์ ปรับรูปหน้าของแต่ละคนด้วยการฉีดฟิลเลอร์เทคนิคพิเศษเฉพาะของ Infiniz Clinic เท่านั้น โดยคุณหมออู๋ นพ.ณัฐพล ลาภเจริญกิจ แพทย์วิทยากรผู้สอนและอาจารย์พิเศษรับเชิญทางด้านเวชศาสตร์ความงามทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ และสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมามากกว่า 15 ปี การันตีด้วยรางวัลปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรมและรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายตั้งแต่ปี 2018-2023 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางนี้ References Where is JUVÉDERM® used?. (2023, May 3).JUVÉDERM® Collection of Fillers. https://www.juvederm.com/volume-loss#under-eyes-faq-content Q-Med AB. (2023). Instructions for use Restylane Defyne, US. Galderma Laboratories, L.P. https://www.restylaneusa.com/docs/Restylane-Defyne-IFU