Belotero Revive Filler งานผิวตัวใหม่จาก Swiss ผิวกระจกต้องมา
Belotero Revive Filler งานผิวตัวใหม่จาก Swiss เพื่อหน้าฉ่ำวาว งานผิวกระจกต้องมา Belotero Revive Filler ชื่อนี้อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยสำหรับวงการงานผิวมากเท่าไหร่ แต่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์งานผิว ที่ได้รับขนานนามว่าเมื่อฉีดไปแล้ว จะทำให้ผิวใสเหมือนกระจก ซึ่งทาง Infiniz จะมาอธิบายเกี่ยวกับ Belotero Revive Filler ให้ได้อ่านกันว่าฟิลเลอร์ตัวนี้คืออะไร และที่เค้าบอกต่อกันว่าผิวใสดุจกระจก Glass Skin นั้นจริงหรือเปล่า คำตอบที่ทุกคนสงสัยจะถูกคลายได้ด้วยบทความวันนี้ครับ Belotero Revive Filler คืออะไร BELOTERO REVIVE The World 1stSkin Quality HA filler ฟิลเลอร์งานคุณภาพผิว ตัวแรกของโลก เป็นฟิลเลอร์ งานผิวตัวแรกที่มอบประสิทธิภาพอันส่งพลังของสารประกอบหลัก 2 ตัว คือ Cross-linked Hyaluronic Acid และ Glycerol (2 in 1 Power) โดยมีส่วนประกอบหลักคือ Hyaluronic acid ขนิดพิเศษที่มีความอ่อนนิ่มและกลืนตัวสูงตามแบบฉบับของฟิลเลอร์สวิส อีกทั้งด้วยนวัตกรรมการผลิตซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ BELOTERO คือ CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี ในขนาดโมเลกุลที่บางเบาที่สุด แต่ในขนาดความเข้มข้น 20 mg/mL และ Glycerol ขนาด 17.5 mg/mL ถือว่าเป็นความเข้มข้นสูงสุดในตลาด Filler งานผิวในปัจจุบัน มอบผลลัพธ์ความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติทันทีที่ฉีด มีความปลอดภัยสูง ผ่านองค์การอาหารและยาของ 50 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง USA, EU และ ไทย Belotero Revive Filler ช่วยอะไรบ้าง ทำให้ฉ่ำวาวแบบ Glass Skin ได้จริงไหม Belotero Revive Filler ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง และสามารถทำให้ผิวมีความฉ่ำวาวแบบ Glass Skin ได้จริงไหม เราจะพาคุณเจาะลึกเกี่ยวกับ คุณสมบัติเด่นของ Belotero Revive ทั้ง 3 ประการได้แก่ ทั้งสองส่วนประกอบหลักอย่างที่ได้บอกไปในตอนต้น คือ Cross-linked Hyaluronic Acid และ Glycerol (2 in 1 Power) จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่มีปัญหาจากการถูกทำลายโดยแสงแดดและมลภาวะต่างๆ หรือผิวที่เกิดจากภาวะคอลลาเจนลดลงจากอายุที่มากขึ้น โดยเหมาะกับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวขาดความยืดหยุ่นหรือขาดความกระชับ รวมถึงมีปัญหาริ้วรอยหรือร่องชนิดตื้นบนใบหน้าด้วยคุณสมบัติเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าเต็มขั้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ 4 มิติ อิ่มฟู – เนียน – เด้ง – ชุ่มชื้นฉ่ำวาว โดยจากประสบการณ์หลังฉีด จะมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหลังฉีดประมาณ 1 สัปดาห์ โดยผิวจะมีความแวววาว ดูละเอียด เรียบเนียนมากขึ้น ชัดเจนหลังจากที่ตัว Hyaluronic acid และ Glycerol กลืนตัวกับชั้นผิวได้ 100% และ เข้าทำการเปลี่ยนโครงสร้างผิวได้อย่างดีที่สุดหลังฉีด 2 สัปดาห์ แต่ผลการรักษาคงอยู่ได้อย่างยาวนานถึง 9 เดือน Belotero Revive ต่างจาก ฟิลเลอร์รุ่นอื่นอย่างไร Belotero Revive ต่างจาก ฟิลเลอร์รุ่นอื่น ตรงที่จุดเด่นของฟิลเลอร์ Belotero Revive มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) และ กลีเซอรอล (Glycerol) ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวด้วยเทคโนโลยีพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะของ Merz Aesthetics Belotero Revive ที่มีทั้ง 2 ส่วนผสม เมื่อนำ Belotero Revive มาใช้ก็จะทำให้มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นจากชั้นผิวหนังด้านใน (Dermis) ถึงชั้นผิวหนังชั้นนอกสุด (Kertatinized layer of skin) จึงมีความสมบูรณ์ในเรื่องการเพิ่ม Hydration ตั้งแต่ผิวชั้นใน จนถึงผิวชั้นนอกสุด โดยสามารถล็อกความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิวหนังแท้ และผิวที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นจากการอิ่มน้ำ จะทำให้มีความเรียบเนียน ฉ่ำวาว หรือที่หลายคนเรียกว่า “Glass Skin” หรือผิวกระจก นั่นเอง Belotero Revive Filler ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร Belotero จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่น แต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นและจุดที่เหมาะสมแก่การฉีดที่ไม่เหมือนกัน สำหรับรุ่น Belotero Revive กับรุ่นอื่น ๆ จะมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้ Belotero Revive รุ่นกล่องสีเขียว ฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกที่เพิ่มส่วนผสมของ HA+Glycerol (Duo Action) นิยมใช้การฉีดเพื่อเพิ่มคุณภาพผิวให้เรียบเนียน แข็งแรง และเน้นการบำรุงผิวให้กระจ่างใส อิ่มน้ำ เพื่อฟื้นฟูปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ ที่เกิดจากผิวขาดน้ำ นับเป็น 1st HA Filler for Skin Quality improvement Belotero Soft รุ่นกล่องสีเหลือง มีคุณสมบัติเรียบเนียนกลืนไปกับผิว มีขนาดโมเลกุลที่บางเบามาก จึงนิยมใช้สำหรับการรักษาริ้วรอยตื้นๆ และลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา หรือรอบดวงตา ฉีดรักษาริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้าเพื่อให้ผิวเรียบเนียน เพิ่มความกระจ่างใส รวมทั้งรักษาหลุมสิวตื้น ๆ ให้เต็มขึ้นได้อีกด้วย Belotero Balance รุ่นกล่องสีส้ม มีคุณสมบัติในการเติมเต็มริ้วรอยได้ดี นิยมนำมาใช้เป็นฟิลเลอร์ใต้ตา และด้วยขนาดโมเลกุล HA ที่ไม่แข็งเกินไปและไม่นิ่มเกินไป ทำให้นิยมใช้สำหรับการแก้ไข ร่องใต้ตา เพื่อเพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน และไม่เกิดก้อนหลังฉีด แก้ไขร่องแก้มลึก และยังสามารถใช้เป็นฟิลเลอร์ปาก รักษาริ้วรอยบริเวณริมฝีปากและรอบปากให้เรียบเนียนมากขึ้น อีกทั้งยังใช้เติมเต็มร่องลึกบริเวณหน้าผากได้อีกด้วย Belotero Intense รุ่นกล่องสีชมพู มีคุณสมบัติในเรื่องความขึ้นทรงและยืดหยุ่นทนต่อแรงกดสูงมาก นิยมนำมาใช้ในบริเวณที่้ต้องการ Projection (ขึ้นทรง) พร้อมกับการเพิ่ม Volume (ปริมาตร) ไปพร้อมกัน ตัวเจลมีความแข็งแรงสูงสุด อยู่ได้อย่างยาวนาน นิยมนำมาใช้ เติมเต็มบริเวณ ขมับ ปรับทรงแก้ม พร้อมเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม รวมถึงนำมาใช้ในการกระชับใบหน้าตามจุดยึดเกาะของกล้ามเนื้อเพื่อช่วยยกกระชับรูปหน้า และการแก้ไขริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์และปรับรูปหน้าอย่างละมุน Belotero Volume รุ่นกล่องสีม่วง เจลมีขนาดโมเลกุลใหญ่ มีความทรงตัวสูง แต่ไม่ขึ้นรูป จึงนิยมใช้ในการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการการคงที่นอกจากฟิลเลอร์คาง แล้ว ยังมีขมับ ร่องแก้มลึก แก้มตอบ หน้าแก้มลึก เพื่อปรับสมดุลและสร้างมิติให้ใบหน้า Belotero Revive Filler อยู่ได้นานเท่าไหร่ และต้องฉีดบ่อยแค่ไหน จากผลการศึกษาของ BELOVE study1 พบว่า BELOTERO REVIVE แสดงผลลัพธ์ที่ดีชัดเจน และมีโปรไฟล์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม ดังนี้ Belotero Revive มีความสามารถคืนความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนานได้ยาวนานมากถึง 9 เดือนในการรักษาเพียงแค่ 1 ครั้ง เท่านั้น ด้วยความเข้มข้นของตัวยาที่มี HA concentration สูงร่วมกับ Glycerol อย่างพอเพียง อย่างไรก็ตามผลการรักษาจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองและสภาพปัญหาผิวพรรณของผู้รับบริการ แต่ละท่าน โดยสามารถทำซ้ำได้ที่ 4 เดือน หลังการฉีดครั้งแรกในรายที่มีปัญหาค่อนข้างมาก เพื่อผลการรักษาที่ชัดเจนมากขึ้น ในรายปกติ อาจจะทำซ้ำที่ 9-12 เพื่อคงผลการรักษาไว้ต่อเนื่อง แนะนำ Belotero Revive Filler ที่ Infiniz Clinic ที่ Infiniz clinic ก่อนทำการฉีดมีการประเมินสภาพปัญหาผิวพรรณ รวมถึงความหนาของชั้นผิวก่อนเริ่มทำหัตถการ 3D Skinboosters by Belotero Revive เพื่อกำหนดชั้นผิวที่ต้องการฉีดเข้าซ่อมแซมได้อย่างตรงจุด ด้วยเทคนิค Mid-Dermis Injection ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในการฉีด Belotero Revive เพื่อที่ตัว HA จะเข้าสู่ชั้น Deep Dermis ได้ดี ส่วนตัว Glycerol จะลอยมาอยู่ในชั้นของ Keratin เปรียบเสมือนเกราะปกป้องความชุ่มชื้นอีกชั้นหนึ่ง โดยทั้งนี้ ต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ค่อนข้างสูง จึงจะกำหนดความลึกของเข็มได้อย่างแม่นยำในแต่ละจุด เพื่อผลการรักษาที่ชัดเจนกว่า ราคาโปรโมชั่น Belotero Revive เริ่มต้นที่ 20,000 ต่อ CC ติดต่อสอบถามได้ที่ @infinizclinic Reference
ฟิลเลอร์ belotero ดียังไง แต่ละสีมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างไร
ฟิลเลอร์ belotero ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สามารถแก้ไขได้ทุกริ้วรอยบนใบหน้า สร้างผิวเรียบเนียนสวยฉ่ำวาวอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยฟิลเลอร์เนื้อเนียนจากสวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งยังเป็นฟิลเลอร์ชนิดพิเศษที่ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ประเภทเติมเต็มให้ผิวสวยอย่างต่อเนื่องจากยุโรป เติมเต็มได้ทุกสภาพผิว เน้นความเรียบเนียนได้ทุกสัมผัส ไม่เป็นก้อน มีความปลอดภัยสูง และไม่เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ฟิลเลอร์ Belotero คืออะไร ฟิลเลอร์ Belotero คือหนึ่งในฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic acid ผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความนิยม แพร่หลายในกลุ่มแพทย์ผิวหนังและความงามทั่วโลกนำมาใช้ในการแก้ไขเติมเต็มส่วนบกพร่องกับปรับรูปหน้าเช่นกัน นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetics Thailand โดยผ่านการรับรองจาก US FDA, Thai FDA (อย.) CE Mark (Europe) และมีการยอมรับถึงความปลอดภัยมาอย่างยาวนาน เนื่องจาก Belotero Filler ตัวโมเลกุลของ HA มีการรวมตัวกันขึ้นในรูปแบบของ patented CPM® (Cohesive Polydensified Matrix) ที่ทำให้ตัวเจลมีความสามารถในการกลืนตัวกับผิว เรียบเนียนไปกับผิวของผู้รับบริการที่หลากหลายได้อย่างดีเยี่ยม ไม่เกิดก้อนและด้วยขนาดของโมเลกุลที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่นของ Belotero ทำให้มีความสามารถในการยึดเกาะในแต่ละตำแหน่ง ความยืดหยุ่น และ ความขึ้นรูป ในแต่ละบริเวณที่ได้รับการฉีดได้อย่างเหมาะสม ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม บางคนอาจจะสงสัยว่า ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม ต้องบอกก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์เนื้อเนียนจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่โดดเด่นในเรื่องความเรียบเนียนและกลืนตัวกับผิวค่อนข้างมาก จึงเหมาะกับผู้รับบริการที่กลัวการเกิดก้อนหลังฉีด หรือผู้มีสภาพผิวบางและต้องการ การเติมเต็มหรือปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนถึงผิวสัมผัส หลังฉีดจะได้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติ โดยแนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกชนิดของ ฟิลเลอร์สวิตที่เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการรักษาสำหรับแต่ละบุคคล โดยสามารถแก้ปัญหาได้ดังต่อไปนี้ Belotero อยู่ได้นานไหม สำหรับ Belotero อยู่ได้นานหรือเปล่า ต้องบอกว่า ตัวเจล HA Belotero Filler ผ่านขบวนการผลิตด้วย กระบวนการ Dynamic Cross-Linking Technology (DCLT) โดยการมีการยึดเกาะกันของตัวเจลที่หนาแน่นมากขึ้น เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ฟิลเลอร์คงสภาพในผิวหนังได้ยาวนานขึ้นกว่าปกติ โดยเฉลี่ย อยู่ที่ประมาณ 6-18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของตัวฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และสภาพผิวหนังและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผิวของผู้รับบริการหลังทำ จุดเด่นของฟิลเลอร์ Belotero แต่ละสี จุดเด่นของฟิลเลอร์ Belotero จะมีความแตกต่างกันไป เนื่องจากแต่ละสี จุดที่สามารถรักษาได้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นในส่วนนี้ เราจะพาคุณไปดูว่าแต่ละสีมีจุดเด่นด้านไหนกันบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผิดพลาด และไม่ตกเป็นเหยื่อของการทำหัตถการจากคลินิกอื่น ๆ ทั้งนี้แพทย์ผู้มีประสบการณ์จะพิจารณาชนิดของฟิลเลอร์ Belotero แก่ผู้รับบริการอีกครัง Belotero Soft รุ่นกล่องสีเหลือง มีคุณสมบัติเรียบเนียนกลืนไปกับผิว มีขนาดโมเลกุลที่บางเบามาก จึงนิยมใช้สำหรับการรักษาริ้วรอยตื้นๆ และลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา หรือรอบดวงตา ฉีดรักษาริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้าเพื่อให้ผิวเรียบเนียน เพิ่มความกระจ่างใส รวมทั้งรักษาหลุมสิวตื้น ๆ ให้เต็มขึ้นได้อีกด้วย Belotero Balance รุ่นกล่องสีส้ม มีคุณสมบัติในการเติมเต็มริ้วรอยได้ดี และด้วยขนาดโมเลกุล HA ที่ไม่แข็งเกินไปและไม่นิ่มเกินไป ทำให้นิยมใช้สำหรับการแก้ไข ร่องใต้ตา เพื่อเพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน และไม่เกิดก้อนหลังฉีด แก้ไขร่องแก้มลึก และยังสามารถใช้เป็นฟิลเลอร์ปาก รักษาริ้วรอยบริเวณริมฝีปากและรอบปากให้เรียบเนียนมากขึ้น อีกทั้งยังใช้เติมเต็มร่องลึกบริเวณหน้าผากได้อีกด้วย Belotero Intense รุ่นกล่องสีชมพู มีคุณสมบัติในเรื่องความขึ้นทรงและยืดหยุ่นทนต่อแรงกดสูงมาก นิยมนำมาใช้ในบริเวณที่้ต้องการ Projection (ขึ้นทรง) พร้อมกับการเพิ่ม Volume (ปริมาตร) ไปพร้อมกัน ตัวเจลมีความแข็งแรงสูงสุด อยู่ได้อย่างยาวนาน นิยมนำมาใช้ เติมเต็มบริเวณ ขมับ ปรับทรงแก้ม พร้อมเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม รวมถึงนำมาใช้ในการกระชับใบหน้าตามจุดยึดเกาะของกล้ามเนื้อเพื่อช่วยยกกระชับรูปหน้า และการแก้ไขริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์และปรับรูปหน้าอย่างละมุน Belotero Volume รุ่นกล่องสีม่วง เจลมีขนาดโมเลกุลใหญ่ มีความทรงตัวสูง แต่ไม่ขึ้นรูป จึงนิยมใช้ในการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการการคงที่ของฟิลเลอร์ เช่น คาง ขมับ ร่องแก้มลึก แก้มตอบ หน้าแก้มลึก เพื่อปรับสมดุลและสร้างมิติให้ใบหน้า Belotero Revive รุ่นกล่องสีเขียว ฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกที่เพิ่มส่วนผสมของ HA+Glycerol (Duo Action) นิยมใช้การฉีดเพื่อเพิ่มคุณภาพผิวให้เรียบเนียน แข็งแรง และเน้นการบำรุงผิวให้กระจ่างใส อิ่มน้ำ เพื่อฟื้นฟูปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ ที่เกิดจากผิวขาดน้ำ นับเป็น 1st HA Filler for Skin Quality improvement ฟิลเลอร์ Belotero แบบไหนเหมาะกับคุณ สำหรับคนที่ต้องการใช้ฟิลเลอร์ Belotero เพื่อต้องการลดเลือนริ้วรอย สิ่งหนึ่งที่คุณต้องคำนึงถึงก็ คือ ต้องการแก้ปัญหาที่ส่วนใด เพราะแต่ละสีจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ต้องเลือกสีให้ตรงกับความต้องการ เช่น ถ้าอยากได้ช่วยเรื่องรักษาริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก และรอบปากให้มีความเรียบเนียน ต้องใช้ฟิลเลอร์ปาก Belotero Balance เพื่อเพิ่ม volume ในผู้มีปากบาง แต่อาจจะใช้ Belotero Intense ในสาวที่อยากมีริมฝีปากขนาดใหญ่มากขึ้นและขอบปากเด้งแบบ สาย ฝ นั่นเอง ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการรับหัตถการแต่ละครั้ง
เช็คอาการแพ้ฟิลเลอร์ ดูได้จากอะไร พร้อมแนวทางแก้ไข
Filler ที่ใช้กันในปัจจุบัน เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มแพทย์ความงามทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid ยังคงเป็นกลุ่มฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด แม้ว่าฟิลเลอร์ตัวนี้ มีโอกาสเกิดการแพ้น้อยมาก แต่ในบางเคสก็หลีกเลี่ยงปัญหานี้ไม่ได้ ซึ่งในวันนี้หมอจะมาพูดถึงเกี่ยวกับผลข้างเคียง และอาการแพ้จากฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic acid รวมถึงแนวทางการรักษาเบื้องต้น พร้อมแนวทางแก้ไขของปัญหาดังกล่าว สำหรับบทความนี้กันครับ อาการแพ้ฟิลเลอร์มีลักษณะอย่างไร อาการแพ้ Hyaluronic acid เกิดขึ้นได้ยากมาก และจากประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ส่วนตัวยังไม่พบอาการแพ้จาก HA Filler แต่อย่างใด ส่วนมากจะเป็นแค่อาการข้างเคียงจากการฉีด เนื่องจากต้องใช้เข็ม ได้แก่ อาการบวม อาการระบม รอยช้ำ รอยแดง หรืออาการเจ็บบริเวณที่ฉีด เช่นการฉีดฟิลเลอร์คาง ก็อาจจะระบมที่คางเป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นใน 3-7 วัน แล้วแต่สภาพผิวเดิมของผู้รับบริการ โดยอาการดังกล่าวจะดีขึ้น หากได้รับการแนะนำจากทีมแพทย์ที่ถูกต้องและเหมาะสม สำหรับอาการแพ้จากตัว Hyaluronic acidacid จริงๆ สามารถสรุปได้เป็น 2 แบบคือ 1. Acute phase reaction to hyaluronic acidมักพบในผู้มีประวัติแพ้ Hyaluronic acid อยู่แล้ว หรือ ส่วนประกอบอื่นที่เติมเข้ามาในขบวนการผลิต เช่น ยาชา หรือ สารที่ช่วยให้ฟิลเลอร์เกาะตัวกัน (Cross-linkage) ดังนั้นการเลือกชนิดหรือยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่มีการใช้มาอย่างยาวนาน แพร่หลายและมีรายงานการแพ้ที่น้อยมาก ย่อมลดโอกาสการแพ้ HA Filler ได้นั่นเอง โดยอาการในแบบแรกนี้ มักมีอาการเกิดขึ้นทันทีขณะฉีด หรือหลังฉีดไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง เช่น อาการบวมแดงเป็นก้อน บริเวณที่ฉีด และบางรายอาจจะมีอาการลมพิษเฉียบพลันเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า และตามตัว รวมทั้งอาการตาบวม ปากบวม ร่วมด้วย อาการแพ้ในรูปแบบนี้พบได้น้อยกว่า 1% ในประชากรโลก 2. Delayed phase Reaction to Hyaluronic acidอาการแพ้แบบเกิดขึ้นภายหลังนี้ ส่วนมาก แยกออกเป็น 2 กรณีคือ ฟิลเลอร์อักเสบเกิดจากอะไรได้บ้าง แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ การรักษาเบื้องต้นหากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ การรักษาเบื้องต้นหากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ Hyaluronic acid เพื่อการรักษาที่มีความเฉพาะเจาะจงและทันท่วงที เพื่อลดผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นต่อผิวหนังบริเวณที่ทำการฉีด อาการแพ้ Hyaluronic acid แบบทันที มักมีอาการรุนแรง แพทย์มักจะต้องให้ยาลดอาการอักเสบทางเส้นเลือดและยารับประทาน ควบคู่กับ การฉีดยาสลาย Hyaluronic acid ทันที พร้อมทั้งสังเกตอาการเป็นระยะ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หากแพทย์ตรวจพบว่า เป็นอาการแพ้ Hyaluronic acid ที่เกิดภายหลังอาจจะต้องมีการตรวจ Test เพื่อ confirm และในระหว่างนั้น อาจจะมีการรักษาปฏิกิริยาจากการแพ้ควบคู่กันไป เช่น การฉีดสลาย Hyaluronic acid ร่วมกับยารับประทานเพื่อลดการอักเสบต่อไป สำหรับในกรณีการติดเชื้อบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ก็ต้องมีการฉีดสลาย Hyaluronic acid ควบคู่กับการให้ยาฆ่าเชื้อ โดยแพทย์จะต้องพิจารณาเป็นรายเคสไป ตามความเหมาะสม ร่วมกับการรักษาสภาพผิวหนังให้กลับคืนสภาพโดยเร็ว ไม่อยากเสี่ยงแพ้ฟิลเลอร์ต้องทำอย่างไร สำหรับผู้รับบริการที่ต้องการเข้ารับการฉีด HA Filler หมอมีข้อแนะนำให้เตรียมตัวดังนี้ครับ