กระตุ้นคอลลาเจนให้ดูผิวอ่อนเยาว์ด้วย Collagen Biostimulator
ผิวที่ดูอ่อนเยาว์ สว่างกระจ่างใส และเฟิร์มกระชับ จะทำให้การใช้ชีวิตมีความมั่นใจมากขึ้น ส่งเสริมให้อาชีพการงานดีขึ้น ละเราก็เชื่อว่าทุกคนต่างก็ไม่มีใครอยากให้ดูผิวแก่กว่าวัย แต่สำหรับบางคน ที่เพิ่งเข้าวงการหัตถการฉีดบำรุงผิวหน้า หรือวงการชะลอวัยอาจจะยังไม่รู้ว่า เลือกใช้วิธีการไหนถึงจะดี ในวันนี้ทาง Infiniz Clinic จะพามาทำความรู้จักกับ Original Collagen Biostimulator ที่ใช้ในการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน ที่เป็นหนึ่งในนวัตกรรมการดูแลผิวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้ Collagen Biostimulator คืออะไร ทำงานยังไง ? Collagen Biostimulator หรือ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งทำหน้าที่ในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกายของตัวเองตามธรรมชาติให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อทดแทนคอลลาเจนเดิมที่สูญเสียไปตามอายุ นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึกที่ช่วยให้ผิวยกกระชับ คืนความแข็งแรง ความยืดหยุ่น พร้อมช่วยฟื้นคืนคุณภาพผิวให้กลับมาดียิ่งขึ้น โดยผลลัพธ์ที่ได้จะสามารถอยู่ได้ยาวนานถึง 25 เดือนหลังจากการฉีดเพียง 1 ครั้ง โดยสามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้สูงถึง 66.5% ใน 3 เดือนหลังฉีด ทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ที่ผ่านการรับรองจาก US FDA จากอเมริกา ในเรื่องการรักษาผิวพรรณหรือความงาม ตั้งแต่ปี 2009 รวมถึงล่าสุดผ่านการรับรองจาก Thai FDA ให้นำมาใช้ในการรักษาปัญหาผิวเสื่อมจากคอลลาเจนอีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นที่ยอมรับในเรื่องของความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยมีหลักการทำงาน คือ Original Collagen Biostimulator ประกอบด้วยอนุภาคของ PLLA-SCA (Poly-L-Lactic Acid : Sculptra) โดยผลิตจากโมเลกุลของ พืชที่ไม่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม เป็นโครงสร้างของน้ำตาลเชิงซ้อนและผ่านขบวนการหมักทางชีวภาพด้วย lactobacillus เกิดเป็นสารประกอบในรูปแบบ Polymer ที่โครงสร้างเข้ากับผิวหนังของมนุษย์ซึ่งจะทำงานร่วมกับเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้าในการกระตุ้นและฟื้นฟูคอลลาเจนตามธรรมชาติ โดยผลิตภัณฑ์จะฉีดไปยังผิวหนังชั้นลึก หลังจากนั้น 2-3 วัน น้ำและส่วนประกอบอื่นนอกเหนือจาก PLLA จะถูกดูดซึมออกจากร่างกาย โดยจะเหลือเพียงอนุภาคของ Original Collagen Biostimulator (PLLA) ซึ่งจะเริ่มกระตุ้นให้ร่างกายดึงเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน หรือ Fibroblast เข้ามารวมตัวกันมากขึ้น ทำให้เกิดการสะสมของเส้นใยคอลลาเจนใหม่ที่ช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงของโครงสร้างผิวในระยะยาว สามารถฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยให้อิ่มฟู ยกกระชับ และกลับมามีคุณภาพผิวที่ดีและอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น โดยขบวนการสร้างคอลลาเจน จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่องจนถึง 25 เดือน และโมเลกุลของ PLLA จะถูกขจัดออกจากร่างกายไม่เหลือตกค้างแต่อย่างใด Collagen Biostimulator VS Ulthera VS Thermage ต่างกันยังไง ? Original Collagen Biostimulator (Sculptra) เป็นสารฉีดเพื่อกระตุ้นการสร้าง และฟื้นฟูคอลลาเจนตามธรรมชาติ โดยเป็นการฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังแท้ส่วนล่างเพื่อกระตุ้นให้ผิวมีขบวนการสร้าง fibroblast เพื่อสร้าง collagen ใหม่ ผลที่ได้จะชัดเจนที่ 1-2 เดือนหลังฉีด โดยโครงสร้างผิวจะแข็งแรง อ่อนเยาว์มากขึ้น เรียบเนียน และ กระจ่างใส เหมือนกับการย้อนอายุโครงสร้างผิวในทุกมิติ ด้วยการมีคอลลาเจนที่เพิ่มมากขึ้น Ulthera ใช้วิธีการปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่สูงด้วยเทคโนโลยีไมโครโฟกัส (Micro focused) เข้าไปเป็นจุดเล็กๆ เรียงกันเป็นแถว ในชั้นผิว คอลลาเจน หรือ SMAS โดยขณะทำสามารถมองเห็นโครงสร้างผิวได้อย่างชัดเจนจากหน้าจอ visualization screen แบบ real time ทำให้สามารถกำหนดแนวยกกระชับได้อย่างแม่นยำคลื่นอัลตราซาวด์จากไมโครโฟกัสสามารถเข้าสู่ชั้นผิวลึกลงไป 1.5, 3 และ 4.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นที่อยู่ของผิวชั้นคอลลาเจน และ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน SMAS (Superficial muscular aponeurotic system: SMAS) ใต้ชั้นไขมันอีกที เมื่อชั้นผิวทั้งสองมีความตึงตัวมากขึ้นจึงมีผลเด่นเรื่องการยกกระชับเป็นอย่างมาก เนื่องจากผิวชั้น SMAS นี้แพทย์ใช้ในการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า มีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อผังผืดที่คอยยึดคอลลาเจนกับผิวหนังให้ดูกระชับ จากนั้นคลื่นอัลตราซาวด์จะทำให้เกิดความร้อน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อที่มีความยืดหยุ่นขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวชั้นบนดูกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง Thermage จะใช้การปล่อยคลื่นวิทยุ (Radio frequency: RF) แบบขั้วเดียว (Monopolar) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบของการปล่อยพลังงานมวลคลื่นวิทยุทั้งหมดเข้าไปในพื้นผิวที่ต้องการได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ (Hypodermis) และ ชั้นไขมัน (Subcutaneous fat) จึงมีผลให้คอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ และ ในชั้นไขมัน มีความตึงตัวกระชับ ผลที่ได้คือ ทำให้ ผิวพรรณกระชับมากขึ้น อ่อนเยาว์มากขึ้น รูขุมขนเรียบเนียนมากขึ้น นั่นเอง โดยการทำงานของ Thermage จะเน้นไปที่การคืนความกระชับในชั้นคอลลาเจน และ เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่เป็นโครงสร้างยึดทรงตัวของชั้นไขมันนั่นเอง Collagen Biostimulator / Thermage / Ulthera ทำพร้อมกันได้ไหม ? โดยปกติการทำ Collagen Biostimulator และ กลุ่มเครื่องมือยกกระชับ ulthera and thermage สามารถเสริมให้ผลการยกกระชับดีขึ้น แต่ในบทความนี้ หมอจะขออธิบายถึงลำดับการทำว่า แบบไหนน่าจะเหมาะสมที่สุดครับ หลังการทำ Ulthera หรือ Thermage สามารถฉีด Collagen Biostimulator ได้หรือไม่ เนื่องจากหลังทำ Ulthera หรือ thermage ร่างกายจะมีขบวนการอักเสบเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ การซ่อมแซมชั้น SMAS ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งขบวนการดังกล่าวใช้พลังงานระดับเซลล์ค่อนข้างมากในช่วง 1 เดือนหลังฉีด หมอจึงแนะนำคนไข้ทำการฉีดตัว sculptra หลังจากทำหัตถการกลุ่มเครื่องยกกระชับไปแล้ว 1 เดือน เพื่อไปเสริมปริมาณคอลลาเจนให้มากขึ้น ทำให้ผลการรักษาชัดเจนมากขึ้น ก่อนการทำ Ulthera หรือ Thermage สามารถฉีด Collagen Biostimulator ได้หรือไม่? เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แนะนำให้ฉีด Collagen Biostimulator ก่อนการทำ Ulthera หรือ Thermage ประมาณ 1 เดือน เพื่อให้มีปริมาณ คอลลาเจนที่มากพอและพร้อมในการยกกระชับด้วย Ulthera หรือ Thermage ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง การดูแลตัวเองหลังฉีด Collagen Biostimulator ทำยังไง ? สำหรับผู้ที่สนใจทำโปรแกรม Original Collagen Biostimulator คงจะอยากรู้เรื่องการเตรียมตัวและข้อแนะนำต่างๆ ซึ่งมีคำแนะนำดังนี้ Collagen Biostimulator เหมาะกับใคร ? Collagen Biostimulator เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หรือมีริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยสามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 25-30 ปีขึ้นไป ทั้งยังตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่ในระยะยาว ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า Original Collagen iostimulator สามารถเห็นผลลัพธ์ยาวนานได้ถึง 2 ปี** สามารถใช้เป็นการรักษาเสริมกับการทำหัตถการอื่นๆ ที่ ต้องการให้มีคอลลาเจนที่มากขึ้น เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น เลเซอร์ยกกระชับ Ulthera Thermage HIFU และ ควบคู่กับโปรแกรม การรักษาผิวพรรณ ในผู้ที่มีโครงสร้างผิวที่ดีอยู่แล้ว ก็สามารถฉีด original Collagen Biostimulator ได้เช่นกัน เป็นเสมือนการป้องกันและชะลอวัยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ป้องกันความเสื่อม หยุดเวลาอายุผิวด้วย Collagen Biostimulator ที่ Infiniz Clinic ถ้าคุณเป็นคนที่อยากฟื้นฟูโครงสร้างผิว ช่วยให้ผิวเกิดการยกกระชับ ฟื้นคืนความแข็งแรง ความยืดหยุ่น คืนคุณภาพผิวให้กลับมาดียิ่งขึ้น คุณสามารถเข้ามารับคำปรึกษาได้ที่ Infiniz Clinic โดยมีคุณหมออู๋ ณัฐพล จะทำการตรวจประเมินโครงสร้างผิวในทุกมิติ เพื่อ พิจารณาโปรแกรม การรักษาปัญหาผิวพรรณต่างๆ รวมถึงโปรแกรม collagen Biostimulator จะต้องมีการประเมิน ปริมาณยาที่จะใช้ ตำแหน่งที่ต้องฉีด และ จำนวนครั้งที่ต้องทำการรักษาทั้งหมด เพื่อให้ผลลัพธ์งานผิวของคุณดูดี กระชับ อ่อนเยาว์ขึ้น เสริมความมั่นใจเพื่อการมีบุคลิกที่ดีขึ้น ที่สำคัญคลินิกของเราใช้ผลิตภัณฑ์ Collagen Biostimulator ของแท้ ปลอดภัย 100%
Ulthera ไม่เจ็บ ด้วยเทคนิคใหม่จาก Infiniz ทำให้เจ็บลดลง 80%
นวัตกรรมการยกกระชับผิวหน้าแบบไม่ศัลยกรรมที่ครองใจผู้รับบริการสูงสุด โดยอาศัยใช้เทคโนโลยี คลื่นเสียงพลังงานความเข้มข้นสูงสุด ส่งผ่านไปถึงชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชั้นลึกระดับเดียวกับที่หมอศัลยกรรมทำการผ่าตัดดึงหน้า อีกทั้งยังกระตุ้นสร้างคอลลาเจนโดยรวมทั้งหมด เพื่อคืนความกระชับและความอ่อนเยาว์ให้กลับมาดูเด็กขึ้น ด้วยจากประสบการณ์การทำ Ulthera มามากกว่า 12 ปี ทำให้คุณหมออู๋ นพ.ณัฐพล ลาภเจริญกิจ จึงสามารถคิดค้นและออกแบบการทำ Ulthera SPT รุ่นใหม่และลดความเจ็บลงได้สูงสุด 50- 80% ทำให้ขณะทำแทบไม่รู้สึกเจ็บใดๆ แถมยัง Enjoy กับเทคโนโลยีผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมในทุกๆครั้ง การทำงานของเครื่อง Ulthera SPT กับ เครื่อง Ulthera แบบเก่า ต่างกันอย่างไร การทำงานของเครื่อง Ulthera SPT กับ เครื่อง Ulthera แบบเก่า ต่างกันตรงที่โปรแกรม Ulhera SPT Version ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาต่อผู้รับบริการโดยการใช้ Protocol See Plan Treat เข้ามาเพื่อช่วยในการประมวลผลและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล มีความแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งคุณหมออู๋ยังนำ Protocol นี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการจัดการปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวที่ได้ดีมากขึ้น เนื่องด้วยประสบการณ์ในการทำ Ulthera มามากกว่า 12 ปี ทำให้คุณหมอมีความแม่นยำในการอ่านวิเคราะห์โครงสร้างผิวของผู้รับบริการอย่างละเอียดจากหน้าจอ Visualization ทำให้สามารถมองเห็นถึงปัญหาผิวภายในได้อย่างละเอียด และมองเห็นความอ่อนแอของตำแหน่ง SMAS และ Collagen ที่ต้องการการฟื้นฟูด้วยพลังงานของคลื่นเสียงในระดับที่เหมาะสม และเพียงพอที่จะกระตุ้นให้มีการสร้างใหม่โดยไม่เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว ทำ Ulthera รู้สึกอย่างไรบ้าง ไม่เจ็บจริงไหม? ทำ Ulthera รู้สึกไม่เจ็บจริงหรือไม่ ต้องบอกว่า พลังงาน MicroFocued Ultrasound ของ Ulthera มีความหนาแน่นค่อนข้างสูง การออกแบบการปล่อยพลังงานจึงมีความสำคัญเพื่อลดอาการเจ็บต่อผู้รับบริการ โดยต้องมีระดับที่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ โดยไม่ทำร้ายผิว ซึ่งเทคนิคการใช้พลังงานในรูปแบบนี้ ถูกคิดค้นขึ้นโดยคุณหมออู๋ นพ.ณัฐพล ลาภเจริญกิจ เรียกว่า “Energy Optimization” การทำ Ulthera SPT ผสานกับรูปแบบของการปล่อยพลังงานที่มีความแม่นยำดังกล่าว มีความเจ็บลดลง 50-80% โดยเฉลี่ย จากการเก็บข้อมูล Pain Score ของผู้รับบริการทั้งหมดประมาณ 2 ปี และผลการรักษาที่ชัดเจนตั้งแต่หลังทำ โดยแทบจะไม่มีอาการบวมระบมหลังทำแต่อย่างไร ค่าเฉลี่ยผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี โดยขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาที่เริ่มทำ และการดูแลตัวเองรวมถึงรูปแบบ Lifestyle การดูแลผิวพรรณของผู้รับบริการแต่ละบุคคล ทำ Ulthera ต้องใช้เวลาพักฟื้นไหม ทำ Ulthera ต้องใช้เวลาพักฟื้น นั่นอาจจะเป็นรูปแบบเก่า แต่ถ้าลองทำการรักษาด้วย Ulthera SPT ใบหน้าจะมีการยกกระชับทันที 20-30% หลังทำ โดยผู้รับบริการสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่มีรอยแผลรวมทั้งอาการบวมระบมผิวก็ลดลงเมื่อใช้ เครื่อง Ulthera SPT รุ่นใหม่ จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้รับบริการที่ต้องการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ศัลยกรรม เนื่องจากไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องเสี่ยงต่อผลข้างเคียงเรื่องการติดเชื้อ และไม่มีรอยแผลนั่นเอง Ulthera แบบใหม่ เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน Ulthera แบบใหม่ เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน ในส่วนนี้เราจะมาให้คำตอบกัน Ulthera SPT สามารถทำอะไรได้บ้าง Ulthera SPT สามารถทำการรักษาด้วย Ulthera SPT เนื่องจากในเครื่องรุ่นใหม่ จะมี Transducor tip ชนิดพิเศษที่ความลึกระดับ 1.5 mm โดยพลังงาน Ultrasound จะถูกปล่อยออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ชั้นคอลลาเจน ในระดับตื้น นั่นเอง แต่การรักษาใน Level นี้ คงต้องอาศัยเทคนิคที่ถูกวิธีและระดับพลังงานที่เหมาะสม เนื่องจากมีโอกาสการเกิดผลข้างเคียง ค่อนข้างมาก โดยหากทำด้วยเทคนิคที่ถูกวิธี จะทำให้ ผลการรักษาชัดเจน หลังทำเริ่มเห็นผิวที่เรียบเนียนได้ใน 1-2 สัปดาห์ อีกทั้งยังสามารถรักษาความหย่อนคล้อยของ หนังตา คิ้ว คอ หน้าอก ได้ดี โดยการรักษาบริเวณเหล่านี้ จำเป็นต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในการอ่านผล scan หน้าจอ Visualization แบบ Real Time ที่แม่นยำ เนื่องจากเป็นที่ขนาดเล็ก และ ใกล้เคียงกับ เส้นเลือดขนาดใหญ๋ และ เส้นประสาทที่สำคัญ ในผู้รับบริการที่มีปัญหาผิวแพ้อักเสบ เกิดผื่นแพ้ หรือ ภาวะหลังโดนแดดทำให้ผิวสูญเสียน้ำไปค่อนข้างมาก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับบริการ Ulthera ไปก่อน โดยจำเป็นต้องรักษาอาการผื่นแพ้อักเสบให้หายดีก่อน ส่วนในรายที่ผิวมีภาวะผิวไม่อิ่มน้ำ การเติมน้ำเข้าสู่ผิวให้เข้าสู่ภาวะสมดุล เช่น การใช้โมเลกุล Skinboosters (Crosslinked Hyaluronic acid for Skin Hydration ) ควบคู่กับการทำ Ultherapy จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น แนะนำทำ Ulthera ที่ Infiniz Clinic Infiniz Ulthera โปรแกรมการยกกระชับปรับรูปหน้า ด้วย Ulthera SPT รุ่นใหม่ล่าสุด โดยทีมแพทย์ Infiniz Clinic ควบคุมโดย คุณหมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ (Medical direcror of Infiniz clinic) การทำ Ulthera ด้วยเทคนิค Energy Optimization ควบคุมการออกแบบการรักษาและการปล่อยพลังงาน Microfocused Ultrasoud with Visualization แบบที่เหมาะสมกับ SMAS และ Collagen ทุกระดับชั้นผิว จึงทำให้ผลการรักษาดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังทำ ความเจ็บที่ลดลง 50-80% จากความเห็นของผู้รับบริการ ตลอด 2 ปี โดยการรักษาด้วยเทคนิคดังกล่าวอยู่ได้ยาวนาน 1-2 ปี การันตีด้วย รางวัล The Best Ultherapy Practice by a Doctor 2019 Awarded by Merz Aesthetics Thailand โดยคุณหมออู๋ได้รับรางวัลอัตราการใช้ งาน Ultherapy Transducer Tips สูงสุดในกลุ่ม Single คลินิกด้วยจำนวนผู้เข้ารับบริการจำนวนมาก ทำให้เป็นคลินิกที่มีการใช้ Ultherapy Transducers ทุกระดับชั้นผิวและทุกแบบแก่ผู้รับบริการเพื่อความพร้อมการดูแลยกกระชับผิวพรรณแบบ ครบวงจร