หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดูแลตัวเองอย่างไร? เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

หากคุณกำลังมองหาวิธีลดใต้ตาที่หมองคล้ำและร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น แน่นอนว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานนั้น ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องปฏิบัติตามวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างถูกต้อง รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการสลายตัวของฟิลเลอร์ ดังนั้น ในบทความนี้ Infiniz Clinic จะมาแนะนำข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่บนใบหน้าคุณได้อย่างยาวนาน

 

 

รวม 7 วิธี ดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

 

การฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละบริเวณบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ขมับหรือฟิลเลอร์หน้าผากนั้น ต่างมีวิธีการดูแลหลังฉีดคล้ายกันเพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงลดโอกาสติดเชื้อบริเวณที่ฉีด เพียงแต่หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรระมัดระวังบริเวณรอบ ๆ ดวงตาเป็นพิเศษ โดยไม่ควรสัมผัสหรือขยี้ตาบ่อย ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดการอักเสบและเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงอย่างการทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน หรือมีอาการบวมแดงได้

นอกจากการดูแลตัวเองหลังฉีด Filler ใต้ตาแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การเลือกฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละจุด ซึ่งทางคลินิกต้องไม่ใช้ฟิลเลอร์ปลอม โดยปกติแล้วหากเป็นการฉีดฟิลเลอร์คางและฟิลเลอร์ร่องแก้ม ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ได้ต้องการการเติมเต็มมากนักแพทย์จะแนะนำให้เริ่มฉีดฟิลเลอร์ 1 CCถึง 2 CC ก็เพียงพอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

 

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ห้ามทำอะไรบ้าง?

 

หากใครกำลังกังวลว่าข้อห้ามหลังฉีด Filler ใต้ตามีเยอะมากน้อยแค่ไหน? หลังฉีด filler ห้ามกินอะไร? จริง ๆ แล้วหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ได้มีข้อห้ามมากมายอย่างที่หลายคนคิด เป็นเพียงข้อห้ามเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสัมผัสรอบดวงตา และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางประเภท ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

 

1. หลีกเลี่ยงการขยี้ตา เกา หรือกดหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรหลีกเลี่ยงสัมผัสบริเวณรอบ ๆ ดวงตา ไม่ว่าจะเป็น การขยี้, เกา, นวด หรือกดใต้ตา เพราะอาจทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดการอักเสบและบวมแดง รวมถึงเสี่ยงทำให้ฟิลเลอร์กระจายไปบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้าได้ โดยปกติแล้วหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเกิดอาการคัน บวมแดง แต่อาการจะหายไปเองภายใน 7-14 วัน

 

2. งดสูบบุหรี่ รวมถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

การงดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ใต้ตาที่ควรปฏิบัติตาม แม้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะไม่ได้ส่งผลกับฟิลเลอร์โดยตรง แต่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ทำให้แผลบริเวณที่ฉีดสมานตัวช้าลง รวมถึงทำให้ฟิลเลอร์ยุบบวมช้าลง

 

3. รับประทานยาตามคำสั่งของแพทย์

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแพทย์จะทำการสั่งจ่ายยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ หรือยาแก้อักเสบให้แก่ผู้เข้ารับบริการเพื่อลดอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยผู้ฉีดฟิลเลอร์ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วนและดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูปและคงสภาพอยู่ได้นานขึ้น แต่หากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์หรือแพ้ยาควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำหัตถการทันที

 

4. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของดอง และของดิบ

การรับประทานอาหารรสจัดหรือเค็มจนเกินไป อาจส่งผลให้ร่างกายมีภาวะบวมน้ำ กล่าวคือ มีการดูดซึมน้ำเข้าสู่ร่างกายมากขึ้นทำให้ใบหน้าบวม เหงื่อออกง่าย หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหากสัมผัสหรือเช็ดบริเวณที่ฉีดก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการบวมแดงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรหลีกเลี่ยงอาหารของหมักดองและของดิบด้วยเช่นกัน เพราะอาจมีสิ่งปนเปื้อนอย่างพยาธิเข้าสู่ร่างกายซึ่งไปกระตุ้นให้บริเวณที่ฉีดอักเสบ

 

5. เลี่ยงการสัมผัสหรือโดนความร้อน

อีกหนึ่งข้อห้ามหลังฉีด Filler ใต้ตาก็คือ ผู้เข้ารับบริการควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสและโดนความร้อน ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมกลางแจ้ง, การทำหัตถการอย่างเลเซอร์ผิว, การทำซาวน่า หรือทรีตเมนต์อบไอน้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาทันที เพราะกิจกรรมดังกล่าวเป็นการทำให้ฟิลเลอร์เสียรูป และกระตุ้นการสลายตัวของฟิลเลอร์ใต้ตา อีกทั้งยังทำให้ผิวระคายเคืองจากการสัมผัสแดดโดยตรง เช่น แสบผิว รอยแดง จึงควรหลีกเลี่ยงสัมผัสแดดอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีด

 

6. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก

ข้อห้ามที่แนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใน 48 ชั่วโมงแรก ผู้เข้ารับบริการควรหลีกเลี่ยงท่าออกกำลังกายแบบหนักหรือการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกง่าย เช่น การวิ่ง การยกน้ำหนัก การขี่จักรยาน เป็นต้น เพราะจะทำให้บริเวณที่ฉีดมีอาการอักเสบหรือบวมแดง ตลอดจนทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิมได้ จึงแนะนำให้ออกกำลังกายแบบเบา ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแทน

 

7. ปรับท่านอนให้เหมาะสม

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผู้เข้ารับบริการควรปรับท่านอนให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการนอนกดทับใบหน้า โดยในช่วง 2-3 วันแรกหลังฉีดแนะนำให้นอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้าหรือนอนตะแคง เพราะอาจโดนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้

 

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันถึงจะเห็นผล?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล? การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นผลเปลี่ยนแปลงหลังฉีดได้ทันที โดยร่องลึกใต้ตาจะดูเต็มขึ้นแต่ยังมีอาการบวมอยู่เพียงเล็กน้อย หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาภายในระยะเวลา 4-5 วันบริเวณที่ฉีดจึงจะเริ่มเข้าที่ และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิว ยี่ห้อฟิลเลอร์ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดของผู้เข้ารับบริการแต่ละบุคคล

สำหรับใครที่สงสัยว่าฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี? โดยปกติแล้วหากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน Restylane ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผู้เข้ารับบริการนิยมฉีด เพราะเนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตาได้

 

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

แม้ผู้เข้ารับบริการจะทำตามวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างครบถ้วนแล้ว แต่ก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน การฉีดฟิลเลอร์จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ซึ่งผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจเกิดขึ้นได้ ดังต่อไปนี้

 

• • อาการบวมแดง บริเวณที่ฉีดมีอาการบวม เขียวช้ำ หรือมีรอยเข็ม เป็นอาการปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งจะหายไปเองภายใน 2 สัปดาห์
  • อาการอักเสบ บริเวณที่ฉีดจะเกิดตุ่ม บวม หรือปวด หากมีอาการอักเสบอย่างรุนแรง เช่น เกิดหนองบริเวณที่ฉีด ผู้เข้ารับบริการควรรีบพบแพทย์ทันที
  • อาการติดเชื้อ มีโอกาสเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจากการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่สะอาด คลินิกไม่ได้มาตรฐาน
  • อาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นอาการแพ้สารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังฉีดภายใน 24 ชั่วโมง หรือหลังฉีดเป็นเดือน หากพบว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีอาการผื่นแดง ผื่นลมพิษ หรือหนังตาบวม ควรรีบพบแพทย์ผู้ทำหัตถการเพื่อฉีดสลายฟิลเลอร์ออกทันที

 

สรุป วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

แน่นอนว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก และความหมองคล้ำ ทำให้รอยบริเวณใต้ตาดูจางลง ผิวใต้ตาอิ่มฟู รวมถึงส่งเสริมบุคลิกให้ดูสดใสมากขึ้น ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตามวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้ตา งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ

หากใครกำลังมองหาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี? ที่ Infiniz Clinic เรามีบริการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าบริเวณต่าง ๆ และกระตุ้นคอลลาเจนด้วยนวัตกรรมใหม่อย่างการทำ Radiesse โดยทีมแพทย์หมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ อาจารย์แพทย์สอนฉีดฟิลเลอร์ระดับต้น ๆ ของประเทศ ที่มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์มามากกว่า 15 ปี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผ่านช่องทาง ดังนี้

 

• • Facebook : Infiniz Clinic : Skin & Facial Design Expert
  • Line ID: @Infinizclinic
  • โทร : 098-828-5444

References

Elle, Y. (2022, July 26). What You Should Know Before Getting Under-Eye Fillers. Glam By Static Media. https://www.glam.com/941802/know-before-getting-under-eye-fillers/#

Whelan, C. (2020, February 22 ). All About Eye Fillers. Healthline Media. https://www.healthline.com/health/eye-fillers#candidates

Santilli, M.& Jacoby, S.(2022, May 18). Everything You Need to Know About Under-Eye Filler.Self Magazines. https://www.self.com/story/under-eye-filler-what-to-expect