Infiniz Clinic ได้รับรางวัล คลีนิกที่มียอดใช้โปรแกรมฟิลเลอร์ และ โปรแกรมสารลดเรือนริ้วรอย สูงสุดระดับประเทศ
Infiniz Clinic และ คุณหมออู๋ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับเชิญในงาน Allergan Award Night 2023เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยได้รับรางวัลคลีนิกที่มียอดใช้สารลดเรือนริ้วรอยจากอเมริกา และ ฟิลเลอร์ ของบริษัท Allergan สูงสุดในประเทศ คุณหมออู๋ และ อินฟินิช คลินิก ขอขอบคุณผู้รับบริการทุกท่านมา ณ ที่นี้ และ ขอสัญญาจะสร้างสรรค์โปรแกรมการฉีดสารลดเรือนริ้วรอย และโปรแกรมฟิลเลอร์ เพื่อความเป็นเลิศทางการรักษาผิวพรรณและการปรับรูปหน้าแบบไม่ศัลยกรรมเพื่อผู้รับบริการทุกท่านต่อไปค่ะ
Anatomy บริเวณใต้ตา (Tear Trough Anatomy)
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไรให้ปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามลงตัวอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตานั้นถือว่าเป็นบริเวณที่มีความซับซ้อนค่อนข้างมาก เนื่องจากว่า มีโครงสร้าง ผิวหนังไขมัน กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ที่วางตัวซ้อนทับกัน และ พาดเกี่ยวกัน ด้วยเส้นใยกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่สำคัญปริมาณมากรวมทั้งพื้นที่บริเวณใต้ตาและแก้ม จะมีการเคลื่อนไหวอย่างมากนำมาซึ่งพยาธิสภาพที่ผิดปกติเมื่อ อายุที่มากขึ้น ทั้งความหย่อน และโครงสร้างที่บางหรือพร่องลงไป นอกจากนี้ บริเวณใต้ตา และแก้ม ยังมีเส้นเลือดเส้นประสาทสำคัญปริมาณมาก และมีความสำคัญที่เชื่อมต่อเข้าสู่ดวงตาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นแพทย์จึงจำเป็นต้องรู้ตำแหน่งของเส้นเลือดเหล่านี้อย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ไปในบริเวณดังกล่าว หรือ ป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์นั่นเอง พื้นทีบริเวณใต้ตา ประกอบด้วย Jigsaw ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกัน และ วางทับกันอยู่เป็นปริมาณมาก และ มีขนาดหรือการเรียงตัวที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลการเข้าใจถึงพยาธิสภาพปัญหาที่ถูกต้องสำหรับปัญหาใต้ตาจึงต้องได้รับการฝึกฝน และ ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์อย่างมากโดยการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เล็กๆนี้ ยังต้องอาศัยความแม่นยำในการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณนั้นๆอีกเช่นกันดังนั้นสิ่งสำคัญที่แพทย์ทุกคนควรต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างสูง นั่นคือโครงสร้างกายวิภาคศาสตร์บริเวณใต้ตา อย่างละเอียด เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามไร้ผลข้างเคียง ปัญหาที่พบบ่อยคือ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน หลังฉีด ซึ่งอาจพบได้หลังจากฉีดไปแล้ว 3-6 เดือน หรือในบางราย อาจยาวนานถึง 1 ปี จึงค่อยเกิดปัญหานี้ขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักคือการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแทรกตัวอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อนั่นเอง โดยมักเกิดขึ้นจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณใต้ตามีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก จึงง่ายต่อการเกิดภาวะดังกล่าว ซึ่งวิธีแก้คือ การฉีดสลายฟิลเลอร์ส่วนเกินนั้นออกและ ทำการแก้ไขใหม่ตามความเหมาะสม อีกปัญหาหนึ่งคือการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาในชั้นตื้นเกินไปและปริมาณมากเกินไป จึงเกิดเป็นก้อนสีเทาๆ จากแสงที่ตะกกระทบลงบนผิว ทำให้เกิดความไม่เรียบเนียนและไม่สวยงาม ขั้นตอนนี้ เกิดขึ้นจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง หรือการใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพปัญหา จึงเกิดภาวะไม่กลืนตัวเข้ากับผิวบริเวณดังกล่าว โดยแพทย์ผู้ฉีดต้องมีความระมัดระวังอย่างสูงนั่นเอง โดยการแก้ไข ก็จำเป็นต้องฉีดยาสลายฟิลเลอร์ส่วนนั้นออก และ ประเมินสภาพปัญหาใหม่ การเลือกชนิดของ HA Fillerก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญที่จะนำมาซึ่งผลการรักษาที่ดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับโครงสร้างหรือผิวพรรณของผู้รับบริการได้อย่างดีเยี่ยม โดยฟิลเลอร์ที่นิยมฉีดแก้ไขบริเวณใต้ตา สำหรับคนไทย คือ Restylane Vital Light หรือ Restylane Classic และ Juvederm Volbella or Juvederm Volite นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ในผู้รับบริการบางคน ที่มีร่องใต้ตาลึกมาก ก็สามารถใช้ Filler ชนิดที่มีโมเลกุลใหญ่ขึ้น นำมาแก้ปัญหาได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาด้วยโปรแกรม Daisy Eyes โดยคุณหมออู๋ ณัฐพล ยังถูกออกแบบมาให้สามารถใช้เทคนิคในการยกกระชับ และ แก้ไขถุงใต้ตา ได้อีกด้วย โดยจากการดูโครงสร้างบริเวณใต้ตาจะเห็นได้ว่า เมื่ออายุที่มากขึ้น ย่อมทำให้กระดูกเบ้าตา และ ชั้นไขมันใต้ตา บางลง เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อก็มีความหย่อนไม่กระชับอีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้ไม่สามารถค้ำจุนถุงใต้ตาที่โป่งพองออกมาจากอายุที่มากขึ้นได้ ดังนั้น การแก้ไขด้วยการวางฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลพอดี และแม่นยำ จึงช่วยให้มีโครงสร้างที่ support ถุงใต้ตาได้อย่างดีทำให้ขนาดลดลง ดังนั้นด้วยวิธีการฉีดฟิลเลอร์ ใต้ตาอย่างถูกวิธี จึงสามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมได้อีกด้วย **อย่างไรก็ตามปัญหาถุงใต้ตา มีความซับซ้อน และมีหลากหลายรูปแบบแนะนำพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาก่อนได้รับการรักษาเท่านั้น เพื่อวางแผนการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากปัญหาถุงใต้ตาของผู้รับบริการแต่ละคนแตกต่างกัน
หมออู๋ Update ความรู้ด้านกายวิภาคศาสตร์ประจำปี ค้นพบ บริเวณที่ต้องระวังเพิ่มเติมในการฉีดฟิลเลอร์ คือ คาง และ ขมับ
ปัจจุบัน มีผู้เข้ามารับบริการการฉีดฟิลเลอร์บริเวณคางและขมับ จำนวนมาก ที่อินฟินิซ คลินิก โดยส่วนมากเป็นเคสที่เคยฉีดฟิลเลอร์บริเวณดังกล่าวมาก่อนแล้วเจอผลข้างเคียง ที่หมอรวบรวมไว้มีดังนี้ ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์คางจากคลินิกอื่น -รูปทรงไม่เข้ากับใบหน้า ยาวไป สั้นไป หรือ คางยื่นเกินไป -คางไม่สมดุล ไม่สมมาตรกัน หรือ ไม่ได้สัดส่วนกับแนวขากรรไกรล่าง -มีก้อนฟิลเลอร์ช้ดเจนขณะอยุ่เฉยๆ หรือมองเห็นขณะพูดและแสดงสีหน้า -มีอาการบวมแดงอักเสบหลังฉีด หรือภาวะคางอักเสบ ติดเชื้อ -มีอาการบวมแดง เป็นบางครั้ง -เจอเคสผลข้างเคียงจากการฉีดอุดตันเส้นเลือด ทำให้ ริมฝีปากล่างม่วงคล้ำ ผิดปกติ แต่ได้รับการแก้ไขทันเวลา จนเป็นปกติ ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ขมับจากคลินิกอื่น -ขมับบวม ผิดรูป ไม่ได้สัดส่วน -หลังฉีดมีอาการบวม และ ช้ำมาก -หลังฉีดไปสักระยะหนี่งมีอาการก้อนบวมปูดเป็นระยะๆ -ฟิลเลอร์ไม่กลืนกับผิวทำให้มีความไม่เรียบ -รูปทรงขมับไม่สัมพันธ์กับโครงสร้างบริเวณโหนกแก้มและหน้าผาก -มีรอยช้ำหรือสีม่วงบริเวณขมับหลังการฉีดจากที่อื่นมา แต่ได้รับการแก้ไขทันเวลา จะสังเกตเห็นว่า การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ความรู้ความเข้าใจ สรีระกายวิภาคศาสตร์ ตลอดจนการออกแบบรูปทรง เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเติมฟิลเลอร์บริเวณ คาง และ ขมับ รวมถึงเทคนิคการวางฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและสวยงาม อย่างไรก็ตามอาการข้างเคียงที่รุนแรงที่สำคัญที่สุดคือการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปอุดตัน หรือ กดเบียด เส้นเลือดบริเวณใกล้เคียงจนเกิดภาวะเนื้อตายบริเวณที่ฉีดถือเป็นผลข้างเคียงที่อันตรายที่สุด ซึ่งแพทย์ต้องป้องกันและหลีกเลี่ยงภาวะดังกล่าว วันนี้ในงานประชุมวิชาการประจำปี GAIN INSPIRED : Annual update on the “ensuring safe & effective use of dermal fillers and collagen biostimulator” 2023 มีเนื้อหาใหม่ๆที่เป็น highlight ที่หมออู๋ รวบรวมมาให้ผู้รับบริการเข้าใจดังนี้ นอกจากบริเวณใต้ตาและบริเวณหน้าผากที่เป็นจุดเสี่ยงหลักในการฉีดฟิลเลอร์ และควรได้รับการแก้ไขโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์บริเวณดังกล่าวมาอย่างดี การฉีดฟิลเลอร์บริเวณคางและขมับคับเป็นอีกบริเวณที่แพทย์มักลืมให้ความสำคัญต่อเส้นเลือดเส้นประสาทบริเวณนี้ เพราะคิดว่าฉีดง่าย แต่เมื่อปีที่ผ่านมา พบเคสมีปัญหาฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดหลังได้รับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณดังกล่าวจำนวนมาก ข้อมูลสำคัญคือ บริเวณคาง มีเส้นเลือดดำและแดง🖤❤️ หรือ แขนงที่เชื่อมต่อกันปริมาณมากและเชื่อมต่อกับภายในช่องปากด้วย ซึ่งยากจะคาดเดาได้บนใบหน้าจึงตัองอาศัยการวิเคราะห์จากสภาพปัญหาจริง ของผู้รับบริการแต่ละบุคคลก่อนจะวางแผนการฉีดฟิลเลอร์คับ ความแม่นยำในเนื้อหา Anatomy และเทคนิคการฉีดที่ปลอดภัย รวมถึงประสบการณ์ของแพทย์เท่านั้น จึงจะสามารถรังสรรค์งานฉีดฟิลเลอร์คางให้ได้ รูปทรงที่สวยงาม✨โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ การฉีดฟิลเลอร์ที่คลาดเคลื่อนตำแหน่งผิดเพียงแค่ 0.1-0.2 มิลลิเมตร ย่อมทำให้มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงผิวหนังขาดเลือดที่สำคัญ ได้แก่ คาง ริมฝีปาก และ ในช่องปาก เช่น ลิ้น อีกตำแหน่งหนึ่ง ที่มีผู้รับบริการที่อินฟินิซคลินิกเป็นจำนวนมาก คือ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ ด้วยพื้นที่ในการฉีดมีจำกัด และมีเส้นเลือดเส้นประสาทพาดผ่านจำนวนมากและหนาแน่น ตลอดจนมีโครงสร้างผิวถึง 10 ชั้นทำให้การฉีดต้องอาศัยความแม่นยำสูงสุด พร้อม การใช้ตัวฟิลเลอร์ที่เหมาะสมในการขึ้นทรงขมับให้ผู้รับบริการให้สวยถูกใจไร้รอยต่อ โดยไม่มีผลข้างเคียง และที่สำคัญในใบหน้าจริงมีเส้นเลือดที่วางในลักษณะที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลอีกด้วย ทำให้แพทย์ต้องทำการตรวจร่างกาย ประเมินสภาพปัญหาผิวพรรณที่แตกต่างกัน เพราะการวางฟิลเลอร์บริเวณนี้ ต้องอาศัยทักษะสูงเพื่อเลี่ยงการโดนเส้นเลือดแต่ยังคงต้องควบคุมให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามถูกใจผู้รับบริการมากที่สุด รวมถึงทักษะการออกแบบรูปทรงขมับให้รับกับไรผม คิ้ว หน้าผาก ดวงตา ตลอดจนโหนกแก้มของผู้รับบริการ
Juvederm Volite ฟิลเลอร์กระตุ้นผิวนุ่มชุ่มชื้น ฉ่ำวาวตามต้นแบบฉบับสาวเกาหลี
ในที่นี้เชื่อว่าทุกคนต้องอยากให้ผิวดูสวยสุขภาพดีกันอยู่แล้ว แต่จะทำหัตถการชนิดไหน นี่คือสิ่งที่หลาย ๆ คนกำลังเกิดความลังเลและไม่แน่ใจ ซึ่งในวันนี้ทาง อินฟินิซ คลินิก จะเป็นคนที่ช่วยหาทางออกให้กับคุณ โดยขอเสนอเป็นการทำโปรแกรมฟิลเลอร์ ที่ใช้ชื่อว่า Juvederm Volite ซึ่งโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ตัวดังกล่าว ช่วยเรื่องอะไร และมีจุดเด่นยังไงบ้าง คุณจะได้รู้แน่ ๆ และตั้งใจอ่านให้ดี เพราะครั้งนี้เรามาพร้อมโปรโมชั่นดี ๆ เพื่อให้ความสวยเป็นสิ่งที่ใครก็สามารถเข้าถึงได้ แค่มาใช้บริการที่คลินิกของเรากับทีมแพทย์อินฟินิซ คลินิก Juvederm Volite คืออะไร ช่วยในเรื่องอะไร ? Juvederm Volite ผลิตภัณฑ์ HA Filler ตัวใหม่ล่าสุดจากบริษัท Allergan Aesthetics ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ความงามรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา Juvederm Volite เป็น Cross-linked Hyaluronic Acid (HA) ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้มากถึง 1000 เท่า นอกจากนี้ ยังกระตุ้น AQP3 ( Aquaporin 3; Water and Glycerol Transporter) จึงทำให้ผิวอิ่มน้ำ ดูฉ่ำวาว รูขุมขนกระชับ ผิวดูสุขภาพดี ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน และช่วยลดเรือนริ้วรอย ซึ่งเจลจะถูกฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ (Deep Dermis) เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาผิวทั้งชั้นนอกและชั้นในได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยนวัตกรรมของ Juvederm Volite ด้วย HA ที่มีความอ่อนนุ่มที่สุดในกลุ่มเทคโนโลยี VyCross จึงมีความเบาบางของโมเลกุล และ ความเข้มข้นพอเหมาะกับการฉีดเพื่อรักษาผิวพรรณ หากฉีดเข้าสู่ระดับชั้นที่ถูกต้อง จะไม่เกิดก้อนหรือตุ่มนูนผิดปกติ Juvederm Volite นอกจากจะใช้รักษาปัญหาผิวบริเวณใบหน้าแล้ว ยังสามารถฉีดรักษาผิวพรรณบริเวณลำคอและมือ โดยเหมาะกับทุกเพศทุกวัย และหลังจากการฉีดเพียง 1 ครั้ง อยู่ได้ยาวนาน 9-12 เดือน การฉีด Juvederm Volite สามารถช่วยเหลือปัญหาผิวพรรณดังนี้ จุดเด่นที่ทำให้ควรฉีด Juvederm Volite ที่ อินฟินิซ คลินิก มีโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อและรุ่น โดยคุณหมออู๋ และ ทีมแพทย์ อินฟินิซ คลินิก จะมีวิธีการเลือกใช้โดยคำนึงถึงปัญหาและผลลัพธ์ที่ถูกใจผู้รับบริการมากที่สุด ในส่วนของ Juvederm Volite มักนำมาใช้แก้ปัญหาเรื่องผิวพรรณ เช่นปัญหาผิวหยาบกร้าน ผิวขาดน้ำ ริ้วรอยปัญหารอบดวงตา หรือ ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ทั้งนี้ตัวฟิลเลอร์ Juvederm Volite มีจุดเด่นในเรื่องการเก็บกักน้ำได้อย่างล้ำลึกและยาวนานถึง 9 เดือน หลังการฉีดเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ร่วมกับความสามารถในการยกกระชับผิวหลังฉีดทำให้ฟิลเลอร์ไม่ถ่วงผิวจนเกิดภาวะผิวหนาผิดปกติ แต่ช่วยปรับรูปทรงผิว (skin contour) ให้เข้ารูปมากขึ้นอีกด้วย โดยรวม โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ juvederm Volite ช่วยเรื่องดังต่อไปนี้ ฉีด Juvederm Volite ตรงไหนได้บ้าง โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Volite สามารถรักษาปัญหาผิวได้หลากหลายโดยเน้นการรักษาระดับชั้นผิวหนังส่วนตื้น โดยหลักๆเป็นเรื่องของการปรับสมดุลและสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และชุ่มชื้นมากขึ้น บริเวณที่ทำการรักษาสามารถฉีดได้ดังนี้ ใครบ้างที่ควรฉีด Juvederm Volite โดยทั่วไป โปรแรกมการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Volite สามารถทำการรักษาได้ในทุกกลุ่มอายุ โดยแบ่งประเภทผู้รับบริการออกเป็นคร่าวๆ ดังนี้ ปลุกผิวใสให้ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว ฉีด Juvederm Volite ที่ Infiniz เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์โปรแกรม Juvederm Volite ที่อินฟินิซ คลินิก เริ่มต้นจากการประเมินสภาพปัญหาและกำหนดจุดที่ต้องการแก้ปัญหา และ คำนวณปริมาณยาที่ต้องการจะใช้ ให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในส่วนของเทคนิคการฉีดต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ในการปล่อยยาให้ตรงตำแหน่งของชั้นผิวระดับ “Intradermal” ใจกลางชั้นผิวส่วนบน เพื่อที่จะทำให้โมเลกุลของ Juvederm Volite กระจายตัวผ่านการทำงานของ AQP3 transporter ได้ดีที่้สุด เพื่อสร้างปรากฏการณ์เพิ่มน้ำสู่ผิวได้อย่างยาวนานที่สุด นอกจากนี้ การฉีดในชั้นดังกล่าว ยังสามารถเพิ่มผลการยกกระชับโครงสร้างผิว (Lifting capacity) ได้ดีที่สุด และไม่เกิดผลข้างเคียงเช่นก้อนหรือลำฟิลเลอร์ผิดปกติหลังฉีดนั่นเอง ราคาโปรโมชั่นโปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Volite โดยทีมแพทย์อินฟินิซ คลินิก = 18,000 บาท ต่อ ML
Restylane Vital Light ฟิลเลอร์สำหรับลดริ้วรอยและร่องลึกใต้ตา
เพราะอายุที่มากขึ้น ริ้วรอยและร่องลึกใต้ตาก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่จะตามมา จึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีหยุดปัญหาดังกล่าว และรักษาผิวไม่ให้เกิดริ้วรอย ดังนั้นเลยต้องมีการใช้ฟิลเลอร์เข้ามาช่วยในการแก้ไข โดยในวันนี้เราอยากจะแนะนำยี่ห้อ Restylane เป็นตัว Restylane Vital Light หนึ่งในฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มในกลุ่ม HA ที่มีโมเลกุลบางเบา ช่วยแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตาได้ดี และจะพาไปดูความแตกต่างระหว่าง Restylane Vital กับ Restylane Vital Light ข้อห้ามในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รวมไปถึงข้อดีของการทำหัตถการดังกล่าว จาก Infiniz Clinic Restylane Vital Light คืออะไร มาจากไหน ? ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มในกลุ่มเจลไฮยาลูโรนิกแอซิด มีความสามารถในการเติมเต็มร่องลึก ลดเรือนริ้วรอย และยังสามารถดึงโมเลกุลของน้ำเข้ามาเก็บไว้กับบริเวณผิวที่ทำการเติม ฟิลเลอร์ดังกล่าว ทำให้ผู้ที่รับการรักษานอกจากได้ปรับแก้ริ้วรอยร่องลึก เติมเต็มจุดที่บกพร่อง และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น Restylane ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ทั่วโลก เนื่องจากมีงานวิจัยเป็นจำนวนมาก ที่ยืนยันเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยหลังจากการรักษาด้วยฟิลเลอร์ดังกล่าว การใช้งานจึงกระจายออกสู่ 70 ประเทศทั่วโลก ไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ Restylane Vital กับ Restylane Vital Light ต่างกันยังไง ? สำหรับ Restylane Vital กับ Restylane Vital Light มีความแตกต่างดังนี้ Restylane Vital Light เหมาะสำหรับใคร ? Restylane Vital Light เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์ โดยตัวเจล จะเข้าไปปรับสมดุลน้ำให้กับผิว และ กระตุ้นให้มีการจัดระเบียบของคอลลาเจนใหม่ นำมาซึ่ง ผิวเรียบเรียน อิ่มน้ำฉ่ำ โกลว์ รูขุมขนกระชับ และ ลดเรือนริ้วรอย นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา โดยตัวเจลมีความบางเบา เหมาะกับการแก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตาของสาวเอเชียได้อย่างเรียบเนียนและมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ คุณหมออู๋ยังมีการนำมาใช้ในโปรแกรม Skinboosters Lip เพื่อรักษารอยแตกและเพิ่มความชุ่มชื้นกับ ริมฝีปาก อีกด้วย ก่อนฉีด Restylane Vital Light มีข้อห้ามอะไรบ้าง ? ข้อดีของการฉีด Restylane Vital Light มีอะไรบ้าง ? แก้ปัญหาร่องตื้นใต้ตา เลือก Restylane Vital Light ที่ Infiniz เทคนิคการแก้ไขปัญหาร่องตื้นๆใต้ตา ทาง infiniz clinic ใช้โปรแกรม 3D Skinboosters ลิขสิทธิ์เฉพาะของคุณหมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวส่วนตื้นของบริเวณใต้ตา โดยเฉพาะ โดยคุณหมอจะทำการตรวจประเมินสภาพปัญหาของผิวบริเวณใต้ตา และเลือกการใช้ Restylane Vital or Vital Light อย่างเหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาร่องตื้นๆ บริเวณใต้ตาได้อย่างพอดี ด้วยเทคนิคการฉีดที่ใช้เข็มปลายทู่ขนาดที่เหมาะสม ทำให้ขั้นตอนการฉีดไม่ยุ่งยากซับซ้อน และ เข้าสู่จุดที่เป็นปัญหาบริเวณใต้ตาอย่างแท้จริง โดยไม่เกิดผลข้างเคียงต่อเส้นเลือดหรือเส้นประสาทบริเวณดังกล่าว ราคาโปรโมชั่นการฉีด Restylane Vital Light บริเวณใต้ตา เริ่มต้นที่ 16,500 บาท / CC
Belotero Revive ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล พร้อมวิธีดูว่าแพ้หรือเป็นแค่ผลข้างเคียง
ความสวยงามเป็นเรื่องที่รอกันไม่ได้ ใครหลาย ๆ คน จึงยกให้เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งของชีวิต ในปัจจุบันเลยเห็นว่าสถาบันความงาม หรือคลินิกต่าง ๆ ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น และหนึ่งในหัตถการที่เป็นที่นิยมมากสุดที่เห็นผลอย่างรวดเร็วและไม่ต้องพักฟื้นในตอนนี้ ก็คงหนีไม่พ้นฟิลเลอร์ ซึ่งทาง Infiniz ได้มีการนำเข้าฟิลเลอร์หลายชนิด โดยในวันนี้จะพาไปทำความรู้จักฟิลเลอร์ Belotero Reviveกันก่อนว่ามีลักษณะอย่างไร ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง พร้อมวิธีแยกระหว่างอาการแพ้กับผลข้างเคียง และใครที่เหมาะกับการฉีด รวมไปถึงควรฉีด Belotero ที่ไหนดี Belotero Revive คืออะไร ฉีดบริเวณไหน ต้องบอกในภาพรวมก่อนว่า Belotero Revive คือ ฟิลเลอร์งานผิวตัวแรกของโลก ที่ผ่าน อย.ยุโรป อเมริกา และไทย มีกระบวนการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ คือ Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเนียน เข้ากับผิวหน้าได้ดี ถูกออกแบบมาสำหรับการฉีดเข้าไปสู่ชั้นผิวระดับตื้นเพื่อปรับสภาพผิว โดยมีความพิเศษเป็นส่วนผสมหลักอย่าง Hyaluronic Acid ถึง 20 mg/mL และ Glycerol เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว 1,000 เท่า ตั้งแต่โครงสร้างผิวชั้นในสู่ผิวชั้นนอก โปรแกรม Belotero Revive ที่ทาง Infiniz Clinic มีความพิเศษแตกต่างโดยจะใช้เทคนิคพิเศษในการฉีดให้ได้รับความชุ่มชื้นต่อผิวชั้นตื้น และชั้นหนังแท้ ให้ผิวดูสวยฉ่ำโกลว์ ผิวอวบอิ่ม โดยเป็นงานฉีดฟิลเลอร์ที่เน้นงานผิวโดยเฉพาะ Belotero Revive จึงได้รับสมญานามว่าตัวช่วยยืนหนึ่งเรื่อง “ผิวกระจก” Belotero Revive ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ถ้าถามว่า Belotero ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล โดยปกติแล้วการเลือกฉีดฟิลเลอร์ตัวดังกล่าว จะสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก ผิวจะดูอิ่มฟู ดูกระชับ ผิวชุ่มชื้น ผิวใส และภายใน 2 สัปดาห์ ผิวจะเพิ่มความเต่งตึงยิ่งขึ้นไปอีก และฉีด 1 ครั้ง มีผลรักษายาวนานถึง 9 เดือน แต่แนะนำให้ทำต่อเนื่อง 3-4 ครั้ง เพื่อยืดเวลาผลลัพธ์ให้ยาวนานมากที่สุด จะรู้ได้ยังไงว่าแพ้ Belotero Revive หรือเป็นแค่ผลข้างเคียง จะรู้ได้ยังไงว่าแพ้ Belotero Revive หรือเป็นแค่ผลข้างเคียง สามารถแยกประเภทได้ดังนี้ ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดได้ปกติหลังฉีด BELOTERO REVIVE อาการแพ้ฟิลเลอร์ Belortero Revive อาการข้างเคียงที่รุนแรงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive หากมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้พบแพทย์โดยเร็วที่สุด แพทย์ที่มีประสบการณ์จะมีวิธีการป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปอุดตันหรือกดเบียดเส้นเลือด จนเกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าว เป็นอย่างดี โดยต้องมีความรู้ ความเข้าใจกายวิภาคศาสตร์ ของเนื้อเยื่อ และ บริเวณที่ทำการฉีดเป็นอย่างดี ตลอดจน ตรวจสภาพผิวก่อนฉีดเสมอ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว ใครคือคนที่ควรฉีด Belotero Revive ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ฉีด Belotero Revive ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผลเทคนิคพิเศษต้องที่ Infiniz การฉีด Belotero Revive ที่ Infiniz Clinic โดยเบื้องต้นในทุกเคส แพทย์จะทำการประเมินผิว ก่อนทำการฉีดเสมอ เพื่อกำหนดจุดฉีด ร่วมปริมาณของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับผู้รับบริการรายนั้น ซึ่งเทคนิคการฉีด Belotero Revive โดยคุณหมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ ใช้เทคนิคพิเศษ เพื่อเข้าสู่ชั้นผิวที่เหมาะสม ไม่เกิดก้อนหรือลำฟิลเลอร์ผิดปกติในชั้นผิว และมีการกระตุ้นให้ผิวตอบสนองต่อ Belotero Revive ได้ดีที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ของลูกค้าทุกคนออกมาอย่างพึงพอใจสูงสุด อีกสิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญมาตลอดก็ คือ เรื่องความซื่อสัตย์ต่อผู้รับบริการ โดยผู้รับบริการที่เข้ามาฉีดฟิลเลอร์ที่ Infiniz Clinic สามารถมั่นใจได้เลยว่า ทางคลินิกใช้ฟิลเลอร์ของแท้นำเข้าอย่างถูกต้องเท่านั้น จึงมีความปลอดภัย 100%
ฉีดฟิลเลอร์ที่ Infiniz Clinic มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ ปลอดภัย 100%
สิ่งสำคัญอันดับแรกในการรับบริการฉีด ฟิลเลอร์ในคลินิกและสถานพยาบาล คือ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ว่าเป็นของแท้หรือไม่ โดยผู้รับบริการมั่นใจได้ว่าที่ Infiniz clinic ให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองและเป็นของแท้เท่านั้น โดยทางเรายึดมั่นในงานบริการด้วยการมอบความจริงใจและซื่อสัตย์ต่อผู้รับบริการในทุกขั้นตอนการทำหัตถการจึงเกิดเคสบอกกล่าวชักชวนมาใช้บริการกับคุณหมออู๋ และทีมแพทย์ Infiniz clinic อย่างต่อเนื่อง ด้วยความมั่นใจในคุณภาพบริการและผลการรักษาที่ได้รับการยอมรับจากผู้รับบริการทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ผู้รับบริการสามารถขอตรวจเช็กผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ก่อนรับบริการได้ทันที โดยเจ้าหน้าที่ยินดีให้ข้อมูลและวิธีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อความมั่นใจของผู้รับบริการทุกท่าน ฟิลเลอร์ที่ Infiniz Clinic เลือกใช้มีอะไรบ้าง ฟิลเลอร์ที่ทางคลินิก Infiniz ใช้ในตอนนี้มีทั้งหมด 3 ยี่ห้อ ยี่ห้อ Juvederm ฟิลเลอร์ Juvederm (จูวีเดิม) เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (THFDA) สหรัฐอเมริกา (USFDA) และ EDQM ผลิตโดยบริษัท Allergan บริษัทเดียวกับ Botox Allergan และถูกนำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท Allergan Aesthetics Thailand มีด้วยกันทั้งหมด 7 รุ่น ยี่ห้อ Restylane ฟิลเลอร์ Restylane ผลิตในประเทศสวีเดน ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตของฟิลเลอร์ Restylane ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของฟิลเลอร์ Restylane มีอยู่ 2 เทคโนโลยีที่โดดเด่นในผลิตขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ ซึ่งทำให้คุณสมบัติของฟิลเลอร์สามารถเลือกใช้ได้หลากหลาย เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาผิวหน้าของคนไข้ในแต่ละจุด อย่าง NASHA techology และ OBT technology มีด้วยกันทั้งหมด 6 รุ่น ยี่ห้อ Belotero มีด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่น 3 วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ ที่ใช้ได้กับทุกยี่ห้อ ผู้รับบริการสามารถตรวจสอบเลข LOT โดยต้องตรงกันทั้งหมด คือ เลข Lot. ที่กล่อง เลข Lot. ที่หลอด เลข Lot. ที่สติกเกอร์ และเลข Lot. ที่ซองบรรจุฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ปลอมอันตรายแค่ไหน หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่ร่างกายในช่วงแรกๆ อาจยังไม่มีการแสดงอาการใดๆ ออกมา แต่เมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์ปลอมอาจเริ่มจับตัวกันเป็นก้อน หรือ เกิดรูปทรงผิดปกติ ไหลย้อย ฟิลเลอร์บวมจนเกิดการอักเสบ ผิวหนังแดงร้อน เป็นช่วงๆ หรือเป็นตลอด โดยอาการคงอยู่ไม่หายไป หากปล่อยให้ฟิลเลอร์ปลอมอยู่ในผิวหนังต่อไปอาจจะเกิดอันตรายเพิ่มขึ้นดังนี้ ฉีดฟิลเลอร์ที่ Infiniz Clinic มั่นใจของแท้เท่านั้น ปลอดภัย 100% การฉีดฟิลเลอร์ที่ อินฟินิซ คลินิก ผู้รับบริการมั่นใจได้ถึงมาตรฐานงานบริการที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นอันดับแรก ทางคลินิกใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น ปลอดภัย 100% สามารถตรวจสอบเลข Lot ที่กล่องบรรจุผลิตภัณฑ์ก่อนแกะออก และเลข Lot สติ๊กเกอร์ที่หลอด (Syringe) หรือซองบรรจุฟิลเลอร์ โดยทั้งหมดต้องตรงกัน หรือบางยี่ห้อ เช่น Restylane สามารถ scan QR code เพื่อตรวจสอบโดยคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกได้ตลอดการรับบริการ สิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญก็คือเรื่องของความซื่อสัตย์ต่อผู้รับบริการโดยก่อนทำการรักษาด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ทุกบริเวณ แพทย์จะ โชว์กล่องผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ แสดงยี่ห้อ วันหมดอายุ เลข Lot และฉีกซองบรรจุผลิตภัณฑ์ต่อหน้าผู้รับบริการก่อนทำการรักษา เพื่อให้ผู้รับบริการมั่นใจได้ถึงความถูกต้องของยี่ห้อผลิตภัณฑ์และเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานและนำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง 100% ดังนั้นหากสนใจฉีดฟิลเลอร์ที่ Infiniz Clinic สามารถเข้ามารับคำปรึกษา จากแพทย์เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องผลิตภัณฑ์ว่าเป็นของแท้ และ มีการเลือกใช้ชนิดหรือยี่ห้อ ที่เหมาะสมกับปัญหาของผู้รับบริการ เฉพาะบุคคลนั้นๆ อย่างแท้จริง
Sculptra สารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูผิวเสียให้กลายเป็นผิวสวย
Sculptra คือสารกระตุ้นคอลลาเจนให้กับผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ ปรับโครงสร้างผิวหน้าจากภายใน และเพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิวหน้า เห็นผลลัพธ์หลังฉีดใน 3-4 สัปดาห์
มือใหม่ต้องรู้ ฉีดฟิลเลอร์คางอย่างปลอดภัย ต้องดูที่อะไรบ้าง
มือใหม่ต้องรู้! อยากฉีดฟิลเลอร์คางอย่างปลอดภัย ต้องดูที่อะไรบ้าง ขึ้นชื่อว่าความสวยความงาม เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็อยากสัมผัสอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทำหัตถการส่วนไหน ถ้าทำแล้วเสริมสร้างความมั่นใจก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และสำหรับมือใหม่ที่สนใจและอยากจะลองฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อควรรู้ที่จำเป็นหากจะทำให้ปลอดภัย อาการข้างเคียงของการฉีด พร้อมวิธีดูแลตัวเอง ที่อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านกันเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเสริมความงาม ข้อควรรู้ และพิจารณาก่อนฉีดฟิลเลอร์คางอย่างไรให้ปลอดภัย ข้อควรรู้และพิจารณาก่อนฉีดฟิลเลอร์คางอย่างปลอดภัย สามารถทำตามได้ดังนี้ เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์คางโดยคุณหมออู๋ เป็นการเติมฟิลเลอร์แบบกึ่งศัลยกรรม อาศัยเข็มพิเศษนำฟิลเลอร์ผ่านช่องว่างสู่ชั้นผิวที่ปลอดภัย โดยไม่ต้องเปิดแผล อาการบอบช้ำน้อยมาก ไม่กระทบกระเทือนต่อเส้นเลือดหรือเส้นประสาทบริเวณคาง รวมทั้งคุณหมออู๋จะทำการประเมินสภาพปัญหาและลักษณะของผิวหนังเพื่อเลือกชนิดของ Filler ที่มีความยืดหยุ่น หรือความแข็งพอดีกับโครงสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อของผู้รับบริการแต่ละคน ด้วยเทคนิคนี้ผลที่ได้จึงเทียบเคียงการศัลยกรรมเสริมคางด้วยวัสดุ (Implant) แต่ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องกังวลเรื่องแผลผ่าตัด จึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากต่อผู้รับบริการที่คลินิก อาการข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์คางมีอะไรบ้าง อาการข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์โดยทั่วไปที่พบได้บ่อย ๆ แบ่งได้ดังนี้ อาการข้างเคียงหลังจากฉีดฟิลเลอร์คางแบบไหนที่เรียกว่าอันตราย โดยปกติแล้วอาการข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ จะมีเพียงแค่รอยช้ำเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่หากมีอาการเหล่านี้ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย ต้องรีบกลับไปพบแพทย์โดยด่วน วิธีดูแลตัวเองหลังจากมีอาการข้างเคียง วิธีดูแลตัวเองหลังจากมีอาการข้างเคียง สามารถทำได้ดังนี้ แนะนำฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ Infiniz Clinic การฉีดฟิลเลอร์คางที่ อินฟินิซ คลินิก โดยเบื้องต้น แพทย์จะทำการประเมินรูปหน้าทั้งหมดและ บริเวณคางก่อนทำการฉีดเสมอ เพื่อกำหนดจุดฉีดและการขึ้นทรงที่เหมาะสม ร่วมกับการเลือดชนิดหรือยี่ห้อและปริมาณของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับผู้รับบริการรายนั้น เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์บริเวณคาง โดยคุณหมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ ใช้เทคนิคแบบศัลยกรรม คือการใช้เข็มพิเศษวางฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ลึกหรือตื้น อย่างเหมาะสมและปั้นทรงให้สวยงามในรูปแบบ 3 มิติ เพื่อรับกับรูปทรงของกระดูกและเนื้อเยื่อคาง เดิมของผู้รับบริการนั่นเอง ราคาโปรโมชั่นคาง เริ่มต้นที่ 15,900/CC แบรนด์ Juvederm
Belotero Revive Filler งานผิวตัวใหม่จาก Swiss ผิวกระจกต้องมา
Belotero Revive Filler งานผิวตัวใหม่จาก Swiss เพื่อหน้าฉ่ำวาว งานผิวกระจกต้องมา Belotero Revive Filler ชื่อนี้อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยสำหรับวงการงานผิวมากเท่าไหร่ แต่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์งานผิว ที่ได้รับขนานนามว่าเมื่อฉีดไปแล้ว จะทำให้ผิวใสเหมือนกระจก ซึ่งทาง Infiniz จะมาอธิบายเกี่ยวกับ Belotero Revive Filler ให้ได้อ่านกันว่าฟิลเลอร์ตัวนี้คืออะไร และที่เค้าบอกต่อกันว่าผิวใสดุจกระจก Glass Skin นั้นจริงหรือเปล่า คำตอบที่ทุกคนสงสัยจะถูกคลายได้ด้วยบทความวันนี้ครับ Belotero Revive Filler คืออะไร BELOTERO REVIVE The World 1stSkin Quality HA filler ฟิลเลอร์งานคุณภาพผิว ตัวแรกของโลก เป็นฟิลเลอร์ งานผิวตัวแรกที่มอบประสิทธิภาพอันส่งพลังของสารประกอบหลัก 2 ตัว คือ Cross-linked Hyaluronic Acid และ Glycerol (2 in 1 Power) โดยมีส่วนประกอบหลักคือ Hyaluronic acid ขนิดพิเศษที่มีความอ่อนนิ่มและกลืนตัวสูงตามแบบฉบับของฟิลเลอร์สวิส อีกทั้งด้วยนวัตกรรมการผลิตซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ BELOTERO คือ CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี ในขนาดโมเลกุลที่บางเบาที่สุด แต่ในขนาดความเข้มข้น 20 mg/mL และ Glycerol ขนาด 17.5 mg/mL ถือว่าเป็นความเข้มข้นสูงสุดในตลาด Filler งานผิวในปัจจุบัน มอบผลลัพธ์ความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติทันทีที่ฉีด มีความปลอดภัยสูง ผ่านองค์การอาหารและยาของ 50 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง USA, EU และ ไทย Belotero Revive Filler ช่วยอะไรบ้าง ทำให้ฉ่ำวาวแบบ Glass Skin ได้จริงไหม Belotero Revive Filler ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง และสามารถทำให้ผิวมีความฉ่ำวาวแบบ Glass Skin ได้จริงไหม เราจะพาคุณเจาะลึกเกี่ยวกับ คุณสมบัติเด่นของ Belotero Revive ทั้ง 3 ประการได้แก่ ทั้งสองส่วนประกอบหลักอย่างที่ได้บอกไปในตอนต้น คือ Cross-linked Hyaluronic Acid และ Glycerol (2 in 1 Power) จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่มีปัญหาจากการถูกทำลายโดยแสงแดดและมลภาวะต่างๆ หรือผิวที่เกิดจากภาวะคอลลาเจนลดลงจากอายุที่มากขึ้น โดยเหมาะกับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวขาดความยืดหยุ่นหรือขาดความกระชับ รวมถึงมีปัญหาริ้วรอยหรือร่องชนิดตื้นบนใบหน้าด้วยคุณสมบัติเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าเต็มขั้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ 4 มิติ อิ่มฟู – เนียน – เด้ง – ชุ่มชื้นฉ่ำวาว โดยจากประสบการณ์หลังฉีด จะมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหลังฉีดประมาณ 1 สัปดาห์ โดยผิวจะมีความแวววาว ดูละเอียด เรียบเนียนมากขึ้น ชัดเจนหลังจากที่ตัว Hyaluronic acid และ Glycerol กลืนตัวกับชั้นผิวได้ 100% และ เข้าทำการเปลี่ยนโครงสร้างผิวได้อย่างดีที่สุดหลังฉีด 2 สัปดาห์ แต่ผลการรักษาคงอยู่ได้อย่างยาวนานถึง 9 เดือน Belotero Revive ต่างจาก ฟิลเลอร์รุ่นอื่นอย่างไร Belotero Revive ต่างจาก ฟิลเลอร์รุ่นอื่น ตรงที่จุดเด่นของฟิลเลอร์ Belotero Revive มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) และ กลีเซอรอล (Glycerol) ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวด้วยเทคโนโลยีพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะของ Merz Aesthetics Belotero Revive ที่มีทั้ง 2 ส่วนผสม เมื่อนำ Belotero Revive มาใช้ก็จะทำให้มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นจากชั้นผิวหนังด้านใน (Dermis) ถึงชั้นผิวหนังชั้นนอกสุด (Kertatinized layer of skin) จึงมีความสมบูรณ์ในเรื่องการเพิ่ม Hydration ตั้งแต่ผิวชั้นใน จนถึงผิวชั้นนอกสุด โดยสามารถล็อกความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิวหนังแท้ และผิวที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นจากการอิ่มน้ำ จะทำให้มีความเรียบเนียน ฉ่ำวาว หรือที่หลายคนเรียกว่า “Glass Skin” หรือผิวกระจก นั่นเอง Belotero Revive Filler ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร Belotero จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่น แต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นและจุดที่เหมาะสมแก่การฉีดที่ไม่เหมือนกัน สำหรับรุ่น Belotero Revive กับรุ่นอื่น ๆ จะมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้ Belotero Revive รุ่นกล่องสีเขียว ฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกที่เพิ่มส่วนผสมของ HA+Glycerol (Duo Action) นิยมใช้การฉีดเพื่อเพิ่มคุณภาพผิวให้เรียบเนียน แข็งแรง และเน้นการบำรุงผิวให้กระจ่างใส อิ่มน้ำ เพื่อฟื้นฟูปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ ที่เกิดจากผิวขาดน้ำ นับเป็น 1st HA Filler for Skin Quality improvement Belotero Soft รุ่นกล่องสีเหลือง มีคุณสมบัติเรียบเนียนกลืนไปกับผิว มีขนาดโมเลกุลที่บางเบามาก จึงนิยมใช้สำหรับการรักษาริ้วรอยตื้นๆ และลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา หรือรอบดวงตา ฉีดรักษาริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้าเพื่อให้ผิวเรียบเนียน เพิ่มความกระจ่างใส รวมทั้งรักษาหลุมสิวตื้น ๆ ให้เต็มขึ้นได้อีกด้วย Belotero Balance รุ่นกล่องสีส้ม มีคุณสมบัติในการเติมเต็มริ้วรอยได้ดี นิยมนำมาใช้เป็นฟิลเลอร์ใต้ตา และด้วยขนาดโมเลกุล HA ที่ไม่แข็งเกินไปและไม่นิ่มเกินไป ทำให้นิยมใช้สำหรับการแก้ไข ร่องใต้ตา เพื่อเพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน และไม่เกิดก้อนหลังฉีด แก้ไขร่องแก้มลึก และยังสามารถใช้เป็นฟิลเลอร์ปาก รักษาริ้วรอยบริเวณริมฝีปากและรอบปากให้เรียบเนียนมากขึ้น อีกทั้งยังใช้เติมเต็มร่องลึกบริเวณหน้าผากได้อีกด้วย Belotero Intense รุ่นกล่องสีชมพู มีคุณสมบัติในเรื่องความขึ้นทรงและยืดหยุ่นทนต่อแรงกดสูงมาก นิยมนำมาใช้ในบริเวณที่้ต้องการ Projection (ขึ้นทรง) พร้อมกับการเพิ่ม Volume (ปริมาตร) ไปพร้อมกัน ตัวเจลมีความแข็งแรงสูงสุด อยู่ได้อย่างยาวนาน นิยมนำมาใช้ เติมเต็มบริเวณ ขมับ ปรับทรงแก้ม พร้อมเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม รวมถึงนำมาใช้ในการกระชับใบหน้าตามจุดยึดเกาะของกล้ามเนื้อเพื่อช่วยยกกระชับรูปหน้า และการแก้ไขริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์และปรับรูปหน้าอย่างละมุน Belotero Volume รุ่นกล่องสีม่วง เจลมีขนาดโมเลกุลใหญ่ มีความทรงตัวสูง แต่ไม่ขึ้นรูป จึงนิยมใช้ในการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการการคงที่นอกจากฟิลเลอร์คาง แล้ว ยังมีขมับ ร่องแก้มลึก แก้มตอบ หน้าแก้มลึก เพื่อปรับสมดุลและสร้างมิติให้ใบหน้า Belotero Revive Filler อยู่ได้นานเท่าไหร่ และต้องฉีดบ่อยแค่ไหน จากผลการศึกษาของ BELOVE study1 พบว่า BELOTERO REVIVE แสดงผลลัพธ์ที่ดีชัดเจน และมีโปรไฟล์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม ดังนี้ Belotero Revive มีความสามารถคืนความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนานได้ยาวนานมากถึง 9 เดือนในการรักษาเพียงแค่ 1 ครั้ง เท่านั้น ด้วยความเข้มข้นของตัวยาที่มี HA concentration สูงร่วมกับ Glycerol อย่างพอเพียง อย่างไรก็ตามผลการรักษาจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองและสภาพปัญหาผิวพรรณของผู้รับบริการ แต่ละท่าน โดยสามารถทำซ้ำได้ที่ 4 เดือน หลังการฉีดครั้งแรกในรายที่มีปัญหาค่อนข้างมาก เพื่อผลการรักษาที่ชัดเจนมากขึ้น ในรายปกติ อาจจะทำซ้ำที่ 9-12 เพื่อคงผลการรักษาไว้ต่อเนื่อง แนะนำ Belotero Revive Filler ที่ Infiniz Clinic ที่ Infiniz clinic ก่อนทำการฉีดมีการประเมินสภาพปัญหาผิวพรรณ รวมถึงความหนาของชั้นผิวก่อนเริ่มทำหัตถการ 3D Skinboosters by Belotero Revive เพื่อกำหนดชั้นผิวที่ต้องการฉีดเข้าซ่อมแซมได้อย่างตรงจุด ด้วยเทคนิค Mid-Dermis Injection ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในการฉีด Belotero Revive เพื่อที่ตัว HA จะเข้าสู่ชั้น Deep Dermis ได้ดี ส่วนตัว Glycerol จะลอยมาอยู่ในชั้นของ Keratin เปรียบเสมือนเกราะปกป้องความชุ่มชื้นอีกชั้นหนึ่ง โดยทั้งนี้ ต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ค่อนข้างสูง จึงจะกำหนดความลึกของเข็มได้อย่างแม่นยำในแต่ละจุด เพื่อผลการรักษาที่ชัดเจนกว่า ราคาโปรโมชั่น Belotero Revive เริ่มต้นที่ 20,000 ต่อ CC ติดต่อสอบถามได้ที่ @infinizclinic Reference
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มด้วยโปรแกรม Magic Lift โดยทีมแพทย์ Infiniz clinic
การฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม เพื่อให้ได้ผลที่พึงพอใจแบบปลอดภัยแล้ว จำเป็นจะต้องอาศัยฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองและปลอดภัย 100% รวมทั้งการฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญการและประสบการณ์สูง ซึ่งหลังจากฉีดแล้วก็จำเป็นต้องอาศัยการดูแลตัวเองอย่างดีเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความสวยงามไม่ผิดรูป รวมถึงเพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ยาวนานที่สุด โปรแกรม Magic Lift การฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขร่องแก้มลึก และกระชับทรงแก้มนั้น เป็นโปรแกรมยอดนิยมลำดับต้น ๆ ในกลุ่ม Infiniz Filler (โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์โดยทีมแพทย์ Infiniz clinic) นอกจากคุณหมอจะพิถีพิถันเรื่องความปลอดภัยขณะฉีดแล้ว ยังมักจะแนะนำข้อมูลปฏิบัติตัวแก่ผู้รับบริการหลังฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มด้วย ผลข้างเคียงพร้อมวิธีการดูแลหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ผลข้างเคียงพร้อมวิธีการดูแลหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หลังการฉีดอาจจะมีอาการระบมจากรอยเข็ม และปื้นแดงจากการทำความสะอาดหรือขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ แต่ไม่เจ็บมากและจะค่อย ๆ ลดลงหลังฉีด 5-10 นาที รอยแดงอาจจะคงอยู่ได้ประมาณ 2-3 วันหลังฉีด และค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ผิวอาจจะแห้งและลอกได้ในกลุ่มผู้รับบริการที่ผิวแพ้ง่าย (sensitive skin) ซึ่งในเคสแบบนี้แนะนำทา moisturizer และเลี่ยงครีมหรือเครื่องสำอางที่ทำให้เกิดการระคายเคือง หากมีอาการปวดมาก สามารถทานยาแก้ปวด paracetamol ได้ในช่วง 1-2 วันแรก แต่หากอาการปวดมากยังคงอยู่ อยู่แนะนำนัดพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามอาการเบื้องต้น หากมีอาการบวมระบมบริเวณที่ฉีด สามารถใช้ cold pack ที่ไม่เย็นจัดจนเกินไป ประคบเบา ๆ แบบไม่กด เพื่อช่วยบรรเทาอาการระบมจากเข็มได้ในช่วง 1-2 วันแรก หากทำวิธีดังกล่าวแล้วยังมีอาการอยู่มากแนะนำให้นัดพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามอาการ งดการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ งดการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากอาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนไปยังบริเวณรอยเข็มและเกิดการติดเชื้อได้ และ การสัมผัสที่แรงเกินไปทำให้ ฟิลเลอร์ที่วางไว้ เสียทรงจากที่ทำหัตถการไว้เรียบร้อยแล้ว งดออกกำลังกายหนัก งดออกกำลังกายหนักในช่วง 2-3 วันแรกโดยเฉพาะท่ามกลางความร้อน เพราะอาจจะยิ่งกระตุ้นให้อาการบวม ระบม เป็นมากขึ้นได้ เลี่ยงการโดนแสงแดดและความร้อน หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและความร้อน เนื่องจากฟิลเลอร์จะสลายได้เร็วขึ้นเมื่อโดนความร้อนและแสงแดด จึงแนะนำการโดนความร้อนและตากแดด โดยไม่จำเป็น เพื่อคงสภาพฟิลเลอร์ไว้ให้นานที่สุด งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ จากงานวิจัยพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่จะเกิดการกระตุ้นให้ระบบร่างกายมีทำลาย ฟิลเลอร์ในชั้นผิวเร็วขึ้นกว่าปกติ ทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังฉีดอย่างต่อเนื่อง ทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังฉีดอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่แพทย์มีสั่งยาหลังจากทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์นั้น แนะนำให้ทานยาเคร่งครัด ตามที่ระบุไว้ เพื่อช่วยลดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีด หรือ เพื่อป้องกันการติดเชื้อบางอย่างที่จำเป็น เช่น ในรายที่เคยเป็นเริมบริเวณริมฝีปากมาก่อน แพทย์มักสั่งยาป้องกันการติดเชื้อไวรัสเริม ในกรณีที่มีการฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปากเป็นต้น นอนยกหัวให้สูงกว่าระดับหน้าอก ควรนอนยกหัวให้สูงกว่าระดับหน้าอก ในรายที่มีการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่วมกับบริเวณอื่นและมีปริมาณหลาย CC อาจจะมีอาการระบมใต้ชั้นผิวมากกว่าปกติ ในช่วง 2-3 วันแรกจึงแนะนำนอนหัวสูงเพื่อลดอาการระบมใต้ผิวและให้อาการดังกล่าวหายเร็วขึ้น ดื่มน้ำมาก ๆ แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ เนื่องจาก Hyaluronic acid เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ เป็นการช่วยให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อิ่มฟูได้ดีขึ้น และคงอยู่ได้อย่างยาวนาน ในบางครั้ง บริเวณที่ฉีดอาจจะดูแฟบลงเมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง แต่การดื่มน้ำกลับทำให้ผิวบริเวณนั้นอิ่มฟูกลับมาเป็นปกติก็เป็นได้ งดการทำหัตถการ เลเซอร์ งดการทำหัตถการ เลเซอร์ รวมถึงเครื่องยกกระชับทุกประเภท นวดหน้า ผลักวิตามินเบื้องต้นประมาณ 2 สัปดาห์ หลังทำหัตถการควรหลีกเลี่ยงการเข้า Stream Sauna Hot Yoga ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อลดอาการระบม อักเสบ เพื่อให้ ฟิลเลอร์เซ็ทตัวได้อย่างดีเยี่ยม และ ป้องกันการสลายตัวก่อนเวลาอันควร รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หากมีอาการแพ้หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม (ติดตามอาการหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างใกล้ชิดจากคุณหมออู๋ ที่ Infiniz Clinic) Infiniz clinic มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลระหว่างทำหัตถการโดยแพทย์ และ หลังฉีดตลอดจนติดตามอาการดูแลอย่างใกล้ชิดอย่างมืออาชีพ ดังนีั้น หากมีอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์ใด ๆ เช่น บวม เจ็บ ช้ำ มากผิดปกติ หรือ ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีสีแดงหรือม่วงคล้ำผิดปกติ แนะนำให้สอบถามอาการหรีอติดต่อ คลินิกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางคลินิก มีทีมงานคอยให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดเวลาค่ะ
สร้างโหงวเฮ้งให้ปังรับโชค ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนด้วยการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
การทำหัตถการในบางกรณี ไม่ใช่ทำเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังทำไปเพื่อการเสริมดวง ปรับโหงวเฮ้ง แก้ไขโชคชะตาให้เกิดความสมดุลของชีวิตมากขึ้นตามความเชื่อของแต่ละบุคคล หัตถการอย่างหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ ก็คือฟิลเลอร์ขมับ ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการทำฟิลเลอร์บริเวณขมับ ต้องทำอย่างไรถึงจะมีโหงวเฮ้งที่ดี ทำวิธีไหนได้บ้าง ข้อดีของการทำฟิลเลอร์บริเวณดังกล่าวดียังไง และฟิลเลอร์อยู่ได้นานเท่าไหร่ โหงวเฮ้งขมับที่ดี ควรมีลักษณะอย่างไร บริเวณขมับในอุดมคติที่ดี ควรมีลักษณะเติมเต็มเรียบเนียนพอดีกับบริเวณหน้าผากและโหนกแก้มในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยสัดส่วนความนูนของบริเวณขมับนั้นมีสัดส่วนที่ต้องคำนวณออกมาอย่างสมดุล ให้สอดคล้องกับขนาดของหน้าผาก รอบดวงตา จมูก และ โหนกแก้ม ทั้งหมดอย่างพอดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของรูปทรงขมับที่ออกมาสวยงามตามอุดมคติที่รับกับรูปหน้าของผู้รับบริการแต่ละบุคคล ลักษณะโหงวเฮ้งของขมับที่ดี มักจะดูควบคู่กับบริเวณหน้าผาก โดยแบ่งลักษณะได้ดังต่อไปนี้ ปรับโหงวเฮ้งขมับสามารถทำวิธีไหนได้บ้าง วิธีที่นิยมคือการเติมเต็มบริเวณขมับตอบให้ดูเต็มขึ้น เรียบเนียน และ รับกับสัดส่วนบริเวณหน้าผาก และ โหนกแก้ม นั่นเอง ข้อดีปรับโหนกแก้มให้เล็กลงด้วยการฉีดฟิลเลอร์ขมับ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับนอกจากจะทำให้ขมับมีความเติมเต็มแล้ว การฉีดด้วยตัวฟิลเลอร์ที่มีความสามารถในการยกกระชับด้วยปริมาณ ฟิลเลอร์จำนวนน้อย ย่อมทำให้ กล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้มที่หย่อนคล้อย ถูกยกกระชับเข้าทรงมากขึ้น ทำให้โหนกแก้มดูเล็กลงไปโดยปริยาย ถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมสำหรับสาวโหนกแก้มใหญ่ ที่รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่เห็นผล อย่างไรก็ตามการหวังผลเรื่องการปรับโหนกแก้มให้เล็กลง ด้วยการฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ ต้องอาศัยแพทย์ที่มีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างสรีรศาสตร์ของโหนกแก้มและขมับเป็นอย่างดี รวมทั้ง เข้าใจประสิทธิภาพของตัว ฟิลเลอร์แต่ละชนิดอย่างดีว่าหลังเติมเต็มบริเวณขมับไปแล้วสามารถปรับได้มากน้อยแค่ไหนและเหมาะสมกับผู้รับบริการหรือไม่ ฟิลเลอร์ขมับอยู่ได้นานเท่าไหร่ อินฟินิซ คลินิก โดยคุณหมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับมาอย่างยาวนานและรู้ถึงข้อดี ข้อเสีย ของฟิลเลอร์แต่ละชนิด รวมทั้งประสิทธิผลที่ได้หลังฉีดว่าเหมาะกับผู้รับบริการหรือไม่ ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้การฉีดบริเวณขมับ ได้แก่ นอกจากนี้ยังมีการใช้ตัว Collagen Biostimulator (Sculptra) มาใช้บริเวณขมับในเรื่องของการเพิ่มคอลลาเจนและยกกระชับโครงสร้างบริเวณขมับ หางตา คิ้ว อีกด้วย โดยผลการรักษาแนะนำทำ 3 cycle ใน 3-6 เดือน โดยผลคงอยู่ได้ประมาณ 2 ปี วิธีนี้ เหมาะกับผู้รับบริการที่ขมับค่อนข้างเต็ม หรือตอบไม่มาก และต้องการผลเรื่องของการยกกระชับอีกด้วย ทั้งนี้ผลการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวและการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ของผู้รับบริการแต่ละท่าน**