ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หรือหน้าผากบุ๋ม เป็นปัญหาเรื่องรูปหน้าที่นอกจากจะทำให้ใบหน้าดูไม่ได้สัดส่วนแล้วยังทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยได้ด้วย สำหรับใครที่กังวลเกี่ยวกับปัญหาหน้าผากก็สามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือฟิลเลอร์ขมับ ซึ่งนอกจากจะเห็นผลทันทีแล้วยังใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยกว่าอีกด้วย โดยในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมาฝากทุกคนกัน แต่จะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้างไปติดตามกันเลย
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร? หากคำตอบได้ที่นี่
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือหนึ่งในวิธีการแก้ไขปัญหาหน้าผากไม่ได้รูปหรือริ้วรอยบริเวณหน้าผากด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปยังบริเวณใต้เยื่อหุ้มกระดูกหน้าผาก จากนั้นไฮยาลูโรนิค แอซิดจะเข้าไปจับตัวกับน้ำในชั้นผิวหนังทำให้ฟิลเลอร์เกิดการคงรูปจึงช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนและช่วยให้ใบหน้าดูอ่อยเยาว์ได้ด้วย
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นวิธีการปรับรูปหน้าที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนหน้าผาก หน้าผากยุบ หรือหน้าผากบุ๋มได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน นอกจากนี้การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด ยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นหากฟิลเลอร์เริ่มสลายตัวก็สามารถเติมฟิลเลอร์หน้าผากเพิ่มได้เรื่อย ๆ
ชวนอ่าน! ฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายไหม สามารถฉีดสลายได้หรือไม่
ถึงแม้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทยแล้วแต่การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยังคงอันตรายหากไม่ได้ฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพราะฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่มีลักษณะคงรูป อีกทั้งบริเวณหน้าผากและขมับนั้นมีเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังดวงตาอยู่ การฉีดฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานด้วยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ก็จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ
กลับกันถ้าหากใช้ฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้ฉีดโดยแพทย์หรือแพทย์ไม่ชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากก็อาจจะทำให้หน้าผากมีลักษณะนูนเป็นก้อนหรือเป็นคลื่นได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่ฟิลเลอร์จะเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังดวงตาส่งผลให้ตาบอดได้อีกด้วย ดังนั้นก่อนการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งควรจะต้องตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ใช้ว่าเป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานหรือไม่ อีกทั้งความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมีความสวยงามและปลอดภัย
ฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไร
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถแก้ไขปัญหาดังต่อไปนี้
- ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน, ยุบ บุ๋มหรือเป็นแอ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ริ้วรอย หรือรอยแผลเป็นเล็ก ๆ บริเวณหน้าผากสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพราะฟิลเลอร์จะช่วยให้ผิวบริเวณหน้าผากดูอิ่มฟู เต่งตึง ทำให้ริ้วรอยรวมถึงรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ดูจางลงได้
- การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยให้รูปหน้าได้สัดส่วนและดูมีมิติมากขึ้น และเมื่อขมับกับหน้าผากมีความเต่งตึงก็สามารถทำให้ดูเด็กลงได้อีกด้วย
ใช้ฟิลเลอร์หน้าผากกี่ CC ถึงจะเห็นผล?
ควรฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกี่ cc และใช้ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี? คงจะเป็นคำถามยอดฮิตของใครหลายคนที่อยากฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก โดยหากต้องการปรับรูปหน้าเติมเต็มหน้าผากก็สามารถใช้เพียงฟิลเลอร์ 1 cc แต่หากใครที่ต้องการให้หน้าผากนูนมากขึ้นก็สามารถฉีดฟิลเลอร์หน้าปากในปริมาณที่เพิ่มขึ้นได้
ทั้งนี้ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมในการฉีดหน้าผากนั้นไม่ควรเกินครั้งละ 5 cc และควรจะต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมิน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาฉีดฟิลเลอร์มากเกินขนาดจนกดทับเนื้อเยื่อและบวมลงมาถึงบริเวณรอบดวงตาทำให้ต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
ปัจจุบันการแก้ไขปัญหาหน้าผากไม่ได้รูปนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนอย่าง Radiesse รวมไปถึงการฉีดฟิลเลอร์ โดยฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในการนำมาฉีดบริเวณหน้าผากได้แก่ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Resylane เพราะมีเนื้อฟิลเลอร์ที่ละเอียด ไม่เป็นก้อนแต่ก็ยังคงรูปได้เพราะเนื้อไม่อ่อนจนเกินไป ซึ่งในหัวข้อนี้เราจะมาแนะนำการฉีดหน้าผากรูปแบบต่าง ๆ กับปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมมาฝากทุกคนกัน บริเวณไหนควรจะใช้ฟิลเลอร์หน้าผากกี่ซีซีไปดูข้อมูลกันเลย
ฉีดฟิลเลอร์ทั้งหน้าผาก
กรณีที่คนไข้มีปัญหาหน้าผากแบนมาก หน้าผากยุบไปเป็นบริเวณกว้าง ต้องการให้หน้าผากโหนกนูนก็อาจจะต้องใช้ฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 3-10 CC แต่จะต้องทยอยฉีด โดยไม่ควรฉีดเกินครั้งละ 5 CC
ฉีดฟิลเลอร์บริเวณ เหนือร่องคิ้ว
สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาร่องหน้าผาก หรือบริเวณเหนือคิ้วเกิดการยุบตัว จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC เพราะไม่ได้ต้องการความโหนกนูนของหน้าผากเพียงแต่ต้องการเติมร่องหน้าผากหรือบริเวณเหนือคิ้วดูเต็มขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์บริเวณ ขมับ
โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์ขมับจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC ต่อข้างขึ้นอยู่กับความลึกของขมับ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นคลื่นเกิดจากอะไร แล้วแก้ไขได้หรือไม่?
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นคลื่นคงเป็นปัญหาหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ที่หลาย ๆ คนกังวล เพราะนอกจากจะทำให้หน้าผากดูไม่เป็นธรรมชาติแล้วก็อาจจะต้องแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์อีกด้วย ซึ่งสาเหตุที่หน้าผากเป็นก้อนหรือเป็นคลื่นหลังจากฉีดฟิลเลอร์นั้นเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกตำแหน่ง เพราะตำแหน่งการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้องนั้นควรจะต้องฉีดในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น แต่ถ้าหากฉีดฟิลเลอร์ใกล้กล้ามหรืออยู่บนชั้นไขมันก็อาจจะทำให้หน้าผากดูนูนเป็นก้อน หรือเป็นคลื่นไม่เรียบเนียน
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หน้าผากดูเป็นก้อนหรือเป็นคลื่นนั้นก็คือการฉีดฟิลเลอร์ปลอม เพราะฟิลเลอร์ปลอมคือสารเติมเต็มที่ผลิตมาจากซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน ซึ่งไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อฉีดเข้าไปบริเวณใต้ชั้นผิวหนังจึงอาจจะทำให้หน้าผากมีลักษณะเป็นก้อนนูนผิดปกติได้ นอกจากนี้การใช้ฟิลเลอร์ปลอมยังไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์แต่จำเป็นต้องใช้การผ่าตัด หรือขูดฟิลเลอร์หน้าผาก
ออกจากร่างกายซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการฉีดสลายฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับใคร เช็กคำตอบได้ที่นี่
สำหรับใครที่ยังกังวลว่าปัญหารูปหน้าของตนเองจะเหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์หรือไม่ บทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคนได้พิจารณากันก่อนตัดสินใจ ฟิลเลอร์หน้าผากจะเหมาะกับใครบ้างไปดูกันเลย
- คนที่มีหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หรือหน้าผากบุ๋ม
- คนที่มีปัญหาริ้วรอย รอยแตกหรือแผลเป็นขนาดเล็กบริเวณหน้าผาก
- คนที่ขมับยุบทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
แนะนำข้อห้ามและวิธีการดูหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ทำความรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกันไปแล้ว เรามาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับข้อห้ามและการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์กันบ้างดีกว่า เพราะการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์นั้นสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนอื่น ๆ เลย มีข้อควรระวังอะไรบ้างที่ห้ามทำหลังจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากและหลังฉีด filler ห้ามกินอะไร ไปติดตามกันเลย
วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่จะช่วยให้ฟิลเลอร์สวยเข้ารูป
การดูแลตนเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้การฉีดฟิลเลอร์ เพราะการดูแลตนเองให้ถูกต้องหลังจากฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น ลดอาการอักเสบ บวมช้ำ นอกจากนี้หากดูแลตนเองได้อย่างถูกวิธีก็จะทำให้อายุของฟิลเลอร์อยู่ได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์มีดังต่อไปนี้
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์ควรงดการ นวด เกา หรือบีบบริเวณหน้าผาก เพราะฟิลเลอร์ที่เพิ่งฉีดไปยังไม่เข้าที่ซึ่งอาจจะส่งผลให้ฟิลเลอร์ย้ายตำแหน่ง ผิดรูปหรือเสียรูปทรงได้
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 1-2 สัปดาห์ควรเลี่ยงการนอนคว่ำหน้าหรือนอนเอามือก่ายหน้าผาก เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปได้
- หากทางคลินิกจ่ายยาแก้ปวด ยาลดบวม หรือยาฆ่าเชื้อควรจะรับประทานให้หมดตามคำแนะนำของแพทย์
- เลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หลังจากฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์อักเสบได้
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 2-4 สัปดาห์ควรงดกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าถูกความร้อนโดยตรง เช่นการอบไอน้ำหรือการทำเลเซอร์ เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์สลายได้ง่ายกว่าปกติ
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
นอกจากจะมีวิธีการดูแลตัวเองแล้วหลังจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากก็ยังมีข้อห้ามที่ควรงดอีกด้วย ซึ่งข้อห้ามเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้นอีกทั้งยังอาจทำให้ฟิลเลอร์เกิดการอักเสบและบวมได้อีกด้วย
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะแอลกอฮอล์จะส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวและกระตุ้นให้เลือกสูบฉีดมากขึ้น ทำให้อาการบวม หรืออักเสบหลังฉีดฟิลเลอร์หายช้าลงได้
- เลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่าง ชาบูหรือหมูกระทะ เพราะเป็นกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าถูกความร้อนโดยตรง และอาจจะทำให้ฟิลเลอร์หน้าผากสลายไวขึ้นได้
- เลี่ยงการรับประทานอาหารรสเผ็ด เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนบนใบหน้าได้
- เลี่ยงการรับประทานอาหารดิบหรืออาหารหมักดอง เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์ติดเชื้อและอักเสบได้
- งดการสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีส่วนประกอบหลายชนิดที่ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวซึ่งจะทำให้อาการปวดหรือบวมจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากหายช้าลง
รวม 4 ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ผลข้างเคียงหลังจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คงเป็นหนึ่งสิ่งที่ใครหลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่การทำหัตถการหลาย ๆ หัตถการล้วนมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยการดูแลตนเองได้อย่างถูกวิธีผลข้างเคียงเหล่านั้นก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น นอกจากนี้หากเราเลือกใช้บริการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและฉีดกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ก็จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผลข้างเคียงหลังจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากได้อย่างแน่นอน
- หากแพทย์ขาดความชำนาญ หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วหน้าผากอาจจะมีลักษณะนูนเป็นก้อนหรือเป็นคลื่น ซึ่งเป็นอาการที่แสดงถึงการฉีดฟิลเลอร์บนที่ตื้นเกินไป ซึ่งเกิดขึ้นได้แม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์หน้าผาก
- เกิดผื่นหรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีดฟีลเลอร์ เป็นอาหารปกติที่พบได้หลังฉีดฟีลเลอร์ ซึ่งรอยผื่นหรือรอยช้ำนี้จะค่อย ๆ จางลงภายใน 2-3 วัน
- เกิดอาการบวมหลังจากฉีดฟิลเลอร์ อาการบวมนี้เป็นอาการที่พบทั่วไปและจะค่อย ๆ หายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
- หากมีอาการบวมแดง อักเสบหรือปวดบริเวณหน้าผากผิดปกติอาจจะหมายถึงอาการแพ้ฟิลเลอร์ ให้รีบกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเท่าไหร่?
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามยี่ห้อ รุ่นและปริมาณของฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วฉีดฟิลเลอร์หน้าผากราคาจะเริ่มต้นที่ 18,000 บาทต่อ 1 cc แล้วแต่รุ่นของฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม มีผลข้างเคียงหรือไม่?
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากถือเป็นหัตถการที่มีความอันตราย เพราะถึงแม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ แต่ถ้าแพทย์ไม่มีความชำนาญก็อาจจะทำให้ฉีดไปโดนเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังจอประสาทตาส่งผลให้ตาบอดได้ ดังนั้นก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์นอกจากจะต้องตรวจสอบฟิลเลอร์ว่าเป็นของแท้แล้วยังต้องศึกษาประวัติและความชำนาญของแพทย์ด้วย
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากบวมกี่วัน
หลักการฉีดฟีลเลอร์หน้าผากอาจจะมีอาการบวม รวมไปถึงมีรอยช้ำรอยเข็มได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าหากมีอาการบวมนานกว่า 3 วันหรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรจะต้องรีบแจ้งแพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากอยู่ได้นานแค่ไหน
ระยะเวลาของฟิลเลอร์หน้าผากนั้นอาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟีลเลอร์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะอยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ที่ไหนดี
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มีความอันตราย ดังนั้นเราจึงควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้สามารถตรวจสอบได้ มีใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลและมีแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
สรุป ฟิลเลอร์หน้าผากตัวช่วยให้หน้าผากสวยได้รูป
ฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นหัตถการที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากนั้นควรจะต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงที่จะตามมา ทั้งนี้ก่อนการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเราควรต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นแนวทางในการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ รวมไปถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น
อ่านมาจนถึงตรงนี้ใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่มีมาตรฐานพร้อมกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ Infiniz Clinic ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะที่ Infiniz Clinic มีบริการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากโดยทีมแพทย์ของหมออู๋ ณัฐพล ลาภเจริญกิจ อาจารย์แพทย์ผู้สอนการฉีดฟิลเลอร์ระดับแนวหน้าของประเทศผู้มีประสบการณ์นานกว่า 15 ปี ใครที่ต้องการปรึกษาปัญหารูปหน้าก็สามารถติดต่อคุณหมอหรือทีมงานได้ที่
- Facebook : Infiniz Clinic :: Skin & Facial Design Expert
- Line ID: @Infinizclinic
- โทร : 098-828-5444
References
Illuminate Skin Clinics. (2023, January 9). Is forehead filler safe? Treating forehead indentations with filler. https://illuminateskinclinic.co.uk/2023/01/09/is-forehead-filler-safe-treating-forehead-indentations-with-filler
Prasad Cosmetic Surgery. (2022, September 14). Face Fillers Gone Wrong: How to Treat it?. https://prasadcosmeticsurgery.com/face-fillers-gone-wrong-how-to-treat-it/
Cadwell, K. (2023, July 20).Forehead Fillers – Things You Need to Know. https://vibrantskinbar.com/blog/forehead-fillers/
