เช็คอาการแพ้ฟิลเลอร์ ดูได้จากอะไร พร้อมแนวทางแก้ไข
Filler ที่ใช้กันในปัจจุบัน เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มแพทย์ความงามทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid ยังคงเป็นกลุ่มฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด แม้ว่าฟิลเลอร์ตัวนี้ มีโอกาสเกิดการแพ้น้อยมาก แต่ในบางเคสก็หลีกเลี่ยงปัญหานี้ไม่ได้ ซึ่งในวันนี้หมอจะมาพูดถึงเกี่ยวกับผลข้างเคียง และอาการแพ้จากฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic acid รวมถึงแนวทางการรักษาเบื้องต้น พร้อมแนวทางแก้ไขของปัญหาดังกล่าว สำหรับบทความนี้กันครับ อาการแพ้ฟิลเลอร์มีลักษณะอย่างไร อาการแพ้ Hyaluronic acid เกิดขึ้นได้ยากมาก และจากประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ส่วนตัวยังไม่พบอาการแพ้จาก HA Filler แต่อย่างใด ส่วนมากจะเป็นแค่อาการข้างเคียงจากการฉีด เนื่องจากต้องใช้เข็ม ได้แก่ อาการบวม อาการระบม รอยช้ำ รอยแดง หรืออาการเจ็บบริเวณที่ฉีด เช่นการฉีดฟิลเลอร์คาง ก็อาจจะระบมที่คางเป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นใน 3-7 วัน แล้วแต่สภาพผิวเดิมของผู้รับบริการ โดยอาการดังกล่าวจะดีขึ้น หากได้รับการแนะนำจากทีมแพทย์ที่ถูกต้องและเหมาะสม สำหรับอาการแพ้จากตัว Hyaluronic acidacid จริงๆ สามารถสรุปได้เป็น 2 แบบคือ 1. Acute phase reaction to hyaluronic acidมักพบในผู้มีประวัติแพ้ Hyaluronic acid อยู่แล้ว หรือ ส่วนประกอบอื่นที่เติมเข้ามาในขบวนการผลิต เช่น ยาชา หรือ สารที่ช่วยให้ฟิลเลอร์เกาะตัวกัน (Cross-linkage) ดังนั้นการเลือกชนิดหรือยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่มีการใช้มาอย่างยาวนาน แพร่หลายและมีรายงานการแพ้ที่น้อยมาก ย่อมลดโอกาสการแพ้ HA Filler ได้นั่นเอง โดยอาการในแบบแรกนี้ มักมีอาการเกิดขึ้นทันทีขณะฉีด หรือหลังฉีดไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง เช่น อาการบวมแดงเป็นก้อน บริเวณที่ฉีด และบางรายอาจจะมีอาการลมพิษเฉียบพลันเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า และตามตัว รวมทั้งอาการตาบวม ปากบวม ร่วมด้วย อาการแพ้ในรูปแบบนี้พบได้น้อยกว่า 1% ในประชากรโลก 2. Delayed phase Reaction to Hyaluronic acidอาการแพ้แบบเกิดขึ้นภายหลังนี้ ส่วนมาก แยกออกเป็น 2 กรณีคือ ฟิลเลอร์อักเสบเกิดจากอะไรได้บ้าง แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ การรักษาเบื้องต้นหากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ การรักษาเบื้องต้นหากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ Hyaluronic acid เพื่อการรักษาที่มีความเฉพาะเจาะจงและทันท่วงที เพื่อลดผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นต่อผิวหนังบริเวณที่ทำการฉีด อาการแพ้ Hyaluronic acid แบบทันที มักมีอาการรุนแรง แพทย์มักจะต้องให้ยาลดอาการอักเสบทางเส้นเลือดและยารับประทาน ควบคู่กับ การฉีดยาสลาย Hyaluronic acid ทันที พร้อมทั้งสังเกตอาการเป็นระยะ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หากแพทย์ตรวจพบว่า เป็นอาการแพ้ Hyaluronic acid ที่เกิดภายหลังอาจจะต้องมีการตรวจ Test เพื่อ confirm และในระหว่างนั้น อาจจะมีการรักษาปฏิกิริยาจากการแพ้ควบคู่กันไป เช่น การฉีดสลาย Hyaluronic acid ร่วมกับยารับประทานเพื่อลดการอักเสบต่อไป สำหรับในกรณีการติดเชื้อบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ก็ต้องมีการฉีดสลาย Hyaluronic acid ควบคู่กับการให้ยาฆ่าเชื้อ โดยแพทย์จะต้องพิจารณาเป็นรายเคสไป ตามความเหมาะสม ร่วมกับการรักษาสภาพผิวหนังให้กลับคืนสภาพโดยเร็ว ไม่อยากเสี่ยงแพ้ฟิลเลอร์ต้องทำอย่างไร สำหรับผู้รับบริการที่ต้องการเข้ารับการฉีด HA Filler หมอมีข้อแนะนำให้เตรียมตัวดังนี้ครับ
ทำความรู้จักฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร ฉีดตรงไหนดี ทำไมคนนิยม
ทำความรู้จัก ฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร ดีไหม ทำไมถึงได้รับความนิยม เมื่ออายุเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดได้ การก้าวเข้าสู่ช่วงวัยหนุ่มสาวสิ่งนึงที่จะตามมาแน่นอนก็คือเรื่องของริ้วรอยกับความหย่อนคล้อย ซึ่งสำหรับบางคนก็เป็นปัญหากวนใจไม่ใช่น้อย จึงต้องหาตัวช่วยที่ประคองผิวไม่ให้ทรุดโทรมไปตามช่วงอายุ สิ่งนั้นก็คือเรื่องของฟิลเลอร์แต่ก่อนจะไปฉีดฟิลเลอร์เพื่อกระชับผิว ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ก่อนเพื่อป้องกันการโดนหลอก โดยวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ Jubederm ว่าคืออะไร มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นเหมาะสำหรับฉีดตรงไหน พร้อมวิธีเช็คว่าเป็นของแท้หรือปลอม ฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร ฟิลเลอร์ Juvederm คือ สารที่ใช้เติมเต็มใต้ผิวหนังหรือที่เรียกทั่วไปว่า ฟิลเลอร์ ผลิตจากไฮยาลูโรนิค เอซิด (HA) ใช้สำหรับฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มปริมาตร ยกกระชับ ปรับคุณภาพผิว รวมถึงการปรับรูปหน้า โดยต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ที่สำคัญสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย (Thai FDA) นอกจากนี้ Juvederm คือ พรีเมี่ยมฟิลเลอร์จากอเมริกา ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและมีการใช้อย่างแพร่หลายมาอย่างยาวนาน โดยแพทย์ผิวหนังและความงามในระดับสากล ซึ่งนำเข้าโดยบริษัท Allergan Aesthetics Thailand หรือบริษัทเดียวกับที่ผลิตสารลดเรือนริ้วรอยจากอเมริกา Juvederm แต่ละรุ่นมีอะไรบ้าง สำหรับ Juvederm แต่ละรุ่น ทาง Allergan Aesthetics ผู้นำนวัตกรรมความงามจากสหรัฐอเมริกา และมีประสบการณ์ด้านการผลิตฟิลเลอร์ยาวนานมากกว่า 36 ปี โดยใช้วิธีการผลิตที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล มีการขึ้นทะเบียนทั้ง อย. ไทยและอเมริกา วางขายไปแล้วกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ในปัจจุบันมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของโลก ประเทศไทยมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มมากถึง 7 ชนิด ซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้เหมาะกับแต่ละส่วนบนใบหน้า ตั้งแต่บริเวณขมับ ใต้ตา แก้ม ร่องแก้ม ปาก คาง/กราม รวมถึงการปรับคุณภาพผิวด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเกิดความพึงพอใจสูงสุด Juvederm filler ตัวเจลไฮยาลูโรนิค แอซิด พรีเมี่ยมฟิลเลอร์จากอเมริกา ประกอบด้วย 2 เทคโนโลยี โดยมีลักษณะของเจลที่มีความแตกต่างกัน แพทย์ผู้ฉีดที่มีประสบการณ์สูงและเห็นผลการรักษามาหลายปีสามารถใช้ข้อดีของเจลในแต่ละเทคโนโลยีมาใช้ สร้างสรรค์การเติมฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าและสร้างสมดุลของใบหน้าได้ผลที่ดีและไม่มีผลข้างเคียง Juvederm Filler แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้ Hyacross Technology VyCross Technology ฟิลเลอร์ Juvederm เหมาะกับฉีดบริเวณไหนบ้าง ฟิลเลอร์ Juvederm เหมาะกับการฉีดบริเวณที่แตกต่างกัน Juvederm Filler ผ่านการรับรองและนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องในประเทศไทยมีทั้งหมด 7 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่น มีคุณสมบัติ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการฉีด และระยะเวลาที่อยู่ในชั้นผิวหนังได้ในระยะเวลาที่แตกต่างกัน ดังนี้ Juvederm Volux Juvederm Voluma Juvederm Volift Juvederm Volbella Juvederm Volite Juvederm Ultra XC Juvederm Ultra Plus XC ฟิลเลอร์ Juvederm ดีอย่างไร และแตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไรบ้าง ฟิลเลอร์ Juvederm มีความแตกต่างในด้านเทคโนโลยีการผลิตที่เฉพาะทั้งในกลุ่มที่เพิ่ม volume (Hyacross) และกลุ่มที่มีการขึ้นทรงและยกกระชับได้สูง (Vycross) แต่ทั้งสองเทคโนโลยีมีการกลืนตัวกับผิวสูงมากมีความคงตัวในชั้นผิวหนังจริง ๆ ได้ยาวนานที่สุดในท้องตลาดโดยใน series ที่อยู่ได้ยาวนานที่สุดในงานวิจัยคือ Juvederm Voluma & Volux คือ 2 ปี การออกแบบผลิตภัณฑ์ Juvederm Filler มีหลากหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์กับการแก้ปัญหาบนใบหน้าในทุกบริเวณ โมเลกุลของฟิลเลอร์มีความคงตัวและยืดหยุ่นสูงมากทำให้ฟิลเลอร์ Juvederm มีความโดดเด่นมากในเรื่องของการยกกระชับผิวนอกเหนือจากการเติมเต็มเพียงอย่างเดียว Juvedrem ของแท้ดูอย่างไร Juvederm ของแท้ตรวจสอบได้ง่ายๆ เนื่องจากปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ Juvederm Filler มีความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในคลินิกความงาม ก่อนทำการรักษา ผู้รับบริการควรตรวจสอบ ว่าเป็น juvederm Filler แท้ โดยมีหลักการสังเกต ดังต่อไปนี้
ทำความรู้จักกับ HA Filler สารเติมเต็มที่ Infiniz Clinic เลือกใช้
มาทำความรู้จักกับ HA Filler สารเติมเต็มที่ Infiniz Clinic เลือกใช้ หนึ่งในรูปแบบของการพัฒนาตัวเอง ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความงาม เพราะคนเราเมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพหรือผิวพรรณ ที่ต้องทำให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ซึ่งในวันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ HA Filler ว่าคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร เหมาะกับใคร เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ก่อนใช้บริการ HA Filler คืออะไร HA Filler (Hyaluronic Acid Filler) เป็นฟิลเลอร์ใช้ในการเติมเต็ม และเสริมส่วนบกพร่องมายาวนาน HA Filler ผลิตจากไฮยาลูโรนิค แอสิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ด้วยกระบวนการ Minimal Stabilization ส่งผลให้ HA สามารถคงอยู่ภายใต้ผิวหนังได้ยาวนานขึ้น HA ชนิดนี้ มีคุณสมบัติในการดึงน้ำเข้ารอบตัว ทำให้สามารถเติมเต็มเนื้อเยื่อให้กับผิวหนัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกติเมื่อคุณมีอายุมากขึ้นไฮยาลูโรนิค แอสิด ธรรมชาติที่อยู่ใต้ผิวหนัง จะมีปริมาณที่ลดลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอย โครงสร้างใบหน้าแลดูหย่อนคล้อย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีตัวช่วยอย่าง HA Filler เพื่อความอ่อนเยาว์ที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น HA Filler ทำงานอย่างไร หลักการทำงานของ HA Filler เมื่อเติมเต็มด้วย HA Filler จะช่วยเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าของคุณกลับมาเต่งตึง และสามารถเติมเต็มริ้วรอย ให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติในทันที ด้วยความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก HA Filler เป็นสารที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะสามารถทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการภายใต้ความปลอดภัย สูงสุด HA Filler สามารถทำให้คุณสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้ในทันที และจะคงอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทั้งนี้ฟิลเลอร์บางชนิดสามารถอยู่ได้ถึง 2 ปี HA Filler เหมาะกับใคร ถ้าถามว่า HA Filler เหมาะกับใคร จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล แต่กลุ่มที่เหมาะในการจะมาใช้บริการ HA Filler มีดังนี้ HA Filler ฉีดตรงไหนดี สำหรับคำถามที่ว่า HA Filler ฉีดตรงไหนดี นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่สงสัย ซึ่งสามารถตอบได้ตรงนี้เลยว่า จุดฉีดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมประกอบไปด้วย ร่องแก้ม การฉีด HA Filler บริเวณร่องแก้ม เหมาะกับใบหน้าที่เริ่มมีความหย่อนคล้อย เพราะจะช่วยกักเก็บน้ำไว้ชั้นใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มบริเวณช่องว่างของชั้นเซลล์ผิว ส่งผลให้ร่องแก้มที่ดูลึกนั้นตื้นขึ้น เรียบเนียนและอ่อนเยาว์ ขมับ การฉีด HA Filler บริเวณขมับ เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องโหนกแก้มสูง ผิวหน้าแก่กว่าวัย จะช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนสวยงาม ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น จมูก การฉีด HA Filler บริเวณจมูก เหมาะสำหรับคนที่ไม่มั่นใจทรงจมูกของตัวเอง ฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยในส่วนของการปรับสันจมูกให้ได้รูป หรือมีความโด่งเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ใต้ตา การฉีด HA Filler บริเวณใต้ตา เหมาะสำหรับคนที่บริเวณร่องใต้ตาลึก มีถุงไขมันใต้ตา ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้มีความสดใสมากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนคนที่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ และยังช่วยลดรอยดำ ร่องลึก อีกด้วย ริมฝีปาก การฉีด HA Filler บริเวณริมฝีปาก เหมาะสำหรับคนที่ปากไม่ได้รูป โดยฉีดเพื่อให้ปากมีความอวบอิ่ม เติมเต็มบริเวณร่องปาก ยกมุมปากให้ได้ทรงสวย โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด บริการ HA Filler ที่ Infiniz Clinic HA Filler ที่ Infiniz Clinic เลือกใช้ HA Filler ผลิตจากประเทศสวีเดนและอเมริกาเท่านั้น โดยถูกนำมาใช้แก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ตั้งแต่ปี 1996 และปัจจุบันได้มีการใช้ HA Filler อย่างแพร่หลาย มากกว่า 28,000,000 การรักษา และมีการใช้มากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยทาง Infiniz Clinic มีการใช้ HA Filler ในการรักษาแทบทุกปัญหาของผิวตั้งแต่ร่องลึก ริ้วรอย ปรับรูปหน้า เสริมคาง จมูก แก้ไขปัญหาผิวขาดน้ำ หยาบกร้าน ขาดความยืดหยุ่น โดย 2 รุ่นที่ได้รับการยอมรับและนำเข้ามาใช้ภายในคลินิกคือ Restylane และ Juvederm เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลทันทีหลังทำหัตถการ
เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ต้องรู้จัก Skinboosters
สกินบูสเตอร์ (Skinboosters) ผลิตจากสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic acid หรือ HA) ที่ผ่านกรรมวิธีให้เกิดความคงตัวเป็นส่วนประกอบหลักในการปรับปรุงคุณภาพของผิว
ทำความเข้าใจเรื่อง Filler เติมเต็มอย่างปลอดภัย
Fillers ที่ปลอดภัยจะเป็นกลุ่มที่อยู่ได้ระยะเวลาหนึ่งนานพอควร แต่ไม่ถาวร (non permanent)
Under Eye Rejuvenation : การแก้ไขปัญหาร่องใต้ตา - Infiniz Clinic
ปัญหาร่องใต้ตา เป็นปัญหาที่เจอได้บ่อยกับทุกเพศ ทุกวัย และทุกเชื้อชาติ ปัญหาดังกล่าวได้แก่ ร่องลึก รอยหมองคล้ำใต้ตา ทำให้ดูเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ซึ่งส่วนมากได้รับการแก้ไขที่ไม่ตรงจุด หรือแก้ไขแบบผิดวิธี ทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ
ข้อแตกต่างของการทำ 3D Skinboosters กับการฉีด HA Filler แบบเดิม ๆ
โมเลกุลตัวยาที่ กลืนกับผิวได้ดี และปลอดภัยผ่านการรับรองเรียบร้อยจาก อย. เพื่อทำให้การฉีดภายใต้ “Concept of Frame and Fresh”
การฉีดสารลดเลือนริ้วรอย รูปแบบใหม่ของ Infiniz Clinic
การฉีดสารโปรตีนบริสุทธิ์ (Botulinum Toxin)ต้องอาศัย การวิเคราะห์รูปหน้า ปัญหา เฉพาะส่วนอย่างลึกซึ่ง
ข้อควรรู้ก่อนการตัดสินใจเลือกใช้เลเซอร์
สำคัญคือต้องสร้างดุลยภาพให้กับผิว เหมือนการทำ Thermage และเก็บกักความชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ
นอนมากเกินไปทำให้สมองแก่เร็วจริงเหรอ?
การนอนที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่ เฉลี่ยอยู่ที่ 6-8 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าแต่ละบุคคลก็มีความจำเป็นแตกต่างกัน
ปริมาณครีมกันแดดกับการป้องกันรังสี
ตามทฤษฎี ปริมาณครีมกันแดดที่จะทำให้การป้องกันตาม SPF (Sun Protection Factor) ที่ระบุว่า เราต้องใช้ครีมปริมาณ 2 มิลลิกรัม (มก.) ต่อพื้นที่ผิว 1 ตารางเซนติเมตร (ตร.ซม.)
สร้างสมดุลให้ผิวเรียบเนียนชุ่มชื้นแข็งแรง แบบ Perfect Smooth
ความสม่ำเสมอ หัวใจสำคัญของการดูแลผิว การทำทรีตเมนต์เพื่อผิวสวยสุขภาพดี และ ปรับรูปหน้า